แบบว่าแต่งฟิคแก้เบื่อไปเรื่องนึง
ซึ่ง... มันก็แก้เบื่อได้เล็กน้อยเองล่ะนะ
ก็เริ่มรู้ตัวว่า เพราะอาการโรคซึมมันไม่ได้หาย 100% ตอนนี้พอมีเรื่องเครียดๆเข้ามา มันก็เลยเริ่มผสมกันให้ชีวิตมันยุ่งเหยิง
จะพยายามแก้ตัวใหม่ล่ะนะ
ใครพบใครเจอเราทำอะไรไม่ดีล่ะก็ ฝากด่า ฝากตีหัวเลยละกัน
ซึ่ง... มันก็แก้เบื่อได้เล็กน้อยเองล่ะนะ
ก็เริ่มรู้ตัวว่า เพราะอาการโรคซึมมันไม่ได้หาย 100% ตอนนี้พอมีเรื่องเครียดๆเข้ามา มันก็เลยเริ่มผสมกันให้ชีวิตมันยุ่งเหยิง
จะพยายามแก้ตัวใหม่ล่ะนะ
ใครพบใครเจอเราทำอะไรไม่ดีล่ะก็ ฝากด่า ฝากตีหัวเลยละกัน
ว่าแล้วก็ลงฟิค
เป็น Odai ที่เรากระแดะคิดขึ้นเอง ใครจะเอาไปใช้ก้ได้นะคะ ลงชื่อไว้นิ๊ดก็พอ
หลักๆก็แค่ แต่ง 5 เรื่องโดยใช้ธีมจากคำที่ขึ้นต้นด้วย A, I, Shi, Te และ Ru แต่ง 5 เรื่องไม่ต้องยาวมากแต่เนื้อเรื่องมีความต่อเนื่องกันในระดับหนึ่ง เช่นของเราที่ไล่ไทม์ไลน์ ถ้าใครไม่มีความรู้ญี่ปุ่นก็เอา 5 ประโยคที่เราใช้ไปใช้ต่อเลยก็ได้เน้อ
ว่าแล้วก็ลงฟิคเลยดีกว่า
เป็น Odai ที่เรากระแดะคิดขึ้นเอง ใครจะเอาไปใช้ก้ได้นะคะ ลงชื่อไว้นิ๊ดก็พอ
หลักๆก็แค่ แต่ง 5 เรื่องโดยใช้ธีมจากคำที่ขึ้นต้นด้วย A, I, Shi, Te และ Ru แต่ง 5 เรื่องไม่ต้องยาวมากแต่เนื้อเรื่องมีความต่อเนื่องกันในระดับหนึ่ง เช่นของเราที่ไล่ไทม์ไลน์ ถ้าใครไม่มีความรู้ญี่ปุ่นก็เอา 5 ประโยคที่เราใช้ไปใช้ต่อเลยก็ได้เน้อ
ว่าแล้วก็ลงฟิคเลยดีกว่า
ปล. มีเรื่องนึงที่ติดเรท เราจะไม่พูดว่าห้ามเด็กอ่าน เพราะอายุไม่ได้กำหนดคุณภาพของคน แต่อยากให้คนอ่านรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ก็พอ ไม่ว่าคุณจะอายุมากหรือน้อยกว่า 18
(จะทำม่านแห่งคุณธรรมไว้ กด Ctrl+A ในการอ่าน)
(กรอด...จะจัดหน้า มัน tab ไม่ได้เรอะ งอลล์)
(กรอด...จะจัดหน้า มัน tab ไม่ได้เรอะ งอลล์)
Kin iro no Corda - Fan Fiction
Yunoki Azuma x Hino Kahoko
あ い し て る お題
Yunoki Azuma x Hino Kahoko
あ い し て る お題
あ 愛という言葉 - 日野語り - The word "Love" by Hinoมีคนเคยพูดเอาไว้...
ว่าความรักนั้นช่างอ่อนหวาน
ความรักนั้นช่างอ่อนโยน
และความรักนั้นช่างอบอุ่น
แต่ตอนที่ฉันได้เรียนรู้ความรักของฉัน
...มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...
ฉันนั่งนึกอยู่อย่างนั้น ในขณะที่กำลังเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าฤดูใบไม้ร่วงที่มีสายลมเย็นพัดผ่าน ผืนฟ้ายามเย็นค่อยเปลี่ยนสีเป็นสีส้มอ่อนๆ เมฆสีขาวบริสุทธิ์ก็ถูกระบายด้วยสีส้มเช่นกัน เบื้องล่างด้านนอกของหน้าต่างเป็นทางเดินออกไปยังประตูใหญ่ของโรงเรียนที่มีนักเรียนทั้งแผนกปกติและแผนกดนตรีจำนวนไม่มากนักเดินสวนกันไปมา
เมื่อไล่สายตาไป ก็พบกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยนักเรียนหญิง
ฉันถอนหายใจเบาๆหนึ่งที พร้อมกับภาพของคนที่อยู่ตรงกลางวงล้อมที่ผุดขึ้นมาในหัว
"ต้องเป็นกลุ่มของรุ่นพี่แน่ๆ"
ฉันเปลี่ยนท่าไปนั่งฝุบอยู่กับขอบหน้าต่าง มองดูกลุ่มคนเหล่านั้น
ในกลุ่มนั้นมีแต่สาวๆที่ฉันคุ้นหน้า จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า นั่นเป็นกลุ่มของ "สาวก" ของรุ่นพี่จริงๆ
ฉันมองไปยังผู้ชายเพียงคนเดียวที่อยู่ตรงกลางวงนั้น
แต่ในวินาทีนั้นเองที่เขาก็หันกลับมามองราวกับว่าเขารู้สึกได้ถึงสายตาของฉัน
เขาส่งยิ้มมาให้อย่างแสนอ่อนโยน
แต่สำหรับฉัน ฉันรู้ว่านั่นคือสัญญาณที่แปลว่า
"รีบๆลงมาหาฉันซะ"
ฉันรีบลุกขึ้นเก็บของแล้วลงจากตึกอย่างรวดเร็ว
ด้านหน้าของโรงเรียนมีรถคันหรูจอดอยู่
ฉันรู้ว่านั่นคือรถของเขา
เขายืนรอฉันอยู่ด้วยรอยยิ้มที่ "สมบูรณ์แบบ" ที่เขาแสดงให้กับใครๆ
แต่พอฉันเดินเข้าไปใกล้เขา
ในมุมที่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครสังเกต
"ตัวตน" ของเขาก็ก้าวออกมา
"ถึงกับให้ฉันต้องรอ เธอเองก็กล้าขึ้นนี่..."
จากนั้นเขาโน้มศีรษะลงเพื่อกระซิบที่ข้างหูของฉัน
"...คาโฮโกะ..."
ฉันก้าวถอยออกด้วยความรู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งตัว
แต่เขากลับสวมหน้ากากกลับไปอย่างเดิมและยื่นมือข้างหนึ่งมาข้างหน้า
"มาสิ คุณฮิโนะ นี่ก็เย็นแล้ว ให้ผมส่งเธอถึงบ้านเลยนะ"
ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะตอบเขากลับไป
"อะ... ค่ะ รุ่นพี่ยูโนะคิ..."
ว่าความรักนั้นช่างอ่อนหวาน
ความรักนั้นช่างอ่อนโยน
และความรักนั้นช่างอบอุ่น
แต่ตอนที่ฉันได้เรียนรู้ความรักของฉัน
...มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...
ฉันนั่งนึกอยู่อย่างนั้น ในขณะที่กำลังเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าฤดูใบไม้ร่วงที่มีสายลมเย็นพัดผ่าน ผืนฟ้ายามเย็นค่อยเปลี่ยนสีเป็นสีส้มอ่อนๆ เมฆสีขาวบริสุทธิ์ก็ถูกระบายด้วยสีส้มเช่นกัน เบื้องล่างด้านนอกของหน้าต่างเป็นทางเดินออกไปยังประตูใหญ่ของโรงเรียนที่มีนักเรียนทั้งแผนกปกติและแผนกดนตรีจำนวนไม่มากนักเดินสวนกันไปมา
เมื่อไล่สายตาไป ก็พบกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยนักเรียนหญิง
ฉันถอนหายใจเบาๆหนึ่งที พร้อมกับภาพของคนที่อยู่ตรงกลางวงล้อมที่ผุดขึ้นมาในหัว
"ต้องเป็นกลุ่มของรุ่นพี่แน่ๆ"
ฉันเปลี่ยนท่าไปนั่งฝุบอยู่กับขอบหน้าต่าง มองดูกลุ่มคนเหล่านั้น
ในกลุ่มนั้นมีแต่สาวๆที่ฉันคุ้นหน้า จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า นั่นเป็นกลุ่มของ "สาวก" ของรุ่นพี่จริงๆ
ฉันมองไปยังผู้ชายเพียงคนเดียวที่อยู่ตรงกลางวงนั้น
แต่ในวินาทีนั้นเองที่เขาก็หันกลับมามองราวกับว่าเขารู้สึกได้ถึงสายตาของฉัน
เขาส่งยิ้มมาให้อย่างแสนอ่อนโยน
แต่สำหรับฉัน ฉันรู้ว่านั่นคือสัญญาณที่แปลว่า
"รีบๆลงมาหาฉันซะ"
ฉันรีบลุกขึ้นเก็บของแล้วลงจากตึกอย่างรวดเร็ว
ด้านหน้าของโรงเรียนมีรถคันหรูจอดอยู่
ฉันรู้ว่านั่นคือรถของเขา
เขายืนรอฉันอยู่ด้วยรอยยิ้มที่ "สมบูรณ์แบบ" ที่เขาแสดงให้กับใครๆ
แต่พอฉันเดินเข้าไปใกล้เขา
ในมุมที่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครสังเกต
"ตัวตน" ของเขาก็ก้าวออกมา
"ถึงกับให้ฉันต้องรอ เธอเองก็กล้าขึ้นนี่..."
จากนั้นเขาโน้มศีรษะลงเพื่อกระซิบที่ข้างหูของฉัน
"...คาโฮโกะ..."
ฉันก้าวถอยออกด้วยความรู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งตัว
แต่เขากลับสวมหน้ากากกลับไปอย่างเดิมและยื่นมือข้างหนึ่งมาข้างหน้า
"มาสิ คุณฮิโนะ นี่ก็เย็นแล้ว ให้ผมส่งเธอถึงบ้านเลยนะ"
ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะตอบเขากลับไป
"อะ... ค่ะ รุ่นพี่ยูโนะคิ..."
ใครกันนะที่บอกว่าความรักนั้นอ่อนหวาน อ่อนโยน อบอุ่น...
สำหรับฉันแล้ว
"ความรัก" กับ ผู้ชาย "คนนี้"
มันมีรสหวานปนบ้าง
แต่ปกติแล้ว มันออกเปรี้ยวๆ ขมๆ ปนกันมากกว่า
รสชาติของมันแปลกๆ
จนฉันไม่รู้ว่าควรจะเปรียบกับอะไรด้วยซ้ำไป
สิ่งที่หวาน... และก็ขมไปในขณะเดียวกัน...?
...แต่ถึงยังไง ฉันก็เชื่อว่า...
นี่แหละ คือ "รัก" ของฉัน
สำหรับฉันแล้ว
"ความรัก" กับ ผู้ชาย "คนนี้"
มันมีรสหวานปนบ้าง
แต่ปกติแล้ว มันออกเปรี้ยวๆ ขมๆ ปนกันมากกว่า
รสชาติของมันแปลกๆ
จนฉันไม่รู้ว่าควรจะเปรียบกับอะไรด้วยซ้ำไป
สิ่งที่หวาน... และก็ขมไปในขณะเดียวกัน...?
...แต่ถึงยังไง ฉันก็เชื่อว่า...
นี่แหละ คือ "รัก" ของฉัน
い 行き先も分からなくても - 柚木語り - Even I don't know the future by Yunokiดวงดาวบนท้องฟ้ากระพริบแสงอย่างอ่อนแรง ในขณะที่พระจันทร์ส่งประกายอย่างเจิดจรัส แสงจันทร์นวลสาดส่องลงสู่สวนญี่ปุ่นที่อยู่เคียงข้างกับบ้านทรงญี่ปุ่น ประตูเลื่อนบานหนึ่งเปิดอ้าอยู่ ทำให้แสงสว่างจากดวงไฟภายในรุกล้ำมายังระเบียงและสวนภายนอก
ฉัน... นั่งอยู่ตรงนั้น คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
สัมผัสที่ฝ่ามือของ "เธอ" ยังคงหลงเหลืออยู่
ความนุ่มนวล ความหอมหวาน ที่ยังติดอยู่
นานแค่ไหนกันแล้วนะ ที่ฉันได้สัมผัสเธอเช่นนี้
และจะอีกนานขนาดไหนกัน ที่ฉันยังจะสามารถสัมผัสเธอเช่นนี้ได้อีก
หลังจากการประกวดที่ฉันรั้งเธอไว้ในอ้อมแขน โดยที่ไม่ได้หวังว่าเราสองคนจะกลายมาเป็นแบบนี้
แต่ในที่สุด
"เธอ"
ก็กลายมาเป็น
"ของ"
ของฉัน
"ของ" สิ่งแรกในหลายปีที่ฉันไม่อยากจะสูญเสียไป
ฉัน... นั่งอยู่ตรงนั้น คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
สัมผัสที่ฝ่ามือของ "เธอ" ยังคงหลงเหลืออยู่
ความนุ่มนวล ความหอมหวาน ที่ยังติดอยู่
นานแค่ไหนกันแล้วนะ ที่ฉันได้สัมผัสเธอเช่นนี้
และจะอีกนานขนาดไหนกัน ที่ฉันยังจะสามารถสัมผัสเธอเช่นนี้ได้อีก
หลังจากการประกวดที่ฉันรั้งเธอไว้ในอ้อมแขน โดยที่ไม่ได้หวังว่าเราสองคนจะกลายมาเป็นแบบนี้
แต่ในที่สุด
"เธอ"
ก็กลายมาเป็น
"ของ"
ของฉัน
"ของ" สิ่งแรกในหลายปีที่ฉันไม่อยากจะสูญเสียไป
"ยูโนะคิ"
คำๆนี้เป็นคำที่หนักหน่วงที่สุด
ชีวิตของฉันที่เกิดมาเพื่อเป็น "ยูโนะคิ"
ไม่ใช่ "อาซุมะ"
แม้แต่คนที่จะอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิตเอง ก็คงจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานกับ "ยูโนะคิ"
ผู้หญิงที่มีเข้ามาในชีวิตมากมายหลายคน
ผู้หญิงที่จนบัดนี้ก็ยังไม่อาจรู้ได้ว่า คนไหนคือคนที่ทางบ้านจะตัดสินใจเลือกให้
แต่ในบรรดาผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้มี "ฮิโนะ" อยู่เลย
คำๆนี้เป็นคำที่หนักหน่วงที่สุด
ชีวิตของฉันที่เกิดมาเพื่อเป็น "ยูโนะคิ"
ไม่ใช่ "อาซุมะ"
แม้แต่คนที่จะอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิตเอง ก็คงจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานกับ "ยูโนะคิ"
ผู้หญิงที่มีเข้ามาในชีวิตมากมายหลายคน
ผู้หญิงที่จนบัดนี้ก็ยังไม่อาจรู้ได้ว่า คนไหนคือคนที่ทางบ้านจะตัดสินใจเลือกให้
แต่ในบรรดาผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้มี "ฮิโนะ" อยู่เลย
ฉันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
และวันต่อๆไปจะดำเนินไปแบบไหน
แต่บางที
นี่อาจจะเป็นครั้งแรก
ที่ฉันอยากจะลุกขึ้น
และพูดสิ่งที่ฉันต้องการ
ถ้าหากว่าทำได้
สิ่งที่ฉันต้องการจะขอกับท่านย่าเพียงสิ่งเดียว...
และวันต่อๆไปจะดำเนินไปแบบไหน
แต่บางที
นี่อาจจะเป็นครั้งแรก
ที่ฉันอยากจะลุกขึ้น
และพูดสิ่งที่ฉันต้องการ
ถ้าหากว่าทำได้
สิ่งที่ฉันต้องการจะขอกับท่านย่าเพียงสิ่งเดียว...
"คาโฮโกะ..."
ชื่อของเธอดังขึ้นเพียงชั่วครู่ จากนั้นจึงถูกสายลมแรกของฤดูหนาวกลืนไป
ชื่อของเธอดังขึ้นเพียงชั่วครู่ จากนั้นจึงถูกสายลมแรกของฤดูหนาวกลืนไป
し 知っているくせに - 日野語り - Though you already knew it by Hinoเวลาอยู่ด้วยกันสองคน รุ่นพี่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก
เขามักจะชอบสั่งให้ฉันทำอะไรตามใจเขาอยู่เสมอ
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่ขี้แกล้งเป็นที่สุด
แม้แต่ในเวลา...
เขามักจะชอบสั่งให้ฉันทำอะไรตามใจเขาอยู่เสมอ
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่ขี้แกล้งเป็นที่สุด
แม้แต่ในเวลา...
ร่างกายส่วนที่ถูกปลายนิ้วเรียวของเขาลากผ่านมันรุ่มร้อนไปหมด
มือของเขาที่จับข้อมือฉันไว้แน่น ก็ทั้งเป็นพันธนาการ และเป็นสัมผัสที่กระตุ้นให้ฉันทั้งตื่นเต้นและตื่นกลัว
นอกจากนั้นยังมีริมฝีปากและลิ้นที่ค่อยๆไล่จากลำคอลงมาเรื่อยๆ
"ร... รุ่นพี่คะ!"
เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ เขาไม่ตอบอะไร แต่สัมผัสของเขาไม่ได้หยุดหรือช้าลงแม้แต่น้อย
เขาขยับตัวขึ้น ทำให้ฉันได้เห็นใบหน้าของเขาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ไม่ใช่รอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์
จากนั้นริมฝีปากของฉันก็ถูกเขาช่วงชิงไป
ลิ้นของเขาแทรกผ่านและรุกเร้าไปทั่ว
ฉันได้แต่ส่งเสียงในลำคอ และเรี่ยวแรงทั้งหลายก็ค่อยๆหมดไป
เขาปลดปล่อยแขนของฉัน แต่ฉันไม่ได้หนี กลับยกแขนขึ้นโอบกอดเขาไว้
มือทั้งสองของเขาเปลี่ยนจากข้อมือไปเป็นขาอ่อน ก่อนจะค่อยๆลูบไล้ขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อเขาสัมผัสถึง "ตรงนั้น" ฉันก็ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงร้องให้ดังขึ้น และกอดเขาให้แน่นขึ้น
เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นอีก ก่อนจะกระซิบอย่างแสนแผ่วเบา
"รู้สึกยังไงบ้าง คาโฮโกะ"
"ระ... เรื่องแบบนี้!"
ฉันพูดออกไป แต่ก็ถูกขัดด้วยเสียงครางของตัวเอง
"ใคร... จะไป.... กล้าพูดล่ะ... คะ!"
เขายิ้มและจ้องหน้าฉัน
"ถ้าไม่พูด ก็ไม่ต้องพูด"
จากนั้น เขาก็จูบฉันอีกครั้ง
ในระหว่างนั้นเอง ที่มือของเขาก็เลื่อนมาอยู่ที่สะโพกของฉันแทน
เขาถอนริมฝีปากออก จ้องมองหน้าของฉันไม่กระพริบตา
และ...
"อ๊า...!!!"
เขาหัวเราะเบาๆให้กับผลงานตนเอง และกระซิบกับฉันอีกครั้ง
"เธอทำหน้าได้สุดยอดเลยนะ เมื่อครู่นี้..."
จากนั้นเขาเริ่มขยับร่างกายของตนเอง
จากเชื่องช้า... นุ่มนวล... ราวกับเขาในยามปกติ
ไปจนรวดเร็ว รุนแรง เฉกเช่นตัวเขาเมื่อเวลาอยู่กับฉันเพียงสองคน
มือข้างหนึ่งของฉันจับไหล่เขาไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งกำแน่นอยู่กับผ้าปูเตียง
เสียงร้องของฉันดังไปทั่วทั้งห้อง
และในตอนที่ภาพเบื้องหน้าค่อยๆเลือน
เขากลับหยุด
"คาโฮโกะ..."
"...อาซุมะ..."
"เธอเป็นของของใคร?"
เขาถาม... คำถามที่เขารู้คำตอบอยู่แล้ว
"ฉัน..."
เขาเริ่มขยับอีกครั้ง
"อา... อาซุมะ..."
"ตอบสิ คาโฮโกะ... เธอรักฉันใช่มั้ย?"
เสียงร้องของฉันดังขึ้น พร้อมๆกับความเร็วและรุนแรงของเขาที่เพิ่มขึ้น ฉันตอบเขาด้วยเสียงที่ถูกรบกวนด้วยเสียงหอบและเสียงร้อง
"ฉัน... ฉัน... เป็นของ... อาซุมะ..."
เขายิ่งรุนแรงกับฉันมากขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบ
ส่วนคำตอบของคำถามอย่างที่สองนั้น ฉันไม่อยู่ในสภาพที่จะตอบอะไรได้อีกแล้ว
ท้ายที่สุดฉันก็กำมือแน่น ส่งเสียงร้องออกมาอย่างที่เขาชอบ
เมื่อเขาปล่อยร่างของฉัน ฉันก็ล้มลงบนเตียง และทำได้เพียงพูดออกมาเบาๆ
"รัก... รักอาซุมะ...ที่สุด..."
ทั้งที่เป็นสิ่งที่เขาก็รู้อยู่แล้ว
แต่ก่อนที่ฉันจะหลับไป กลับมีเสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นในห้องอีกครั้ง พร้อมกับเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า
"ฉันก็เหมือนกัน... คาโฮโกะ..."
มือของเขาที่จับข้อมือฉันไว้แน่น ก็ทั้งเป็นพันธนาการ และเป็นสัมผัสที่กระตุ้นให้ฉันทั้งตื่นเต้นและตื่นกลัว
นอกจากนั้นยังมีริมฝีปากและลิ้นที่ค่อยๆไล่จากลำคอลงมาเรื่อยๆ
"ร... รุ่นพี่คะ!"
เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ เขาไม่ตอบอะไร แต่สัมผัสของเขาไม่ได้หยุดหรือช้าลงแม้แต่น้อย
เขาขยับตัวขึ้น ทำให้ฉันได้เห็นใบหน้าของเขาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ไม่ใช่รอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์
จากนั้นริมฝีปากของฉันก็ถูกเขาช่วงชิงไป
ลิ้นของเขาแทรกผ่านและรุกเร้าไปทั่ว
ฉันได้แต่ส่งเสียงในลำคอ และเรี่ยวแรงทั้งหลายก็ค่อยๆหมดไป
เขาปลดปล่อยแขนของฉัน แต่ฉันไม่ได้หนี กลับยกแขนขึ้นโอบกอดเขาไว้
มือทั้งสองของเขาเปลี่ยนจากข้อมือไปเป็นขาอ่อน ก่อนจะค่อยๆลูบไล้ขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อเขาสัมผัสถึง "ตรงนั้น" ฉันก็ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงร้องให้ดังขึ้น และกอดเขาให้แน่นขึ้น
เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นอีก ก่อนจะกระซิบอย่างแสนแผ่วเบา
"รู้สึกยังไงบ้าง คาโฮโกะ"
"ระ... เรื่องแบบนี้!"
ฉันพูดออกไป แต่ก็ถูกขัดด้วยเสียงครางของตัวเอง
"ใคร... จะไป.... กล้าพูดล่ะ... คะ!"
เขายิ้มและจ้องหน้าฉัน
"ถ้าไม่พูด ก็ไม่ต้องพูด"
จากนั้น เขาก็จูบฉันอีกครั้ง
ในระหว่างนั้นเอง ที่มือของเขาก็เลื่อนมาอยู่ที่สะโพกของฉันแทน
เขาถอนริมฝีปากออก จ้องมองหน้าของฉันไม่กระพริบตา
และ...
"อ๊า...!!!"
เขาหัวเราะเบาๆให้กับผลงานตนเอง และกระซิบกับฉันอีกครั้ง
"เธอทำหน้าได้สุดยอดเลยนะ เมื่อครู่นี้..."
จากนั้นเขาเริ่มขยับร่างกายของตนเอง
จากเชื่องช้า... นุ่มนวล... ราวกับเขาในยามปกติ
ไปจนรวดเร็ว รุนแรง เฉกเช่นตัวเขาเมื่อเวลาอยู่กับฉันเพียงสองคน
มือข้างหนึ่งของฉันจับไหล่เขาไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งกำแน่นอยู่กับผ้าปูเตียง
เสียงร้องของฉันดังไปทั่วทั้งห้อง
และในตอนที่ภาพเบื้องหน้าค่อยๆเลือน
เขากลับหยุด
"คาโฮโกะ..."
"...อาซุมะ..."
"เธอเป็นของของใคร?"
เขาถาม... คำถามที่เขารู้คำตอบอยู่แล้ว
"ฉัน..."
เขาเริ่มขยับอีกครั้ง
"อา... อาซุมะ..."
"ตอบสิ คาโฮโกะ... เธอรักฉันใช่มั้ย?"
เสียงร้องของฉันดังขึ้น พร้อมๆกับความเร็วและรุนแรงของเขาที่เพิ่มขึ้น ฉันตอบเขาด้วยเสียงที่ถูกรบกวนด้วยเสียงหอบและเสียงร้อง
"ฉัน... ฉัน... เป็นของ... อาซุมะ..."
เขายิ่งรุนแรงกับฉันมากขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบ
ส่วนคำตอบของคำถามอย่างที่สองนั้น ฉันไม่อยู่ในสภาพที่จะตอบอะไรได้อีกแล้ว
ท้ายที่สุดฉันก็กำมือแน่น ส่งเสียงร้องออกมาอย่างที่เขาชอบ
เมื่อเขาปล่อยร่างของฉัน ฉันก็ล้มลงบนเตียง และทำได้เพียงพูดออกมาเบาๆ
"รัก... รักอาซุมะ...ที่สุด..."
ทั้งที่เป็นสิ่งที่เขาก็รู้อยู่แล้ว
แต่ก่อนที่ฉันจะหลับไป กลับมีเสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นในห้องอีกครั้ง พร้อมกับเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า
"ฉันก็เหมือนกัน... คาโฮโกะ..."
て 手放すことなんてできない - 柚木語り - I just can't let you go by Yunoki
ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว พร้อมกับสายลมที่เย็นเยือก หิมะสีขาวที่ค่อยโปรยปรายลงบนพื้นดิน
ฤดูกาลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นไอของความคึกครื้นและรื่นเริง
ท้องฟ้าในฤดูนี้เปลี่ยนสีเข้าสู่ความมืดอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเมื่อหิมะตก ท้องฟ้าเองก็มืดมัว
...ราวกับงานรื่นเริงนั้น มีไว้เพื่อกลบความมืดมนของฤดูกาล...
และงานแสดงในวันคริสมาสนี่ก็เช่นกัน
หลังจากเสร็จคอนเสิร์ตแล้ว ทุกคนก็มารวมกันในงานปาร์ตี้คริสมาสที่ถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆ มีเพียงนักแสดงทุกคน อาโม และ อ. คานาซาวะเท่านั้นในงาน
ฉันจูงมือเธอเดินเข้าไป ด้วยความรู้สึกหนึ่งข้างใน คือ ฉันหวังว่า ผู้ชาย "คนอื่น" จะเห็นและรับรู้ได้ว่า "เธอ" เป็น "ของใคร"
แต่ต่อหน้าทุกคนที่ฉันเป็น "นักเรียนดีเด่น"
กลายเป็นว่าทุกคนกลับมองว่า ฉันจูงเธอเข้ามาด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
...มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...
...เพราะว่าเธอเป็น "ของ" ของฉันต่างหาก...
เมื่อมาถึงในงาน เธอก็แยกตัวออกไปคุยกับพวกผู้หญิงด้วยกัน
แต่เพียงไม่นานเท่านั้นเอง ผู้ชายคนอื่นๆก็เริ่มเข้าไปรุมล้อมเธอ
ชวนเธอพูดคุยต่างๆนานา
และเธอก็ยิ้มให้กับพวกเขา
หัวเราะให้กับพวกเขา
ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว พร้อมกับสายลมที่เย็นเยือก หิมะสีขาวที่ค่อยโปรยปรายลงบนพื้นดิน
ฤดูกาลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นไอของความคึกครื้นและรื่นเริง
ท้องฟ้าในฤดูนี้เปลี่ยนสีเข้าสู่ความมืดอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเมื่อหิมะตก ท้องฟ้าเองก็มืดมัว
...ราวกับงานรื่นเริงนั้น มีไว้เพื่อกลบความมืดมนของฤดูกาล...
และงานแสดงในวันคริสมาสนี่ก็เช่นกัน
หลังจากเสร็จคอนเสิร์ตแล้ว ทุกคนก็มารวมกันในงานปาร์ตี้คริสมาสที่ถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆ มีเพียงนักแสดงทุกคน อาโม และ อ. คานาซาวะเท่านั้นในงาน
ฉันจูงมือเธอเดินเข้าไป ด้วยความรู้สึกหนึ่งข้างใน คือ ฉันหวังว่า ผู้ชาย "คนอื่น" จะเห็นและรับรู้ได้ว่า "เธอ" เป็น "ของใคร"
แต่ต่อหน้าทุกคนที่ฉันเป็น "นักเรียนดีเด่น"
กลายเป็นว่าทุกคนกลับมองว่า ฉันจูงเธอเข้ามาด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
...มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...
...เพราะว่าเธอเป็น "ของ" ของฉันต่างหาก...
เมื่อมาถึงในงาน เธอก็แยกตัวออกไปคุยกับพวกผู้หญิงด้วยกัน
แต่เพียงไม่นานเท่านั้นเอง ผู้ชายคนอื่นๆก็เริ่มเข้าไปรุมล้อมเธอ
ชวนเธอพูดคุยต่างๆนานา
และเธอก็ยิ้มให้กับพวกเขา
หัวเราะให้กับพวกเขา
ถ้าหากปล่อยเธอไป
ถ้าหากว่าฉันเลิกคิดถึงเรื่องของเธอซะ
ทั้งเรื่องของที่บ้านก็คงไม่มีปัญหา
และทั้งความรู้สึกดำมืดในใจของฉันตอนนี้ ก็คงหายไปเช่นกัน
ถ้าหากว่าฉันเลิกคิดถึงเรื่องของเธอซะ
ทั้งเรื่องของที่บ้านก็คงไม่มีปัญหา
และทั้งความรู้สึกดำมืดในใจของฉันตอนนี้ ก็คงหายไปเช่นกัน
แต่...
ถ้าฉันทำได้ ฉันก็คงจะทำไปนานแล้ว
ถ้าฉันทำได้ ฉันก็คงจะไม่ปล่อยให้เธอเข้ามาอยู่ใกล้ตัวตนของฉันถึงขนาดนั้น
ให้เธอมาเป็นทั้งความสุขที่สุด และความทุกข์ที่สุดสำหรับฉัน
ถ้าฉันทำได้ ฉันก็คงจะทำไปนานแล้ว
ถ้าฉันทำได้ ฉันก็คงจะไม่ปล่อยให้เธอเข้ามาอยู่ใกล้ตัวตนของฉันถึงขนาดนั้น
ให้เธอมาเป็นทั้งความสุขที่สุด และความทุกข์ที่สุดสำหรับฉัน
เธอคือสิ่งสำคัญของฉัน
สิ่งที่ฉันจะไม่ยอมปล่อยมือไป
และไม่สามารถจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ด้วย...
สิ่งที่ฉันจะไม่ยอมปล่อยมือไป
และไม่สามารถจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ด้วย...
ฉันเดินเข้าไปหาเธอในวงล้อมของทุกคน และจงใจเรียกเธอ
"คาโฮโกะ"
สายตาทุกคู่มองมาที่ฉัน แต่ฉันไม่สนใจ
ฉันจับมือเธอดึงมาอยู่ข้างๆฉัน
เธอทำหน้าแดง แต่ก็ยอมตามแต่โดยดี
เพียงเท่านี้ ทุกคนก็คงรู้กันสักทีว่า "เธอ" เป็นของใครกันแน่
"คาโฮโกะ"
สายตาทุกคู่มองมาที่ฉัน แต่ฉันไม่สนใจ
ฉันจับมือเธอดึงมาอยู่ข้างๆฉัน
เธอทำหน้าแดง แต่ก็ยอมตามแต่โดยดี
เพียงเท่านี้ ทุกคนก็คงรู้กันสักทีว่า "เธอ" เป็นของใครกันแน่
"ขอโทษนะ ทุกคน ผมขอยืมตัวคาโฮโกะไปก่อน"
จากนั้นฉันก็พาเธอเดินออกมา
"รุ่นพี่... มีอะไรเหรอคะ?"
ฉันมองหน้าเธอ เธอเองจะเข้าใจความรู้สึกนี้ของฉันบ้างไหมนะ?
"รุ่นพี่ยูโนะคิ?"
ฉันดึงเธอเข้ามากอด โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะมองอยู่หรือไม่
จากนั้นจึงกระซิบเสียงที่แท้จริงของฉันให้เธอฟัง
"เธอเป็นของเล่นของฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนเด็ดขาด"
เธอหันหน้าขึ้นมามองหน้าฉันตอบ ฉันจึงพูดต่อไปอีกว่า
"แน่นอน... รวมทั้งคืนนี้ด้วย... คาโฮโกะ"
จากนั้นฉันก็พาเธอเดินออกมา
"รุ่นพี่... มีอะไรเหรอคะ?"
ฉันมองหน้าเธอ เธอเองจะเข้าใจความรู้สึกนี้ของฉันบ้างไหมนะ?
"รุ่นพี่ยูโนะคิ?"
ฉันดึงเธอเข้ามากอด โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะมองอยู่หรือไม่
จากนั้นจึงกระซิบเสียงที่แท้จริงของฉันให้เธอฟัง
"เธอเป็นของเล่นของฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนเด็ดขาด"
เธอหันหน้าขึ้นมามองหน้าฉันตอบ ฉันจึงพูดต่อไปอีกว่า
"แน่นอน... รวมทั้งคืนนี้ด้วย... คาโฮโกะ"
る 瑠璃色の空の下で - 二人のメロディ - Under the blue sky - The couple's melody-
ฤดูหนาวจากไป พร้อมด้วยสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน แมกไม้แตกกิ่งใบ ชูช่อสีเขียวสดต้อนรับผู้คนด้วยความสดชื่น และดอกซากุระก็เริ่มผลิบานเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า เวลาแห่งการลาจากใกล้เข้ามาแล้ว
ฮิโนะ คาโฮโกะ มองกลีบดอกซากุระที่ร่วงลงบนพื้นพลางถอนหายใจ จากนั้นจึงมองไปรอบๆโรงเรียน
ไม่ว่าที่ใดที่มีความทรงจำของ "เขา" อยู่
ทั้งความอ่อนโยนที่เขาคอยดูแล และทั้งความใจร้ายที่เขาคอยกลั่นแกล้ง
ทุกสิ่งล้วนเป็นตัวเขาที่น่าหลงไหล
และทุกสิ่งล้วนเป็นความทรงจำที่แสนดีภายในรั้วโรงเรียนแห่งนี้
แต่ว่า... มันกำลังจะจบลง...
สายลมที่แต่งแต้มด้วยลวดลายสีชมพูอ่อนเป็นสายลมแห่งการลาจาก และการพานพบเสมอ
เพียงแต่เมื่อปีก่อน "เขา" ไม่ได้รวมอยู่ในการลาจากนั้นด้วย
เด็กสาวนั่งอยู่ใต้ร่มของต้นซากุระที่ผลิดอกออกอย่างงดงาม สวนซากุระนี้อยู่ในฝากของแผนกดนตรี แต่เธอที่อยู่แผนกปกติกลับมาอยู่แถวนี้หลังพิธีจบการศึกษา เพียงเพื่อรอ "เขา" เท่านั้น
เธอเหม่อมองกิ่งซากุระเบื้องบนพร้อมกับถอนใจ
"มานั่งถอนหายใจอะไรแถวนี้ คาโฮโกะ"
เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นมา เธอหันไปหาต้นเสียงนั้นก็ได้พบกับ "เขา" ยืนอยู่
"ก็... แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอรุ่นพี่ที่นี่อีกแล้ว มันก็..."
ชายผู้เป็นรุ่นพี่นั่งลงด้านข้างของเธอ และดึงร่างของเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาในทันที เธอร้องออกมาด้วยความตกใจเพียงเล็กน้อย ก่อนจะยอมโน้มตัวลงบนร่างของเขาแต่โดยดี
"พูดอะไรอย่างนั้น... รึว่าเธอคิดจะหนีฉันไปงั้นรึ"
เด็กสาวส่ายหน้าอย่างรุนแรงเป็นคำตอบ
"นั่นสินะ"
ยูโนะคิ อาซุมะกอดร่างของเธอไว้แน่นขึ้น ขยับหน้าเข้าใกล้เสียจนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่ใบหูของตนเอง
"ฉันไม่ปล่อยเธอไปหรอก..."
ใบหน้าของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย
"...ฉันไม่หนีรุ่นพี่ไปไหนหรอกค่ะ"
ทั้งสองคนนิ่งเงียบเพียงครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็พูดขึ้นมา
"...เธอนี่... น่ารักจริงๆเลยนะ"
แล้วเขาก็ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ
"...รุ่นพี่คะ..."
"อะไร?"
"แล้วตกลงรุ่นพี่... เข้ามหาวิทยาลัยคณะอะไรคะ?"
"นั่นสินะ..."
เด็กหนุ่มพูดอย่างทีเล่นทีจริงโดยไม่ยอมเฉลยคำตอบ
"รุ่นพี่ยูโนะคิ!"
คำตอบของเขาคือเสียงหัวเราะ
"เธอนี่น่าสนุกจริงๆ คาโฮโกะ"
"รุ่นพี่นี่ล่ะก็... ที่ถามก็เพราะเป็นห่วงหรอกนะคะ"
"คนอย่างฉันไม่ถึงขั้นให้เธอต้องมาเป็นห่วงหรอกน่ะ แล้วก็..."
"คะ?"
คราวนี้นอกจากเสียงกระซิบแล้ว ยังมีสัมผัสจากปากและลิ้น ทำให้เด็กสาวถึงกับตัวสั่นและเผลอร้องออกมา
"ต่อจากนี้ไปก็ไม่มี 'สาวก' แล้วสินะ เธอเองก็เรียกชื่อของฉันได้แล้ว"
"อือ..."
"เรียกชื่อฉันสิ คาโฮโกะ"
"อา... อาซุมะ..."
เขาหยุดกลั่นแกล้งเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ แต่เธอกลับจ้องหน้าเขาไม่วางตาด้วยความโกรธ
"รุ่นพี่ยูโนะคิ!!"
เขาหัวเราะในลำคอ
"ถ้าเธอยังไม่เรียกชื่อฉันอีก... ต่อไปนี้จะมีบทลงโทษล่ะนะ"
"รุ่นพี่คะ!!"
สิ้นเสียงของเธอ เขาก็ฉุดร่างเธอเข้าจูบ เด็กสาวดิ้นขัดขืนได้ไม่นานก็ยอมจำนนต่อเด็กหนุ่ม
"นี่เป็นการลงโทษ"
เขาพูดเสร็จก็หัวเราะอีกครั้ง ส่วนเธอก็ได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยความโกรธและความอาย
"คาโฮโกะ..."
"คะ..."
เธอตอบแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่ เมื่อเขาเรียกชื่อของเธอ
"ถึงฉันจะไปทำอะไรที่ไหนที่ไม่ใช่ที่นี่ แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ ว่าทุกสิ่งจะเปลี่ยนไป สิ่งที่จะเปลี่ยนไปน่ะ มีแค่ชื่อที่เธอจะเรียกฉัน แล้วก็สถานที่เรียนของฉันเท่านั้นล่ะ"
เขาลูบศีรษะของเธอแล้วจูบหน้าผากเธออีกครั้ง
"ฉันจะไม่ปล่อยมือจากของเล่นที่ฉันเลือกมาอย่างดีแล้วหรอกน่ะ คาโฮโกะ"
แม้จะเป็นคำพูดแบบนั้น แต่เด็กสาวรู้ดีว่านั่นคือการบอกรักของเขา
เธอยังไม่หายโกรธ ถึงจะเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อออกมาก็ตาม
เขาหัวเราะกับภาพของเด็กสาวที่กำลังงอนอยู่ในวงแขนของเขา
"เธอทำให้ฉันสนุกได้เสมอจริงๆ"
แล้วเขาจึงพูดสิ่งที่ทำให้เธอตกใจ
"ฉันรักเธอ... คาโฮโกะ"
เธอมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ
เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องแบบนี้อย่างเด็ดขาด
แต่อย่างน้อย คำพูดนั้นก็ทำให้ความโกรธเคืองในใจของเด็กสาวหายไปจนสิ้น
"ฉัน... ก็รัก รุ่... อาซุมะนะคะ.."
ฤดูหนาวจากไป พร้อมด้วยสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน แมกไม้แตกกิ่งใบ ชูช่อสีเขียวสดต้อนรับผู้คนด้วยความสดชื่น และดอกซากุระก็เริ่มผลิบานเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า เวลาแห่งการลาจากใกล้เข้ามาแล้ว
ฮิโนะ คาโฮโกะ มองกลีบดอกซากุระที่ร่วงลงบนพื้นพลางถอนหายใจ จากนั้นจึงมองไปรอบๆโรงเรียน
ไม่ว่าที่ใดที่มีความทรงจำของ "เขา" อยู่
ทั้งความอ่อนโยนที่เขาคอยดูแล และทั้งความใจร้ายที่เขาคอยกลั่นแกล้ง
ทุกสิ่งล้วนเป็นตัวเขาที่น่าหลงไหล
และทุกสิ่งล้วนเป็นความทรงจำที่แสนดีภายในรั้วโรงเรียนแห่งนี้
แต่ว่า... มันกำลังจะจบลง...
สายลมที่แต่งแต้มด้วยลวดลายสีชมพูอ่อนเป็นสายลมแห่งการลาจาก และการพานพบเสมอ
เพียงแต่เมื่อปีก่อน "เขา" ไม่ได้รวมอยู่ในการลาจากนั้นด้วย
เด็กสาวนั่งอยู่ใต้ร่มของต้นซากุระที่ผลิดอกออกอย่างงดงาม สวนซากุระนี้อยู่ในฝากของแผนกดนตรี แต่เธอที่อยู่แผนกปกติกลับมาอยู่แถวนี้หลังพิธีจบการศึกษา เพียงเพื่อรอ "เขา" เท่านั้น
เธอเหม่อมองกิ่งซากุระเบื้องบนพร้อมกับถอนใจ
"มานั่งถอนหายใจอะไรแถวนี้ คาโฮโกะ"
เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นมา เธอหันไปหาต้นเสียงนั้นก็ได้พบกับ "เขา" ยืนอยู่
"ก็... แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอรุ่นพี่ที่นี่อีกแล้ว มันก็..."
ชายผู้เป็นรุ่นพี่นั่งลงด้านข้างของเธอ และดึงร่างของเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาในทันที เธอร้องออกมาด้วยความตกใจเพียงเล็กน้อย ก่อนจะยอมโน้มตัวลงบนร่างของเขาแต่โดยดี
"พูดอะไรอย่างนั้น... รึว่าเธอคิดจะหนีฉันไปงั้นรึ"
เด็กสาวส่ายหน้าอย่างรุนแรงเป็นคำตอบ
"นั่นสินะ"
ยูโนะคิ อาซุมะกอดร่างของเธอไว้แน่นขึ้น ขยับหน้าเข้าใกล้เสียจนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่ใบหูของตนเอง
"ฉันไม่ปล่อยเธอไปหรอก..."
ใบหน้าของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย
"...ฉันไม่หนีรุ่นพี่ไปไหนหรอกค่ะ"
ทั้งสองคนนิ่งเงียบเพียงครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็พูดขึ้นมา
"...เธอนี่... น่ารักจริงๆเลยนะ"
แล้วเขาก็ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ
"...รุ่นพี่คะ..."
"อะไร?"
"แล้วตกลงรุ่นพี่... เข้ามหาวิทยาลัยคณะอะไรคะ?"
"นั่นสินะ..."
เด็กหนุ่มพูดอย่างทีเล่นทีจริงโดยไม่ยอมเฉลยคำตอบ
"รุ่นพี่ยูโนะคิ!"
คำตอบของเขาคือเสียงหัวเราะ
"เธอนี่น่าสนุกจริงๆ คาโฮโกะ"
"รุ่นพี่นี่ล่ะก็... ที่ถามก็เพราะเป็นห่วงหรอกนะคะ"
"คนอย่างฉันไม่ถึงขั้นให้เธอต้องมาเป็นห่วงหรอกน่ะ แล้วก็..."
"คะ?"
คราวนี้นอกจากเสียงกระซิบแล้ว ยังมีสัมผัสจากปากและลิ้น ทำให้เด็กสาวถึงกับตัวสั่นและเผลอร้องออกมา
"ต่อจากนี้ไปก็ไม่มี 'สาวก' แล้วสินะ เธอเองก็เรียกชื่อของฉันได้แล้ว"
"อือ..."
"เรียกชื่อฉันสิ คาโฮโกะ"
"อา... อาซุมะ..."
เขาหยุดกลั่นแกล้งเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ แต่เธอกลับจ้องหน้าเขาไม่วางตาด้วยความโกรธ
"รุ่นพี่ยูโนะคิ!!"
เขาหัวเราะในลำคอ
"ถ้าเธอยังไม่เรียกชื่อฉันอีก... ต่อไปนี้จะมีบทลงโทษล่ะนะ"
"รุ่นพี่คะ!!"
สิ้นเสียงของเธอ เขาก็ฉุดร่างเธอเข้าจูบ เด็กสาวดิ้นขัดขืนได้ไม่นานก็ยอมจำนนต่อเด็กหนุ่ม
"นี่เป็นการลงโทษ"
เขาพูดเสร็จก็หัวเราะอีกครั้ง ส่วนเธอก็ได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยความโกรธและความอาย
"คาโฮโกะ..."
"คะ..."
เธอตอบแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่ เมื่อเขาเรียกชื่อของเธอ
"ถึงฉันจะไปทำอะไรที่ไหนที่ไม่ใช่ที่นี่ แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ ว่าทุกสิ่งจะเปลี่ยนไป สิ่งที่จะเปลี่ยนไปน่ะ มีแค่ชื่อที่เธอจะเรียกฉัน แล้วก็สถานที่เรียนของฉันเท่านั้นล่ะ"
เขาลูบศีรษะของเธอแล้วจูบหน้าผากเธออีกครั้ง
"ฉันจะไม่ปล่อยมือจากของเล่นที่ฉันเลือกมาอย่างดีแล้วหรอกน่ะ คาโฮโกะ"
แม้จะเป็นคำพูดแบบนั้น แต่เด็กสาวรู้ดีว่านั่นคือการบอกรักของเขา
เธอยังไม่หายโกรธ ถึงจะเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อออกมาก็ตาม
เขาหัวเราะกับภาพของเด็กสาวที่กำลังงอนอยู่ในวงแขนของเขา
"เธอทำให้ฉันสนุกได้เสมอจริงๆ"
แล้วเขาจึงพูดสิ่งที่ทำให้เธอตกใจ
"ฉันรักเธอ... คาโฮโกะ"
เธอมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ
เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องแบบนี้อย่างเด็ดขาด
แต่อย่างน้อย คำพูดนั้นก็ทำให้ความโกรธเคืองในใจของเด็กสาวหายไปจนสิ้น
"ฉัน... ก็รัก รุ่... อาซุมะนะคะ.."
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง
แต่มิใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด กลับเป็นความเงียบที่แสนอบอุ่นที่ทั้งสองคนได้ใช้เวลาสัมผัสกลิ่นไอและตัวตนของกันและกัน
สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดให้กิ่งไม้ไหว กลีบดอกสีหวานร่วงปลิว
และให้ฟากฟ้าสีฟ้าสดใสของฤดูแห่งความเริงร่าได้เปิดเผยตัวต่อพื้นของสวนหญ้าสีเขียวที่ประดับด้วยพรมดอกไม้สีชมพู รวมถึงคู่รักที่ผูกพันกันอยู่ใต้พ้าที่แสนงดงาม
ใต้ฟ้าที่จะเป็นสีฟ้าไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน จะสั้นยาวเพียงใด
แต่ "สีฟ้า" นั้น จะไม่มีวันเลือนหายไป...
แต่มิใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด กลับเป็นความเงียบที่แสนอบอุ่นที่ทั้งสองคนได้ใช้เวลาสัมผัสกลิ่นไอและตัวตนของกันและกัน
สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดให้กิ่งไม้ไหว กลีบดอกสีหวานร่วงปลิว
และให้ฟากฟ้าสีฟ้าสดใสของฤดูแห่งความเริงร่าได้เปิดเผยตัวต่อพื้นของสวนหญ้าสีเขียวที่ประดับด้วยพรมดอกไม้สีชมพู รวมถึงคู่รักที่ผูกพันกันอยู่ใต้พ้าที่แสนงดงาม
ใต้ฟ้าที่จะเป็นสีฟ้าไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน จะสั้นยาวเพียงใด
แต่ "สีฟ้า" นั้น จะไม่มีวันเลือนหายไป...
---------------------------------------------------------------------------------------------
แบบว่า ตอนแรกอยากเอาไปลงบ๊อกๆกลุ่มมากว่า แต่นะ ตอนนี้ยังไม่มีนี่นา ก็เลยเอามาลงที่นี่ซะ
ยาวนรกล่ะสิ เหอะๆ ก็แหงล่ะ 5 เรื่องเลยนี่นา
ช่วงนี้เลือดยูโนะคิกำลังแรง ก็ขอซะหน่อยละกันน่อ
เดือนหน้าวันเกิดเซมไปแล้ว กะจะแปลเพลงลง ไปๆมาๆมันจะเสร็จเอาในช่วงนี้นี่แหละ กร๊ากกก
น้องเรนไอ (เพลย์สอง) ก็เน่าไปแล้ว มะมีหนทางหาเซทไปแรดๆเลวๆ มาพูดอะไรโฉดๆ หื่นๆ ให้ฟังเล้ยยยยย แย่ชะมัด มุ
ยาวนรกล่ะสิ เหอะๆ ก็แหงล่ะ 5 เรื่องเลยนี่นา
ช่วงนี้เลือดยูโนะคิกำลังแรง ก็ขอซะหน่อยละกันน่อ
เดือนหน้าวันเกิดเซมไปแล้ว กะจะแปลเพลงลง ไปๆมาๆมันจะเสร็จเอาในช่วงนี้นี่แหละ กร๊ากกก
น้องเรนไอ (เพลย์สอง) ก็เน่าไปแล้ว มะมีหนทางหาเซทไปแรดๆเลวๆ มาพูดอะไรโฉดๆ หื่นๆ ให้ฟังเล้ยยยยย แย่ชะมัด มุ
เอาล่ะ ไปดีฟ่า~
No comments:
Post a Comment