Sunday, October 20, 2013

[exteen backup] [Haruka3] CD Drama "Minori no Aki" from Kagetsu no Yoi

ไปๆมาๆเหมือนกลายเป็นบ๊อกๆ neoromance ไปซะแล้วแหะ...
รู้สึกเหมือนปีนี้เป็นปีทองของ neoromance ไงไม่รุ้ ทำอนิเมกันใหญ่ แล้วก็ได้ฤกษ์หาทางหากินกันไม่หยุด ไอ้ตัวเราเองก็พึ่งได้ดูอนิเม Angelique เมื่อวาน พึ่งได้หนังสือ corda มาวันนี้ (ยังไม่ได้อ่านเลยเนี่ย) ที่บ้าสุดๆคือ เมื่อคืนด้วยความที่อยากเจอะโทโมะคุง ไม่ได้เจอกันนาน ก็ไปนั่งเปิด Izayoiki แต่ไหงมันโหลดติดๆขัดๆแล้วค้างไปเลย TT-TT สงสัยต้องยกเครื่องไปร้านอีกแล้ว ก็เลยมานั่งเปิด Unmei no Labyrinth แทน มานั่งเล่นต่อจากที่เคยเล่นไว้แค่เจอโทโมะกะชิโระแล้วก็เลิก (เพราะอยากเล่น Izayoiki ให้จบหมดก่อน) ปรากฏว่าเล่นแล้ว...
ติด!!
รู้สึกเนื้อเรื่องมันชวนติดต๊ามมมติดตาม นั่งเล่นจนจบไปรอบนึง ก็เลยมานั่งเล่นฮิโนเอะอีกรอบ เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงสิ่งนั้นที่เขาทำในวันคริสต์มาส...
สรุป... เมื่อคืนเล่นถึง 6 โมงเช้า... - -".... จบธรรมดาไปหนึ่ง จบฮิโนเอะไปหนึ่ง...
เอ่อ... ได้ยินว่ามีนัดเพื่อนตอน 9 โมงเช้า...
เข้าเรื่องๆ เนื่องจากว่าอู้ติดค้างมาหลายงวด ไม่อยากค้างไปมากกว่านี้อ่ะนะ มันรู้สึกไม่ดีต่อตัวเอง ผลัดวันประกันพรุ่งไม่ดีนะจ้ะ~~
ส่วนรูปแบบก็คงเล่าเรื่องแหละ เพราะลองแกะคำต่อคำดูแล้ว พบว่าตัวเน่าสนิทนอนเป็นศพอยู่หน้าคอม
ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า~
Drama Haruka naru toki no naka de 3 - Minori no Aki 実りの秋 from CD "Kagetsu no Yoi 花月の宵" (หรือที่เราเคยเรียกไว้ว่า "ทำไร่ไทระ" นั่นเอง ^-^~v)


หมายเหตุ1 : ตรงความเห็นจะทำไฮไลท์อีกสีนะจ้ะ ถ้าไม่อยากขัดใจอ่านเรื่องกำลังสนุกแล้วเจอคนบ้าบ่น ก็อ่านข้ามสีๆไปก็ได้
หมายเหตุ2 : เนื้อเรื่องนี้เกิดก่อนจะเริ่มเรื่องราวในเกม คือตอนที่มาซาโอมิหลุดไปโลกโน้นแล้ว แต่นางเอกยังไปไม่ถึง(มั้ง) เพราะเป็นเรื่องก่อนสงครามเกมเปย์จะบานปลายจนถึงจุดจบ(ซึ่งก็คือในตอนท้ายของเกม)
หมายเหตุ3 : เนื้อหามัน spoiled เหมือนกัน เรื่องตัวจริงของอาสึโมริและหลายๆคนในไทระ ถ้าใครยังไม่รู้และไม่อยากรู้ก็อย่าอ่านนะ หุๆ
เปิดเรื่องมาด้วยเสียงเพลงสั้นๆ จากนั้นเราก็จะได้ยินเสียงขุดดินตามมา... ถ้าฟังแล้วจำกันได้ก็จะรู้ว่าเป็นเสียงมาซาโอเมี้ยว~ หลังจากขุดก๊อกแก๊กๆไปพักเดียวก็ขุดไปเจอก้อนหินก้อนนึง มาซาโอมิก็เลยต้องขุดเอามันออกมา ว่าแล้วมาซาโอมิก็หันกลับไปถามคนที่อยู่ด้วยกันด้วย
"สึเนมาสะ ทางโน้นเป็นไงบ้าง"
แต่พอสึเนมาสะหันมา มาซาโอมิก็ขำก๊ากออกมา เพราะหน้าของสึเนะมาสะเลอะไปหมด พอหัวเราะเสร็จทั้งสองคนก็เริ่มทำมาหากิน เอ๊ย ทำงานต่อ แล้วก็เริ่มคุยกัน 
สึเนมาสะทักว่ามาซาโอมิใช้จอบได้ถนัดดีจัง ส่วนตัวเองยังไม่เอาไหนเลยเพราะพึ่งเคยจับจอบครั้งแรกในชีวิต มาซาโอมิก็ตอบว่าที่ใช้ถนัดก็เพราะช่วงนี้มันไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำ และก็เคยได้ทำสวนตอนอยู่ประถม คือ ปลูกทิวลิป สึเนมาสะก็เลยถามต่อไปว่าทิวลิปคืออะไร ของกินได้รึเปล่า มาซาโอมิก็ตอบว่า กินไม่ได้ เป็นดอกไม้อาหารตาเฉยๆ 
แล้วมาซาโอมิก็เล่าต่อไปว่าตอนอยู่อนุบาลก็มีปลูก 芋 imo (มัน? รึเปล่าหว่า) และก็ปิ๊งขึ้นมาว่า มาปลูก 薩摩芋 satsumaimo (มันแปลว่า sweet potato อ่ะ มันคืออะไรหว่า ไม่แน่ใจ รู้แต่เป็นจำพวกมัน)กันดีกว่า ถ้าเป็นอีนี่ล่ะก็กินอิ่มเร็วดี แต่สึเนมาสะกลับมึนว่ามันคืออะไร มาซาโอมิเลยเก็ทว่าที่โลกนี้ไม่มี 薩摩芋 ก็เลยถามว่าจะปลูกไรกันดีล่ะ
"ว้ากก" พลั่ก...
เสียงโคเรโมริลอยมาพร้อมเลยล้มโครม มาซาโอมิหัวเราะแล้วก็ถามโคเรโมริว่าเป็นอะไรรึเปล่า ส่วนโคเรโมริมาถึงก็ฉอดเลย ประมาณว่ารับไม่ด้าย ที่เชื้อสายไทระจะต้องมาเปื้อนดินเปื้อนโคลนใต้ท้องฟ้าแดดแจ่มอร่ามขนาดนี้ มาซาโอมิก็ตอบ "ช่วยไม่ได้ก็มันไม่มีของจะกินนี่นา"
โคเรโมริดันตอบว่า "เงียบไปเลย อาริคาวะ มาซาโอมิ (ทำไมเอร็งต้องเรียกซะเต็มยศขนาดนั้นเนี่ยยย) ที่นี่ไม่มีที่ให้เจ้าออกความเห็น" แล้วก็พูดประมาณว่า งานแบบนี้ปกติก็ให้พวกชั้นต่ำทำอยู่แล้ว
สึเนมาสะเลยออกตัวมาช่วยว่าก็เข้าใจความรู้สึกของท่านโคเรโมริอยู่ แต่พวกเราที่โดนไล่(ใช่ป่าวหว่า)ออกจากเมืองหลวง สบงเสบียงอะไรก็ไม่มี โคเรโมริตอบกลับว่า ไม่ต้องพูดก็รู้อยู่แล้วล่ะน่ะถึงได้รับไม่ได้ไง เมื่อไหร่เรื่องแบบนี้จะจบซะที "ไอ้ความร้อนขนาดนี้ก็ไม่น่ารื่นรมย์เสียเลย!"
เสียงน้ำสาดลงมา... โคเรโมริก็โวยวายอีกตามเคย
"ขอโทษที มือมันลื่น..." (>__<~v น่ารักจังเลยค่า~ มาหยุดอีตาบ้าโคเรโมริได้พอดี๊พอดี คำพูดใครน่าจะพอเดากันได้นะ หุๆ เจ้าของบ๊อกๆเชียร์ซะขนาดนี้)
"ท.. ท่านโทโมโมริ" โคเรโมริก็เรียกชื่อจำเลยออกมา
"แต่ก็ทำให้หัวที่ร้อนเกินไปเย็นลงได้พอดีเลยหนิ" ( >__<~v ชร่ายๆ เห็นด้วยๆ)
มาซาโอมิก็แอบกระซิบว่า เฮ้ย ไม่ทำเกินไปเหรอฟะ 
โทโมะเลยใช้ไม้ตาย "ข้าไปตักน้ำมา... เจ้าไม่เอาสินะ"
มาซาโอมิโดนจี้จุดตายสิ ขุดดินมาเหนื่อยๆ มีน้ำมาก็ต้องเอาสิฟะ "ยังไม่มีใครบอกเลยว่าไม่เอาซะหน่อย" ส่วนสึเนมาสะก็ขอกินด้วยคน
"เชิญ... ตามสะดวก" ( >__<~v )
พอได้ดื่มน้ำตอนเหนื่อยๆ สึเนมาสะก็เลยว่าว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าน้ำจะอร่อยได้ถึงขนาดนี้ ส่วนมาซาโอมิก็ขอบใจโทโมโมริที่ไปตักน้ำมาให้
"ข้าไม่ได้ทำอะไรที่ต้องมาขอบคุณ" (- -+ หึหึ ใช่ซี้ อิชั้นว่าคุณหนีไปตักน้ำเพราะหนีงานทำไร่ใช่มั้ยเคอะ หุๆ)
พอดื่มน้ำเสร็จ มาซาโอมิก็เลยจะลุยงานต่อ ด้วยเหตุที่ว่า ถ้าตัวเองไม่ทำอะไร ก็จะไม่มีอะไรกินสิ แถมยังจะลากโทโมะคุงไปทำงานด้วยอีกต่างหาก 
"เฮ้ย นายเองก็มาช่วยด้วยสิ โทโมโมริ"
"ไม่มีอะไรกินงั้นรึ... น่าเบื่อ..."
"ถ้าเบื่อล่ะก็ มาช่วยกันหน่อยสิ ถ้าไม่ขยับตัวซะบ้าง ร่างกายมันจะทื่อลงนะ"
"หึ.... ใช้คนอื่นได้โหดร้ายจริงนะ..."
ว่าแล้วมาซาโอมิก็ฮึดลุยงานอยู่คนเดียว 
(สึเนมาสะก็คงอยู่ช่วยมั้ง แต่คงไม่ฮึดไปกะเขาด้วยหรอก หุๆ)
(รู้สึกว่าจะตัดเวลาไปอีกช่วงนึงเลย)
มีเสียงดนตรีแบบญี่ปุ่นพื้นบ้านๆประกอบ โคเรโมริเลยถามว่านั่นเสียงอะไรเจื้อยแจ้วเจรจามาเชียว โทโมะคุงก็เลยตอบว่าเป็นเสียงงานเทศกาลของหมู่บ้าน ท่าทางปีนี้จะพืชผลจะงอกงามดี (ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องพวกนี้โทโมะคุงจะรู้ดีขนาดนี้ วี๊ดๆ >__<~) โคเรโมริเลยบ่นว่าพวกบ้านนอกแบบนี้ชอบใช้วันๆผ่านไปแบบไร้ประโยชน์ (คิดว่าประมาณนี้นะ)
แต่โทโมะคุงก็เข้ามาเปลี่ยนเรื่อง "ท่าทางทางนี้พืชผลก็งอกงามดีเหมือนกันนะ ดูนี่"
มาซาโอมิเห็นเข้าก็ร้องโอ้โหทันทีไปกับน้องไชเท้าขนาดบิ๊กเบิ่ม แล้วก็เข้าไปดึงหัวไชเท้า แต่ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนไปล้มโครมก้นกระแทกพื้นเสียนี่ แต่ก็ยังฉุดมันขึ้นมาได้ จากนั้นก็หัวเราะกับรูปทรงพิลึกๆของหัวไชเท้าคุง (พืชที่ปลูกตามยถาหกรรมบางทีรูปร่างมันจะเบี้ยวๆนะจ้ะ) แต่เจ้าโคเรโมริโพล่งออกมาทันทีว่าอะไรเนี่ยรูปร่างน่าเกลียด แถมเน้นเสียงที่คำว่าน่าเกลียดอีกต่างหาก มาซาโอมิก็สวนกลับไปว่าอย่ามาบ่นเรื่องรูปร่างของไชเท้าเลยน่า เอาใส่ปากเข้าไปก็เหมือนๆกัน โทโมะคุงก็พูดว่าใช่ๆ มาซาโอมิเลยลุยต่อว่า "เข้าใจแล้วพวกนายก็ลองมาทำดูบ้างสิ"
"บางทีก็ต้องขยับเนื้อขยับตัวบ้างงั้นสินะ..." ว่าแล้วโทโมโมริก็ลงมือ"ฉุด"หัวไชเท้าพร้อมเสียงประกอบ พรวดเดียวอยู่ เล่นเอามาซาโอมิทึ่ง "จริงง่ะ..." โทโมโมริก็ตอบกลับแบบกวนประสาทว่า "ไม่ทราบว่าทำให้ท่านพอใจได้รึเปล่า" แล้วอีตาโคเรโมริก็เข้ามาแจมประมาณว่า ยอดเยี่ยมจริงๆ สมกับเป็นสายเลือดของไทระ ไม่เหมือนพวกคนนอกบางคน (แกรจะกัดมาซาโอมิน่ะ เข้าใจ แต่อีฉุดไชเท้าเปรี้ยงเดียวขึ้นเนื่ยมันถึงขั้นต้องสายเลือดไทระเลยเรอะ - -... ) แต่มาซาโอมิก็ไม่สนใจ หันไปพูดกับโทโมะคุงว่า "โทโมโมริ นายนี่มีพรสวรรค์แบบแปลกๆนะ" (อีตานี่ก็อีกคน ฉุดหัวไชเท้าเป็นพรสวรรค์ด้วยเรอะ โทโมะคุงไม่ตอบล่ะว่าพรสวรรค์ในการ "ฉุดสาว" ก็มี อีกเดี๋ยวเพื่อนสมัยเด็กเจ้าก็ต้องเสร็จข้าด้วย กร๊ากกกกกกกกกกกก)แล้วสึเนมาสะก็วิ่งกระหืดกระหอบมาพร้อมกับเรียกให้ดูผลงานของตัวเอง "ถั่ว"... มาซาโอมิก็ชมว่าได้มาเพียบไม่เบา แล้วก็คิดถูกแล้วที่ให้สึเนมาสะช่วย
(เฮ่อออ ถึงช่วงนี้เริ่มขี้เกียจฟังแล้วง่ะ โทโมะคุงไปแล้วๆ)
ตัดมาอีกฉากเป็นอาสึโมริที่คิดว่าถูกขังอยู่ เสียงโซ่กรุ๊งกริ๊งๆ 
"อาสึโมริ จะเข้าไปล่ะนะ"
"ท่านพี่..."
สึเนมาสะมาเยี่ยมเยียนไต่ถามสารทุกข์สุกดิบของน้องตัวเอง อาสึโมริเลยถามว่าข้างนอกทำไมเสียงดังกันจัง สึเนะมาสะเลยพูดถึงเรื่องทำไร่ไทระ แล้วก็บอกว่าอยากเอาผลผลิตของคราวนี้มาให้อาสึโมริได้ดูด้วย ว่าแล้วก็ขนออกมาให้ยลกัน
"ถั่ว... กับหัวไชเท้ารึครับ"
สึเนมาสะเลยบอกว่าถึงภายนอกจะดูไม่ดี แต่ก็เป็นของกินสำคัญที่ทุกคนปลูกขึ้นมา
อาสึโมริก็เลยว่าว่าไทระเปลี่ยนไป ถึงถูกไล่มาอยู่ที่แบบนี้แต่กลับได้ยินเสียงที่ร่าเริงของทุกคนได้เพราะมาซาโอมิ แล้วก็เริ่มว่าร้ายตัวเองตามปกติจนคุณพี่ชายต้องห้ามและบอกว่า "ความเจ็บปวดของเจ้า พี่ชายคนนี้รู้ดีที่สุด" อาสึโมริก็บอกว่าพี่ชายมีสิ่งที่ทำให้เป็นคนแล้ว ไม่เหมือนกับตัวเอง คุณพี่ก็บอกว่าเพราะมีชิ้นส่วนของมากาตามะ (หินหยดน้ำ หนึ่งใน3เครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่ไทระเอาไป)ถึงอยู่แบบนี้ได้ อาสึโมริเลยย้ำว่า จริงๆแล้วสึเนมาสะก็กลัวเหมือนกันเหรอ ที่สักวันหนึ่งจะคุมสติไม่อยู่และกลายเป็นเหมือนสัตว์ป่าไป สึเนมาสะเลยบอกว่า ไม่ใช่แค่ตัวเองหรอก แต่ทุกคนที่กลายเป็นองเรียวก็กลัวกันทั้งนั้น และสึเนมาสะก็บอกกับอาสึโมริว่า แม้ว่าจะกลายเป็นองเรียว แต่ก็อย่าลืมว่าตนเองเป็นไทระ 
แล้วสึเนมาสะเลยบอกต่อไปว่าให้ทำใจดีๆก่อนฟัง ตอนนี้ไทระจะโดนตามล่าอีกแล้วรู้สึกจะโยชินากะที่น่าจะเป็นกองหลังให้ไทระกำลังโดนรุกไล่อยู่ (ฟังก็ไม่ค่อยเคลียร์ ประวัติศาสตร์ก็ไม่รู้ เอามันสั้นๆแค่นี้ละกัน งุ)และอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ไทระจะเผ่นต่อไปถึงยาชิมะทางตะวันออก เพื่อไปรวมกำลังและกลับมารับโยชินากะ อาสึโมริเลยถามต่อไปว่า งี้ท่านพี่ก็ต้องออกสู่สนามรบน่ะสิ คุณพี่ชายก็ตอบรับแถมดันบอกว่าข้าก็เจ็บปวดที่ต้องทิ้งเจ้าไว้แล้วไป แต่นี่ก็เพื่อตระกูล อาสึโมริเลยว่าว่าตัวเองทำให้ตระกูลเสียเกียรติ์ ถ้าหากว่าตัวเองพอจะทำอะไรได้บ้างก็ขอให้นำตนเองออกศึกด้วย สึเนมาสะเลยว่าว่าอย่าด่วนใจร้อนไป การรอคอยอดทนจนกว่าจะถึงเวลาที่ตนเองสำคัญเป็นที่ต้องการจริงๆก็เป็นเรื่องสำคัญ (รอจนถึงเวลาที่มิโกะจะมาล่อลวงรึ - -+) สึเนมาสะเลยจะเล่นบิวะให้อาสึโมริ แต่อาสึโมริรู้สึกว่าจะเอาแต่เป็นภาระให้คุณพี่ชายไม่ได้ เลยบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงแล้วก็อวยพรให้โชคดีในการศึก
(.... คุณๆที่อ่านอยู่ รู้สึกไหมคะว่ามันวายๆไงชอบกล พี่น้องคู่นี้ รักกันดีจริงๆ....)
ตัดฉากมาอีกที น่าจะเป็นตอนกลางวันของวันเดียวกันไม่ก็วันรุ่งขึ้น
"สงครามอีกแล้วรึเนี่ย..." มาซาโอมิก็กำลังนอนบ่นอยู่ แล้วก็มีเสียงคนเดินมา "...โทโมโมริ.."
"ขอโทษ รบกวนเวลานอนกลางวันของเจ้ารึเปล่า... ท่านพี่ชิเงโมริ..." (ชิเงโมริคือชื่อของคนที่มาซาโอมิเข้ามาสวมรอยในไทระโดยไม่ได้ตั้งใจ หารายละเอียดอ่านได้ในเอนทรี่ก่อนๆว่าด้วยฉากจบของมาซาโอเมี้ยว)"เลิกเรียกแบบนั้นซะทีเหอะ ฟังแล้วรู้สึกไม่ดี"
แล้วก็คิดว่าโทโมโมริน่าจะนั่งลงข้างๆ
"เป็นคำพูดที่เย็นชาเสียจริง ไม่เห็นเจ้าจะห้ามคนอื่นบ้างเลยว่า 'เลิกเรียกว่าคาเอริไนฟุซะที' " (คาเอริไนฟุเป็นสมญาของมาซาโอมิ หารายละเอียดอ่านได้ในเอนทรี่ก่อนๆว่าด้วยฉากจบของมาซาโอเมี้ยว)"กับคนที่อยากเรียก พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ แล้วก็ช่วยไม่ได้นี่ เพราะจำเป็นต้องมี 'คาเอริไนฟุ' "
"หึ... ที่จำเป็นน่ะ ต่อไทระ หรือต่อตัวเจ้าเอง"
มาซาโอมิก็ตอบว่าทั้งสองอย่างนั่นแหละ และบอกว่าเมื่อสงครามเริ่ม อะไรเอามาใช้ได้ก็จะเอามาใช้ให้หมด แล้วก็เริ่มคิดเองคนเดียวว่า ไทระจะล่มสลาย แต่ตัวมาซาโอมิจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น แม้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ก็ตาม ส่วนเจ้าโทโมโมริก็บอกว่าเอาเหอะ ถ้ามาซาโอมิจะเป็นธุระให้ตระกูลก็โอเค
มาซาโอมิก็เลยบ่นซะ "นายเองก็ บางครั้งก็สู้แบบเอาจริงเอาจังบ้างสิเฟ้ย" 
โทโมะก็ดันตอบว่า "งั้นก็พยายามทำให้ข้าไม่เบื่อล่ะกัน ท่านคาเอริไนฟุ..."
-------------------------------------
จบแล้วค่าาาาา เฮ่อออ เหนื่อยจัง เล่าเรื่องนี่มันยากกว่าฟังเองแล้วรู้เรื่องนะเนี่ย ก็ประโยคในเรื่องก็คือพวกที่แปลแล้วค่อนข้างแน่ใจนะ แล้วก็ถึงจะเล่าละเอียดแต่ก็ไม่ได้แปลทุกช๊อต เพราะบางจุดที่ไม่ค่อยแน่ใจ ไม่ได้ ข้ามๆไปก็มีนิดหน่อย 
สังเกตได้ว่าประโยคโทโมะคุงจะเยอะกว่าชาวบ้าน อุๆ ส่วนเรื่องช่วงอาสึโมริกับสึเนมาสะจะน้อย อิอิ เอาน่า เอาใจเจ้าของบ๊อกๆหน่อยล่ะเนอะ
ฟังจบแล้วรู้สึกว่า Harvest moon Taira version ไงไม่รุ้ อุๆ มีปลูกผัก มีเก็บผัก มีเอาผักไปเซ่นสาว(เอาไปฝากน้อง - -+) แต่ชอบแทรคนี้ค่าาาาาาาาา น่ารักมากๆเลย โทโมะดึงไช้เท้าๆ มีคนญี่เก็บเอาไปคิดต่อีกแน่ะว่า "ดึงทีเดียวไชเท้าหลุดออกมาจากดิน สงสัยขากับสะโพกโทโมะต้องแข็งแรงมากแน่ๆเลย โดยเฉพาะอย่างหลัง..." โธ่คุณแม่คุณเจ้า คิดกันได้นะคะเนี่ยยย >////<
งวดหน้าถ้ามีคนสนใจ อาจจะได้มาลง CD Drama อีก ถ้ามีคนทนรับการแปลและการเล่าเรื่องแบบนี้ได้นะ อิ - -+

No comments:

Post a Comment