แต่เนื้อหาออกจะมีประโยชน์กว่าบ่นอย่างเดียว
เลยขอแยกออกมาละกัน
================================================================
ว่าด้วย "โรคซึมเศร้า" กับตัวเอง
ราวๆสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านเขาเป็นห่วงกันซะเยอะ ต้องขอบคุณทุกๆคนจริงๆนะคะ
แต่ก็เนี่ยแหละที่เสริมสร้างความรู้ให้เราเพิ่มขึ้นประการหนึ่ง
นั่นก็เพราะที่บ้านเราเขาเป็นห่วงก็มาก
เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา เราได้ไปบ้านอีกหลังนึงที่เราไม่ค่อยได้ไป เราเลยพบว่าพี่สาวเราปรินท์เอกสารชุดนึงมาให้แม่อ่าน
ว่าด้วยเรื่อง
"โรคซึมเศร้า"
ใครจะไปคิดว่า พอได้นั่งอ่านแล้ว ถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นไอ้เจ้าโรคที่ว่านั่นเอง
นั่นก็เพราะที่บ้านเราเขาเป็นห่วงก็มาก
เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา เราได้ไปบ้านอีกหลังนึงที่เราไม่ค่อยได้ไป เราเลยพบว่าพี่สาวเราปรินท์เอกสารชุดนึงมาให้แม่อ่าน
ว่าด้วยเรื่อง
"โรคซึมเศร้า"
ใครจะไปคิดว่า พอได้นั่งอ่านแล้ว ถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นไอ้เจ้าโรคที่ว่านั่นเอง
โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นพวกค่อนข้างจะต่อต้านการแพทย์ตะวันตก เหอะๆ แถมไม่ชอบการที่ไม่ว่าอะไรต่ออะไรก็เอามาเรียกมันว่า "โรค" เหมือนกับว่าทุกคนอยากจะป่วยกันอย่างนั้นแหละ
แต่งวดนี้อ่านๆก็เห็นเขาเขียนว่า อาการซึมเศร้าที่รุนแรงนั้นเรียกว่า "โรค" เพราะทำให้การหลั่งฮอร์โมนภายในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวกับอารมณ์ผิดปกติ จึงเรียกมันว่า "โรค" รวมไปถึงมันยังทำให้พฤติกรรมและการทำงานบางอย่างของร่างกายผิดเพี้ยนไป อาทิเช่น หลบการเข้าสังคม ความอยากอาหารลด และยังต่างๆนานาที่รุนแรงได้ถ้าอาการของโรคเป็นหนักๆ
ได้มานั่งอ่านถึงได้รู้ว่าอาการของตัวเองเข้าข่ายโรคซึมเศร้าไปเต็มๆ อยู่ในขั้นกลางๆแล้วอีกต่างหาก
แถมพออ่านไปอ่านมาถึงได้รู้ว่า ตัวเองมีอาการของโรคซึมเศร้ามาแล้วน่าจะ 2-3 ครั้งในชีวิต แถมโรคที่ว่านี่ยังสามารถเกิดขึ้นได้อีกในคนที่เคยเป็นแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์ใหญ่ๆเรื่องสะเทือนในมากระทบ
แต่ก็นะ โรคทางใจมันก็น่าจะเป็นแล้วเป็นอีกได้น่ะแหละ วัคซีนอะไรมันไม่มีนี่ฟ่า
แต่งวดนี้อ่านๆก็เห็นเขาเขียนว่า อาการซึมเศร้าที่รุนแรงนั้นเรียกว่า "โรค" เพราะทำให้การหลั่งฮอร์โมนภายในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวกับอารมณ์ผิดปกติ จึงเรียกมันว่า "โรค" รวมไปถึงมันยังทำให้พฤติกรรมและการทำงานบางอย่างของร่างกายผิดเพี้ยนไป อาทิเช่น หลบการเข้าสังคม ความอยากอาหารลด และยังต่างๆนานาที่รุนแรงได้ถ้าอาการของโรคเป็นหนักๆ
ได้มานั่งอ่านถึงได้รู้ว่าอาการของตัวเองเข้าข่ายโรคซึมเศร้าไปเต็มๆ อยู่ในขั้นกลางๆแล้วอีกต่างหาก
แถมพออ่านไปอ่านมาถึงได้รู้ว่า ตัวเองมีอาการของโรคซึมเศร้ามาแล้วน่าจะ 2-3 ครั้งในชีวิต แถมโรคที่ว่านี่ยังสามารถเกิดขึ้นได้อีกในคนที่เคยเป็นแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์ใหญ่ๆเรื่องสะเทือนในมากระทบ
แต่ก็นะ โรคทางใจมันก็น่าจะเป็นแล้วเป็นอีกได้น่ะแหละ วัคซีนอะไรมันไม่มีนี่ฟ่า
ลักษณะของอาการก็คือการที่ซึมและก็เศร้าเนี่ยแหละ เพียงแต่ว่าระดับของความเศร้าจะรุนแรงกว่าปกติ และมีผลกระทบต่อความคิด บุคลิก และความประพฤติต่างๆ
ที่ต้องระวังของโรคนี้ก็คือ ห้ามคนใกล้ชิดกดดันใดๆ เพราะจะทำให้อาการหนักขึ้น แถมอาการอีกอย่างของคนเป็นโรคนี้คือ มองโลกในแง่ร้าย (- - ง่ะ เป็นปกติอยู่แล้ว...) และดูถูกตนเอง ซึ่งนำไปสู่ความคิดในการฆ่าตัวตายได้อีกต่างหาก (สารภาพว่าคิดไปแล้ว - -...)
ที่ต้องระวังของโรคนี้ก็คือ ห้ามคนใกล้ชิดกดดันใดๆ เพราะจะทำให้อาการหนักขึ้น แถมอาการอีกอย่างของคนเป็นโรคนี้คือ มองโลกในแง่ร้าย (- - ง่ะ เป็นปกติอยู่แล้ว...) และดูถูกตนเอง ซึ่งนำไปสู่ความคิดในการฆ่าตัวตายได้อีกต่างหาก (สารภาพว่าคิดไปแล้ว - -...)
ตอนแรกเราก็มองเรื่องโรคนี้เป็นเรื่องไกลตัวนะ แต่พอรู้ว่าคนรู้จักคนนึงเป็น ก็เลยเริ่มคิดว่าใกล้ตัวมากขึ้น แต่พอได้อ่านเอกสารนั้นแล้วถึงได้รู้ว่า จริงๆแล้วมันใกล้ตัวมากกว่าที่คิดเลย เพราะอาการเล็กๆน้อยๆก็จัดว่าเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้
ถึงได้เริ่มรู้สึกว่า ถ้ามันเป็น "โรค" (แต่จริงๆเราก็ไม่ค่อยคิดแบบนั้น) เราก็น่าจะหันมาใส่ใจเวลาที่คนรอบข้างเราเสียใจให้มากขึ้น เพราะมันอาจจะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าก็ได้
ถึงได้เริ่มรู้สึกว่า ถ้ามันเป็น "โรค" (แต่จริงๆเราก็ไม่ค่อยคิดแบบนั้น) เราก็น่าจะหันมาใส่ใจเวลาที่คนรอบข้างเราเสียใจให้มากขึ้น เพราะมันอาจจะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าก็ได้
วิธีการรักษาก็คือการใช้ยาหรือการบำบัดทางจิต...
แน่นอนล่ะว่าคนที่ไม่ชอบการแพทย์ตะวันตกก็ย่อมจะไม่ชอบการใช้ยาหรอก - -+ ส่วนการบำบัดทางจิตเป็นเรื่องที่เราเห็นว่ายากเหมือนกันกับการที่เราจะต้องไปเปิดใจกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย ให้คนที่เราไม่สนิทใจมาเป็นคนแก้ปัญหาเนี่ย
วิธีอีกวิธีนึงที่น่าจะใช้ได้ก็อาจจะเป็นการเข้าหาศาสนา (ที่คิดจะไปเหมือนกัน)
แต่อะไรๆ ดูเหมือนว่าวิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือการรักษาทางใจแหละเนอะ แต่การรักษาของแต่ละคนก็น่าจะต่างกันออกไปล่ะมั้ง
สำหรับตัวเองเหรอ...?
สรุปแล้วตรูหายยังฟะเนี่ย?
ตัวเราเองก็คงแค่ เรามีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึงอยู่ มีอุดมการณ์ที่อยากให้เป็นจริง และเรามีคนที่เราเป็นห่วงจนไม่อาจจะหนีไปได้ง่าย ก็คงฟื้นมาได้ด้วยความคิดแค่นี้ล่ะมั้ง
แน่นอนล่ะว่าคนที่ไม่ชอบการแพทย์ตะวันตกก็ย่อมจะไม่ชอบการใช้ยาหรอก - -+ ส่วนการบำบัดทางจิตเป็นเรื่องที่เราเห็นว่ายากเหมือนกันกับการที่เราจะต้องไปเปิดใจกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย ให้คนที่เราไม่สนิทใจมาเป็นคนแก้ปัญหาเนี่ย
วิธีอีกวิธีนึงที่น่าจะใช้ได้ก็อาจจะเป็นการเข้าหาศาสนา (ที่คิดจะไปเหมือนกัน)
แต่อะไรๆ ดูเหมือนว่าวิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือการรักษาทางใจแหละเนอะ แต่การรักษาของแต่ละคนก็น่าจะต่างกันออกไปล่ะมั้ง
สำหรับตัวเองเหรอ...?
สรุปแล้วตรูหายยังฟะเนี่ย?
ตัวเราเองก็คงแค่ เรามีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึงอยู่ มีอุดมการณ์ที่อยากให้เป็นจริง และเรามีคนที่เราเป็นห่วงจนไม่อาจจะหนีไปได้ง่าย ก็คงฟื้นมาได้ด้วยความคิดแค่นี้ล่ะมั้ง
แถมhttp://www.thailabonline.com/mental-depress.htm
ลองไปอ่านกันดูได้ถ้าว่างๆ เพราะเราคิดว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวขึ้นมาเยอะแล้วล่ะ สำหรับโรคนี้ แถมยังมีอัตราของคนที่เป็นโรคนี้สูงขึ้นเรื่อยๆทุกปีอีกต่างหาก
ลองไปอ่านกันดูได้ถ้าว่างๆ เพราะเราคิดว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวขึ้นมาเยอะแล้วล่ะ สำหรับโรคนี้ แถมยังมีอัตราของคนที่เป็นโรคนี้สูงขึ้นเรื่อยๆทุกปีอีกต่างหาก
แถมไร้สาระอีกเรื่อง...
(อันนี้เป็นกำลังใจอยู่อย่างลับๆ เหอะๆ)

前の時みたいに 「辞退しろ」とか言わないんですね...
(ไม่บอกว่า "ถอนตัวไปซะ" เหมือนเมื่อก่อนเหรอคะ)
言って欲しいの?
(อยากให้พูดงั้นเหรอ?)
...そういうわけじゃないですけど
(... ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ)
ふぅん?
(หือ?)
でも...そんな表情した人には
(แต่ว่า... กับคนที่ทำหน้าแบบนั้นน่ะ)
(อันนี้เป็นกำลังใจอยู่อย่างลับๆ เหอะๆ)

前の時みたいに 「辞退しろ」とか言わないんですね...
(ไม่บอกว่า "ถอนตัวไปซะ" เหมือนเมื่อก่อนเหรอคะ)
言って欲しいの?
(อยากให้พูดงั้นเหรอ?)
...そういうわけじゃないですけど
(... ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ)
ふぅん?
(หือ?)
でも...そんな表情した人には
(แต่ว่า... กับคนที่ทำหน้าแบบนั้นน่ะ)

言ってあげないよ
(ชั้นไม่พูดให้หรอก)
เพราะงั้นเลยต้องพยายามให้มากกว่านี้สินะเรา - -+~!
柚木先輩のために~(?)
柚木先輩のために~(?)
อ้อ เกือบลืมไป สุขสันต์วันปีใหม่ไทยทุกท่านค่ะ
No comments:
Post a Comment