Sunday, October 20, 2013

[exteen backup] [Death note...ดีรึเปล่า?] L change the world สปอลย์นรก

posted on 09 Feb 2008 21:04 by wasseryharp  in MangaAnimePersonal | Edit This
มาแบบยังไม่สปอลย์ก่อน
วันนี้ยังคงตื่นสายโด่งเช่นเคย เพราะช่วงนี้ไม่เช้าไม่นอนจริงๆ 
ระหว่างกำลังหลับสบายใจแสนโสภาในอ้อมอกป๋า(เฮ้ย) เสียงโทรศัพท์สายในก็ดังขึ้น พอคว้าไป เพื่อนก็บอกว่า
"มองไปนอกหน้าต่างสิ หิมะตกแล้ว"
เราเลยครึ่งตื่นโผจากอ้อมอกป๋า (แหลอีกแล้ว) ไปเปิดม่านหน้าต่าง

พอคว้ากล้องมาถ่ายก็พบว่า ไม่เห็นอะไรที่เหมือนหิมะเลย กร๊ากกกก

แต่นะ ตอนเห็นก็รู้สึกว่ามันสวยดีแหละ เป็นเหมือนปุยๆอะไรสักอย่างเล็กๆสีขาวลอยลงมาจากท้องฟ้า
แต่พอยื่นมือออกไปจับ.... รู้สึกว่า.... มันก็แค่หยดน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งเลยร่วงลงมานี่ฟ่า กร๊ากกกกกก แต่ก็สวยดีนะอ่ะ 
ว่าแล้ว...
เราก็หลับต่อซะงั้น หึหึ -_-"

ตื่นมาอีกทีก็ใกล้ได้เวลาที่เพื่อนนัดว่าเราจะออกไปดูหนังกัน นั่นก็คือ แท่น แทน แท้นนนน

ว่าแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปนอกหอ ก็เลยได้ถ่ายรูปเมืองมาอีกนิด

แล้วเราก็ไปที่โรงหนังกันในสภาพที่เค้ายังไม่ได้กินอะไรเลย ครึๆ

ว่าแล้วก็ซื้อตั๋วซื้อหนมแล้วก็ไปนั่งดูในโรง
แอลน่ารักโก๊ดๆ~~~ >__< เท่สุดๆไปเลยค่า แอลตันขา~~
พอหนังจบฟ้าก็มืดแล้ว แต่เค้ามีภารกิจสำคัญอีกอย่าง เลยบุกป่าฝ่าดงกระสุน(?)ไปยังรอส้น (ลอว์สัน) ปรากฏว่า... อีตู้ขายตั๋วมันเจ๊ง -_-"
ถามพนักงานว่าทำไงดี เค้าก็แนะนำให้ไปที่รอส้นอีกสาขา เลยต้องเดินท่ามกลางความหนาวไปอีกล่ะ เฮ่อ
ถ่ายดอกไม้ข้างทางมาฝาก

เมื่อไปถึงรอส้นอีกสาขา เราก็ต้องพบกับความลำบากอีกในการพิมพ์ชื่อตอนซื้อตั๋ว เพราะชื่อนามสกุลเรายาวมากกกกกก
พอพิมพ์เสร็จแล้วพบว่า... ตัวอักษรเกินอีกต่างหาก เลยต้องไปใส่ในช่องฟุริงานะอีก
หลังจากพิมพ์เสร็จสรรพ เอาบิลไปจ่ายกะตังค์ก็ได้ตั๋วมา
ตั๋วอะไรน่ะเหรอ...?

แต่นแต้นนนน ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ดูหรอก เพราะไปดูจากเวบที่ขายในเน็ทมันบอกว่าตั๋ววันวาเลนไทน์หมดแล้ว (โคเอแจ้งว่ารอบวันวาเลนไทน์จะมีอะไรพิเศษ) แต่โดนหนังสือทำนายดวงบอกว่าเดือนนี้จะโชคดีถ้าได้ไปหอศิลป์หรือโรงละคร ประกอบกับเช็คว่าถ้าซื้อตั๋วกะที่อื่นยังมีของรอบวันวาเลนไทน์ เลยไปซื้อมา หุๆ
แต่ต้องไปดูคนเดียว เศร้าจัง... TT^TT รอบวันวาเลนไทน์ต้องมีคู่เลิฟไปกันเยอะแน่เลย
เอาล่ะ จะสปอลย์ L change the world แล้วนะ ใครไม่อยากอ่าน หนีไปได้เลย




แอลตันน่ารักโคตรรรร~~~~ โมเอะเจ้าค่าาาาาาาาาาาา
โมเอะตั้งแต่ตอนเริ่มเลย ที่แบบว่า แอลตันกำลังจะไปรับคดีคิระ บอกว่ามีโอกาส เก้าสิบเท่าไหร่ไม่รุ้เปอร์เซนต์จำไม่ได้ ที่คิระจะอยู่ที่ญี่ปุ่น... แล้วก็พูดว่า "อาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว..." กรี๊ดดดดด เท่หลายเหลืออออ~~ 
ฉากน่ารักแอลตันเยอะมากมาย แถมมีฉากแอลตันพยายามเดินหลังตรงอีกต่างหาก
ในเรื่องน่ารักมากเลยที่แอลจะค่อยๆมีพัฒนาการทางอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะบอกว่าแอลแก้ปัญหาที่ใช้สมองไม่ได้ไม่ถนัดก็เถอะ แต่ในช่วงไม่กี่วันก็ทำให้แอลมีอารมณ์ต่างๆมากขึ้น 
ต้องเรียกว่าเป็นยี่สิบสามวันสุดท้ายที่คุ้มค่ามากเลย
มากขนาดที่ตอนจบแอลพูดออกมาว่า เริ่มรู้สึกอยากจะอยู่ต่อไปแล้วสิ
แถมดูเรื่องนี้จบแล้วชอบวาตาริมากขึ้นไปอีก
เค้าก็ไม่ใช่แฟนอะไรเดธโน้ตเหนียวแน่นหนึบขนาดนั้น เลยคิดว่า ในบรรดาลิสต์ที่แอลติดต่อไปเรื่องวาตาริตายก็คือเด็กที่วาตาริเลี้ยงมา แล้วแต่ละคนก็ไปเป็นโปรในด้านต่างๆกันออกไป 
(งั้นการที่ตอนแรกแอลลังเลที่จะกดส่งไปที่ K เป็นเพราะแอลระแคะระคายลักษณะนิสัยของเจ้าหล่อนอยู่แล้ว?)
เด็กที่วาตาริเลี้ยงมาแต่ละคนนี่ท่าทางจะรักวาตาริกันมากเลยล่ะมั้งเนี่ย ขนาดแม่หญิงนี่ถึงจะทำอะไรดูแล้วเล๊วเลวก็เถอะ แต่ในใจลึกๆก็เป็นการคิดที่ถูกสั่งสอนมาจากวาตาริก็ว่าได้ ที่ว่าให้ทำเพื่อให้โลกนี้ดีขึ้น
แต่นะ... เด็กที่วาตาริสอนมาแต่ละคน...
เป็นพวกไม่เลือกวิธีการทั้งนั้นเลยรึไงฟะ -_-'
ตอนท้ายที่แอลตันหยุด K สิ่งที่แอลพูด เราว่าแอลคงหมายถึงตัวเองด้วย คือ การที่ต้องให้คนส่วนนึงเสียสละเนี่ย จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก แอลก็คงนึกถึงคดีคิระที่ตัวเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ให้คนร้ายจำนวนไม่น้อยต้องเสียสละ โดยการอ้างว่าทำเพื่อให้จับคิระได้ จนกระทั่งตอนที่แอลเสียวาตาริไปด้วยนั่นแหละ แอลคงถึงได้เริ่มรู้สึกว่าไอ้วิธีแบบนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไร และแอลเองก็คงคิดรวมไปถึงเรื่องที่เอาตัวเองไปเป็นเหยื่อสังเวยคนนึงด้วย เพราะงั้นแอลถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่ "ไม่อาจทิ้งชีวิตที่อยู่ตรงหน้า" ได้ 
แต่ตัวร้ายในภาคนี้ มุมมองไม่ได้ต่างไปจากคิระ (ไลท์) เท่าไหร่ก็ว่าได้ล่ะมั้ง
ก็คือเป็นคนที่ "ฉลาด" กว่าคนอื่น แต่ไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายโดยแท้หรอก แถมยังเป็นคนที่บริสุทธิ์ คิดถึง "โลก" และ "สังคม" เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเมื่อพบกับความผิดหวังต่อสังคม จึงได้เปลี่ยนความรู้สึกนั้นเป็นความเจ็บปวด 
และพอได้ "พลัง" อะไรบางอย่างมาในมือ ก็เลยรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีให้มันดีขึ้นในสายตาตนเอง
ก็เลยออกมาเป็นทั้ง คิระ ที่มีเดธโน้ตในมือ
แล้วก็เป็น K ที่ใช้ไวรัสอันตรายที่ทำให้คนตายได้ไม่นานหลังจากติดเชื้อ
(ปล เพราะอีไวรัสเนี่ยแหละ ฟังแทบไม่รุ้เรื่องเลยฟุ้ย ตรูไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการตัดต่อพันธุกรรมไวรัสนะยะ!!)
แต่อีตัวร้ายประกอบเนี่ยสิ ที่ไม่ค่อยแน่นอนในวัตถุประสงค์ ดูแล้วไม่มีมิติมากไปอ๊ะป่าว?
สุดท้ายแอลตันก็เลยบอกกับเด็กน้อยที่เอามาจากเมืองไทยว่า
"ถึงจะอัจฉริยะยังไง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกคนเดียวได้หรอก"
นี่คงเป็นการบอกของแอลต่อเด็กน้อยอัจฉริยะคนนั้นว่า ถึงโลกจะเลวร้ายยังไง แต่อำนาจของคนๆเดียวเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้หรอก ที่จะเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อคนเราหันมาผูกพันกับคนรอบข้างต่างหาก ถึงจะมีพลังเกิดขึ้นจริงๆ
เค้าคิดว่านะ สำหรับแอลที่เปลี่ยนแปลง (ช่วย) โลกได้นักต่อนัก ก็คงเพราะว่าแอลมี "วาตาริ" อยู่นั่นเอง แม้ว่าหลังจากวาตาริตายไปแล้ว วาตาริก็ยังอยู่ในใจแอลตลอดไป เพราะงั้นแอลถึงยังสามารถช่วยโลกได้
ว่าแต่... แอลเป็นโลลิคอนเรอะ?...
แต่ไงๆฉากบาร์บีคิวขนมแต่ละฉาก แอลตันก็ช่างน่ารักไม่ได้หยุดได้หย่อนจริงจริ๊งงงง~~~
สงสาร FBI จริงๆ คนญี่เห็น FBI เป็นตัวอะไรหว่า เหอะๆ โดนเอาเป็นตัวล่อตลอดเวลา
ทั้งขำทั้งสงสารตอนที่พ่อ FBI ทำหน้าบานที่แอลบอกว่าจะขอให้ช่วยหน่อย ที่ไหนได้ ก็ให้ไปขับรถวนเป็นตัวล่ออย่างเดิมอีกต่างหาก
พอเลิกเป็น FBI เปิดร้านเครปได้เลยนะพี่ อิอิ
ว่าแต่... ฉากตอนลงจากรถเครปครั้งแรกนั่น... อากิบะ สินะ -_-"
เลือกที่ทำงานได้ดีมากเลย แอลเอ๋ย ล่อซะ เมดคาเฟ่เนี่ยนะ
แถมประกอบอีนั่นได้เองอีกต่างหาก ไม่น่าเชื่อ ทำอะไรก็ได้หมดเลยนะค้า (ยกเว้นดูแลตัวเองเรอะ)
น่านสิ ว่าแล้วก็แอบสงสัยว่า หลังจากวาตาริตาย แอลอยู่ได้ไงเนี่ย เรื่องรอบตัวใครเป็นคนดูแลให้เรอะ
ส่วนที่ว่าแปลกอีกอย่างก็คือ การทำวัคซีนที่... เร็วเหลือเชื่อ ถึงจะบอกว่ามีคำใบ้ให้ก็เถอะ แถมที่ทำก็ดูแล้วไม่ได้เจริญอย่างอีศูนย์วิจัยโรคติดต่อตอนแรก แถมคอมเพล็กในใจของอาจารย์คนนั้นที่ว่าเคยทำวัคซีนแล้วคนตายอ่ะ ก็ดูอ่อนไปหน่อย เพราะเห็นก็กลับมาทำวัคซีนได้อย่างไม่มีอะไร แถมตั้งอกตั้งใจอีกต่างหาก (เสร็จไวโคตรๆอีกด้วย)
โลเกชั่นเมืองไทย... ออกมาหลายฉากเหมือนกันนะ ว่าแต่อีระเบิดหมู่บ้านนั่นบ้านเมืองตรูด้วยอ่ะป่าว
ป่าไม้ประเทศตรูนะเฟ้ยยยยยย!!!
ฉากตลาดก็น่ารักดี ดูแล้วรู้สึกเหมือนคนไทยใจดีจังนะ อิอิ
แต่...
ฉากเครื่องบินนี่สิที่น่าสงสัย ถ่ายเมืองไทยชิมิอ่ะ? แต่ตอนนั้นอยู่ญี่ปุ่นกันไม่ใช่เรอะ หรือแค่เช่าเครื่องบินถ่าย
แต่วันทูโก...
ได้ข่าวว่าเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ...
มันไม่บินไปอเมริกาไม่ใช่เรอะ!! O_O!!!!!
ที่ช๊อคสุดๆก็คือ... ตอนแรกเห็นอีเด็กเก็บจากไทยและคงเป็นเด็กไทยด้วยอ่ะแหละ ฉลาดเหลือหลาย พูดน้อยอีกต่างหาก เลยคิดเล่นๆว่าจะใช่รึเปล่าน้า ให้เหลือเกิน...
ที่ไหนได้...
มันเป็นเนียร์จริงๆด้วยอ่ะ กรี๊ซซซซซซซซซซ!!!!!!!
งี้แปลว่าออฟฟิเชี่ยลให้ข้อมูลว่า เนียร์เป็นคนไทย? กรี๊ซซซซซซซซซซซ
(แต่คนเล่นเป็นเด็กญี่ใช่มิ? เห็นรายชือนักแสดงแว่บๆ)
งี้แล้ว เมลโลล่ะ!!!!!!
พอเห็นงี้แล้วเลยรู้สึกเข้าใจว่าทำไมเนียร์ถึงเป็นผู้สืบทอดแอลได้ เพราะถ้าได้เห็นเหตุการณ์แบบนั้น ได้ฟังคำพูดของแอลแบบนั้น แล้วได้อยู่กับแอลแบบนั้น ก็คงได้รับอะไรหลายๆอย่างจากแอล
แล้วเนียร์เองก็คงมี "แอล" อยู่ในใจไปตลอด เหมือนกับที่
ในใจแอลมี "วาตาริ" อยู่อย่างแน่นอน
(แต่ในหนัง ไม่ได้พูดถึงเนียร์ที่สืบทอดแอลนี่ฟ่า)
สรุป... ตกลง L ชื่ออะไร -_-"
บอกมาแค่ แอล รอไลท์ (<--- สะกดด้วยความจงใจ กร๊าก) ก็ยังไม่รู้อยู่ดีแหละว่า ตกลง L ตัวแรกมันคืออาร้ายยยยยยยย
...ส่วนที่ฟังไม่เก็ท... ไอ้พวกเกี่ยวกะยาๆ ไวรัสๆ วัคซีนๆ เนี่ย ไม่เข้าใจฟ่ะ
ใครบอกทีจิ๊ว่าทำไมเนียร์ถึงไม่ติดเชื้อ อี MK มันคืออะไรฟร้าาาาาาาา
(ถ้าคนไทยดูคงขำ MK มีเยอะในเมืองไทยจริงๆนะ ร้านสุกี้ไง กรี๊ดดด)
แต่ฉากที่พ่อเด็กนั่นตายนี่...
พี่คะ... พี่โผขึ้นมาได้ไบโอฮาซาร์ดมากเลยค่ะ -_-" หนูเกือบคว้าปืนมายิงพี่แล้วล่ะค่ะ
สยองชะมัด...
เอาเป็นว่าจบก่อนละกัน ถ้านึกไรออกจะมากรี๊ดต่อก็จะมา หุๆ >__<~
สรุป... แอลตันจงเจริญ แอลตันเท๊ห์เท่ แอลตันน่าร้ากกกก~~~ 




จบจ้า~~

No comments:

Post a Comment