posted on 09 Feb 2008 21:04 by wasseryharp in MangaAnime, Personal | Edit This
มาแบบยังไม่สปอลย์ก่อน
วันนี้ยังคงตื่นสายโด่งเช่นเคย เพราะช่วงนี้ไม่เช้าไม่นอนจริงๆ
ระหว่างกำลังหลับสบายใจแสนโสภาในอ้อมอกป๋า(เฮ้ย) เสียงโทรศัพท์สายในก็ดังขึ้น พอคว้าไป เพื่อนก็บอกว่า
"มองไปนอกหน้าต่างสิ หิมะตกแล้ว"
เราเลยครึ่งตื่นโผจากอ้อมอกป๋า (แหลอีกแล้ว) ไปเปิดม่านหน้าต่าง

พอคว้ากล้องมาถ่ายก็พบว่า ไม่เห็นอะไรที่เหมือนหิมะเลย กร๊ากกกก
วันนี้ยังคงตื่นสายโด่งเช่นเคย เพราะช่วงนี้ไม่เช้าไม่นอนจริงๆ
ระหว่างกำลังหลับสบายใจแสนโสภาในอ้อมอกป๋า(เฮ้ย) เสียงโทรศัพท์สายในก็ดังขึ้น พอคว้าไป เพื่อนก็บอกว่า
"มองไปนอกหน้าต่างสิ หิมะตกแล้ว"
เราเลยครึ่งตื่นโผจากอ้อมอกป๋า (แหลอีกแล้ว) ไปเปิดม่านหน้าต่าง

พอคว้ากล้องมาถ่ายก็พบว่า ไม่เห็นอะไรที่เหมือนหิมะเลย กร๊ากกกก
แต่นะ ตอนเห็นก็รู้สึกว่ามันสวยดีแหละ เป็นเหมือนปุยๆอะไรสักอย่างเล็กๆสีขาวลอยลงมาจากท้องฟ้า
แต่พอยื่นมือออกไปจับ.... รู้สึกว่า.... มันก็แค่หยดน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งเลยร่วงลงมานี่ฟ่า กร๊ากกกกกก แต่ก็สวยดีนะอ่ะ
ว่าแล้ว...
เราก็หลับต่อซะงั้น หึหึ -_-"
ตื่นมาอีกทีก็ใกล้ได้เวลาที่เพื่อนนัดว่าเราจะออกไปดูหนังกัน นั่นก็คือ แท่น แทน แท้นนนน

ว่าแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปนอกหอ ก็เลยได้ถ่ายรูปเมืองมาอีกนิด

แล้วเราก็ไปที่โรงหนังกันในสภาพที่เค้ายังไม่ได้กินอะไรเลย ครึๆ

ว่าแล้วก็ซื้อตั๋วซื้อหนมแล้วก็ไปนั่งดูในโรง
แอลน่ารักโก๊ดๆ~~~ >__< เท่สุดๆไปเลยค่า แอลตันขา~~

ว่าแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปนอกหอ ก็เลยได้ถ่ายรูปเมืองมาอีกนิด

แล้วเราก็ไปที่โรงหนังกันในสภาพที่เค้ายังไม่ได้กินอะไรเลย ครึๆ

ว่าแล้วก็ซื้อตั๋วซื้อหนมแล้วก็ไปนั่งดูในโรง
แอลน่ารักโก๊ดๆ~~~ >__< เท่สุดๆไปเลยค่า แอลตันขา~~
พอหนังจบฟ้าก็มืดแล้ว แต่เค้ามีภารกิจสำคัญอีกอย่าง เลยบุกป่าฝ่าดงกระสุน(?)ไปยังรอส้น (ลอว์สัน) ปรากฏว่า... อีตู้ขายตั๋วมันเจ๊ง -_-"
ถามพนักงานว่าทำไงดี เค้าก็แนะนำให้ไปที่รอส้นอีกสาขา เลยต้องเดินท่ามกลางความหนาวไปอีกล่ะ เฮ่อ
ถ่ายดอกไม้ข้างทางมาฝาก

เมื่อไปถึงรอส้นอีกสาขา เราก็ต้องพบกับความลำบากอีกในการพิมพ์ชื่อตอนซื้อตั๋ว เพราะชื่อนามสกุลเรายาวมากกกกกก
พอพิมพ์เสร็จแล้วพบว่า... ตัวอักษรเกินอีกต่างหาก เลยต้องไปใส่ในช่องฟุริงานะอีก
หลังจากพิมพ์เสร็จสรรพ เอาบิลไปจ่ายกะตังค์ก็ได้ตั๋วมา
ตั๋วอะไรน่ะเหรอ...?

แต่นแต้นนนน ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ดูหรอก เพราะไปดูจากเวบที่ขายในเน็ทมันบอกว่าตั๋ววันวาเลนไทน์หมดแล้ว (โคเอแจ้งว่ารอบวันวาเลนไทน์จะมีอะไรพิเศษ) แต่โดนหนังสือทำนายดวงบอกว่าเดือนนี้จะโชคดีถ้าได้ไปหอศิลป์หรือโรงละคร ประกอบกับเช็คว่าถ้าซื้อตั๋วกะที่อื่นยังมีของรอบวันวาเลนไทน์ เลยไปซื้อมา หุๆ
แต่ต้องไปดูคนเดียว เศร้าจัง... TT^TT รอบวันวาเลนไทน์ต้องมีคู่เลิฟไปกันเยอะแน่เลย
ถามพนักงานว่าทำไงดี เค้าก็แนะนำให้ไปที่รอส้นอีกสาขา เลยต้องเดินท่ามกลางความหนาวไปอีกล่ะ เฮ่อ
ถ่ายดอกไม้ข้างทางมาฝาก

เมื่อไปถึงรอส้นอีกสาขา เราก็ต้องพบกับความลำบากอีกในการพิมพ์ชื่อตอนซื้อตั๋ว เพราะชื่อนามสกุลเรายาวมากกกกกก
พอพิมพ์เสร็จแล้วพบว่า... ตัวอักษรเกินอีกต่างหาก เลยต้องไปใส่ในช่องฟุริงานะอีก
หลังจากพิมพ์เสร็จสรรพ เอาบิลไปจ่ายกะตังค์ก็ได้ตั๋วมา
ตั๋วอะไรน่ะเหรอ...?

แต่นแต้นนนน ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ดูหรอก เพราะไปดูจากเวบที่ขายในเน็ทมันบอกว่าตั๋ววันวาเลนไทน์หมดแล้ว (โคเอแจ้งว่ารอบวันวาเลนไทน์จะมีอะไรพิเศษ) แต่โดนหนังสือทำนายดวงบอกว่าเดือนนี้จะโชคดีถ้าได้ไปหอศิลป์หรือโรงละคร ประกอบกับเช็คว่าถ้าซื้อตั๋วกะที่อื่นยังมีของรอบวันวาเลนไทน์ เลยไปซื้อมา หุๆ
แต่ต้องไปดูคนเดียว เศร้าจัง... TT^TT รอบวันวาเลนไทน์ต้องมีคู่เลิฟไปกันเยอะแน่เลย
เอาล่ะ จะสปอลย์ L change the world แล้วนะ ใครไม่อยากอ่าน หนีไปได้เลย
แอลตันน่ารักโคตรรรร~~~~ โมเอะเจ้าค่าาาาาาาาาาาา
โมเอะตั้งแต่ตอนเริ่มเลย ที่แบบว่า แอลตันกำลังจะไปรับคดีคิระ บอกว่ามีโอกาส เก้าสิบเท่าไหร่ไม่รุ้เปอร์เซนต์จำไม่ได้ ที่คิระจะอยู่ที่ญี่ปุ่น... แล้วก็พูดว่า "อาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว..." กรี๊ดดดดด เท่หลายเหลืออออ~~
ฉากน่ารักแอลตันเยอะมากมาย แถมมีฉากแอลตันพยายามเดินหลังตรงอีกต่างหาก
ในเรื่องน่ารักมากเลยที่แอลจะค่อยๆมีพัฒนาการทางอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะบอกว่าแอลแก้ปัญหาที่ใช้สมองไม่ได้ไม่ถนัดก็เถอะ แต่ในช่วงไม่กี่วันก็ทำให้แอลมีอารมณ์ต่างๆมากขึ้น
ต้องเรียกว่าเป็นยี่สิบสามวันสุดท้ายที่คุ้มค่ามากเลย
มากขนาดที่ตอนจบแอลพูดออกมาว่า เริ่มรู้สึกอยากจะอยู่ต่อไปแล้วสิ
แถมดูเรื่องนี้จบแล้วชอบวาตาริมากขึ้นไปอีก
เค้าก็ไม่ใช่แฟนอะไรเดธโน้ตเหนียวแน่นหนึบขนาดนั้น เลยคิดว่า ในบรรดาลิสต์ที่แอลติดต่อไปเรื่องวาตาริตายก็คือเด็กที่วาตาริเลี้ยงมา แล้วแต่ละคนก็ไปเป็นโปรในด้านต่างๆกันออกไป
(งั้นการที่ตอนแรกแอลลังเลที่จะกดส่งไปที่ K เป็นเพราะแอลระแคะระคายลักษณะนิสัยของเจ้าหล่อนอยู่แล้ว?)
เด็กที่วาตาริเลี้ยงมาแต่ละคนนี่ท่าทางจะรักวาตาริกันมากเลยล่ะมั้งเนี่ย ขนาดแม่หญิงนี่ถึงจะทำอะไรดูแล้วเล๊วเลวก็เถอะ แต่ในใจลึกๆก็เป็นการคิดที่ถูกสั่งสอนมาจากวาตาริก็ว่าได้ ที่ว่าให้ทำเพื่อให้โลกนี้ดีขึ้น
แต่นะ... เด็กที่วาตาริสอนมาแต่ละคน...
เป็นพวกไม่เลือกวิธีการทั้งนั้นเลยรึไงฟะ -_-'
ตอนท้ายที่แอลตันหยุด K สิ่งที่แอลพูด เราว่าแอลคงหมายถึงตัวเองด้วย คือ การที่ต้องให้คนส่วนนึงเสียสละเนี่ย จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก แอลก็คงนึกถึงคดีคิระที่ตัวเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ให้คนร้ายจำนวนไม่น้อยต้องเสียสละ โดยการอ้างว่าทำเพื่อให้จับคิระได้ จนกระทั่งตอนที่แอลเสียวาตาริไปด้วยนั่นแหละ แอลคงถึงได้เริ่มรู้สึกว่าไอ้วิธีแบบนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไร และแอลเองก็คงคิดรวมไปถึงเรื่องที่เอาตัวเองไปเป็นเหยื่อสังเวยคนนึงด้วย เพราะงั้นแอลถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่ "ไม่อาจทิ้งชีวิตที่อยู่ตรงหน้า" ได้
แต่ตัวร้ายในภาคนี้ มุมมองไม่ได้ต่างไปจากคิระ (ไลท์) เท่าไหร่ก็ว่าได้ล่ะมั้ง
ก็คือเป็นคนที่ "ฉลาด" กว่าคนอื่น แต่ไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายโดยแท้หรอก แถมยังเป็นคนที่บริสุทธิ์ คิดถึง "โลก" และ "สังคม" เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเมื่อพบกับความผิดหวังต่อสังคม จึงได้เปลี่ยนความรู้สึกนั้นเป็นความเจ็บปวด
และพอได้ "พลัง" อะไรบางอย่างมาในมือ ก็เลยรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีให้มันดีขึ้นในสายตาตนเอง
ก็เลยออกมาเป็นทั้ง คิระ ที่มีเดธโน้ตในมือ
แล้วก็เป็น K ที่ใช้ไวรัสอันตรายที่ทำให้คนตายได้ไม่นานหลังจากติดเชื้อ
(ปล เพราะอีไวรัสเนี่ยแหละ ฟังแทบไม่รุ้เรื่องเลยฟุ้ย ตรูไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการตัดต่อพันธุกรรมไวรัสนะยะ!!)
โมเอะตั้งแต่ตอนเริ่มเลย ที่แบบว่า แอลตันกำลังจะไปรับคดีคิระ บอกว่ามีโอกาส เก้าสิบเท่าไหร่ไม่รุ้เปอร์เซนต์จำไม่ได้ ที่คิระจะอยู่ที่ญี่ปุ่น... แล้วก็พูดว่า "อาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว..." กรี๊ดดดดด เท่หลายเหลืออออ~~
ฉากน่ารักแอลตันเยอะมากมาย แถมมีฉากแอลตันพยายามเดินหลังตรงอีกต่างหาก
ในเรื่องน่ารักมากเลยที่แอลจะค่อยๆมีพัฒนาการทางอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะบอกว่าแอลแก้ปัญหาที่ใช้สมองไม่ได้ไม่ถนัดก็เถอะ แต่ในช่วงไม่กี่วันก็ทำให้แอลมีอารมณ์ต่างๆมากขึ้น
ต้องเรียกว่าเป็นยี่สิบสามวันสุดท้ายที่คุ้มค่ามากเลย
มากขนาดที่ตอนจบแอลพูดออกมาว่า เริ่มรู้สึกอยากจะอยู่ต่อไปแล้วสิ
แถมดูเรื่องนี้จบแล้วชอบวาตาริมากขึ้นไปอีก
เค้าก็ไม่ใช่แฟนอะไรเดธโน้ตเหนียวแน่นหนึบขนาดนั้น เลยคิดว่า ในบรรดาลิสต์ที่แอลติดต่อไปเรื่องวาตาริตายก็คือเด็กที่วาตาริเลี้ยงมา แล้วแต่ละคนก็ไปเป็นโปรในด้านต่างๆกันออกไป
(งั้นการที่ตอนแรกแอลลังเลที่จะกดส่งไปที่ K เป็นเพราะแอลระแคะระคายลักษณะนิสัยของเจ้าหล่อนอยู่แล้ว?)
เด็กที่วาตาริเลี้ยงมาแต่ละคนนี่ท่าทางจะรักวาตาริกันมากเลยล่ะมั้งเนี่ย ขนาดแม่หญิงนี่ถึงจะทำอะไรดูแล้วเล๊วเลวก็เถอะ แต่ในใจลึกๆก็เป็นการคิดที่ถูกสั่งสอนมาจากวาตาริก็ว่าได้ ที่ว่าให้ทำเพื่อให้โลกนี้ดีขึ้น
แต่นะ... เด็กที่วาตาริสอนมาแต่ละคน...
เป็นพวกไม่เลือกวิธีการทั้งนั้นเลยรึไงฟะ -_-'
ตอนท้ายที่แอลตันหยุด K สิ่งที่แอลพูด เราว่าแอลคงหมายถึงตัวเองด้วย คือ การที่ต้องให้คนส่วนนึงเสียสละเนี่ย จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก แอลก็คงนึกถึงคดีคิระที่ตัวเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ให้คนร้ายจำนวนไม่น้อยต้องเสียสละ โดยการอ้างว่าทำเพื่อให้จับคิระได้ จนกระทั่งตอนที่แอลเสียวาตาริไปด้วยนั่นแหละ แอลคงถึงได้เริ่มรู้สึกว่าไอ้วิธีแบบนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไร และแอลเองก็คงคิดรวมไปถึงเรื่องที่เอาตัวเองไปเป็นเหยื่อสังเวยคนนึงด้วย เพราะงั้นแอลถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่ "ไม่อาจทิ้งชีวิตที่อยู่ตรงหน้า" ได้
แต่ตัวร้ายในภาคนี้ มุมมองไม่ได้ต่างไปจากคิระ (ไลท์) เท่าไหร่ก็ว่าได้ล่ะมั้ง
ก็คือเป็นคนที่ "ฉลาด" กว่าคนอื่น แต่ไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายโดยแท้หรอก แถมยังเป็นคนที่บริสุทธิ์ คิดถึง "โลก" และ "สังคม" เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเมื่อพบกับความผิดหวังต่อสังคม จึงได้เปลี่ยนความรู้สึกนั้นเป็นความเจ็บปวด
และพอได้ "พลัง" อะไรบางอย่างมาในมือ ก็เลยรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีให้มันดีขึ้นในสายตาตนเอง
ก็เลยออกมาเป็นทั้ง คิระ ที่มีเดธโน้ตในมือ
แล้วก็เป็น K ที่ใช้ไวรัสอันตรายที่ทำให้คนตายได้ไม่นานหลังจากติดเชื้อ
(ปล เพราะอีไวรัสเนี่ยแหละ ฟังแทบไม่รุ้เรื่องเลยฟุ้ย ตรูไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการตัดต่อพันธุกรรมไวรัสนะยะ!!)
แต่อีตัวร้ายประกอบเนี่ยสิ ที่ไม่ค่อยแน่นอนในวัตถุประสงค์ ดูแล้วไม่มีมิติมากไปอ๊ะป่าว?
สุดท้ายแอลตันก็เลยบอกกับเด็กน้อยที่เอามาจากเมืองไทยว่า
"ถึงจะอัจฉริยะยังไง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกคนเดียวได้หรอก"
นี่คงเป็นการบอกของแอลต่อเด็กน้อยอัจฉริยะคนนั้นว่า ถึงโลกจะเลวร้ายยังไง แต่อำนาจของคนๆเดียวเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้หรอก ที่จะเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อคนเราหันมาผูกพันกับคนรอบข้างต่างหาก ถึงจะมีพลังเกิดขึ้นจริงๆ
เค้าคิดว่านะ สำหรับแอลที่เปลี่ยนแปลง (ช่วย) โลกได้นักต่อนัก ก็คงเพราะว่าแอลมี "วาตาริ" อยู่นั่นเอง แม้ว่าหลังจากวาตาริตายไปแล้ว วาตาริก็ยังอยู่ในใจแอลตลอดไป เพราะงั้นแอลถึงยังสามารถช่วยโลกได้
"ถึงจะอัจฉริยะยังไง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกคนเดียวได้หรอก"
นี่คงเป็นการบอกของแอลต่อเด็กน้อยอัจฉริยะคนนั้นว่า ถึงโลกจะเลวร้ายยังไง แต่อำนาจของคนๆเดียวเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้หรอก ที่จะเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อคนเราหันมาผูกพันกับคนรอบข้างต่างหาก ถึงจะมีพลังเกิดขึ้นจริงๆ
เค้าคิดว่านะ สำหรับแอลที่เปลี่ยนแปลง (ช่วย) โลกได้นักต่อนัก ก็คงเพราะว่าแอลมี "วาตาริ" อยู่นั่นเอง แม้ว่าหลังจากวาตาริตายไปแล้ว วาตาริก็ยังอยู่ในใจแอลตลอดไป เพราะงั้นแอลถึงยังสามารถช่วยโลกได้
ว่าแต่... แอลเป็นโลลิคอนเรอะ?...
แต่ไงๆฉากบาร์บีคิวขนมแต่ละฉาก แอลตันก็ช่างน่ารักไม่ได้หยุดได้หย่อนจริงจริ๊งงงง~~~
แต่ไงๆฉากบาร์บีคิวขนมแต่ละฉาก แอลตันก็ช่างน่ารักไม่ได้หยุดได้หย่อนจริงจริ๊งงงง~~~
สงสาร FBI จริงๆ คนญี่เห็น FBI เป็นตัวอะไรหว่า เหอะๆ โดนเอาเป็นตัวล่อตลอดเวลา
ทั้งขำทั้งสงสารตอนที่พ่อ FBI ทำหน้าบานที่แอลบอกว่าจะขอให้ช่วยหน่อย ที่ไหนได้ ก็ให้ไปขับรถวนเป็นตัวล่ออย่างเดิมอีกต่างหาก
พอเลิกเป็น FBI เปิดร้านเครปได้เลยนะพี่ อิอิ
ทั้งขำทั้งสงสารตอนที่พ่อ FBI ทำหน้าบานที่แอลบอกว่าจะขอให้ช่วยหน่อย ที่ไหนได้ ก็ให้ไปขับรถวนเป็นตัวล่ออย่างเดิมอีกต่างหาก
พอเลิกเป็น FBI เปิดร้านเครปได้เลยนะพี่ อิอิ
ว่าแต่... ฉากตอนลงจากรถเครปครั้งแรกนั่น... อากิบะ สินะ -_-"
เลือกที่ทำงานได้ดีมากเลย แอลเอ๋ย ล่อซะ เมดคาเฟ่เนี่ยนะ
แถมประกอบอีนั่นได้เองอีกต่างหาก ไม่น่าเชื่อ ทำอะไรก็ได้หมดเลยนะค้า (ยกเว้นดูแลตัวเองเรอะ)
น่านสิ ว่าแล้วก็แอบสงสัยว่า หลังจากวาตาริตาย แอลอยู่ได้ไงเนี่ย เรื่องรอบตัวใครเป็นคนดูแลให้เรอะ
เลือกที่ทำงานได้ดีมากเลย แอลเอ๋ย ล่อซะ เมดคาเฟ่เนี่ยนะ
แถมประกอบอีนั่นได้เองอีกต่างหาก ไม่น่าเชื่อ ทำอะไรก็ได้หมดเลยนะค้า (ยกเว้นดูแลตัวเองเรอะ)
น่านสิ ว่าแล้วก็แอบสงสัยว่า หลังจากวาตาริตาย แอลอยู่ได้ไงเนี่ย เรื่องรอบตัวใครเป็นคนดูแลให้เรอะ
ส่วนที่ว่าแปลกอีกอย่างก็คือ การทำวัคซีนที่... เร็วเหลือเชื่อ ถึงจะบอกว่ามีคำใบ้ให้ก็เถอะ แถมที่ทำก็ดูแล้วไม่ได้เจริญอย่างอีศูนย์วิจัยโรคติดต่อตอนแรก แถมคอมเพล็กในใจของอาจารย์คนนั้นที่ว่าเคยทำวัคซีนแล้วคนตายอ่ะ ก็ดูอ่อนไปหน่อย เพราะเห็นก็กลับมาทำวัคซีนได้อย่างไม่มีอะไร แถมตั้งอกตั้งใจอีกต่างหาก (เสร็จไวโคตรๆอีกด้วย)
โลเกชั่นเมืองไทย... ออกมาหลายฉากเหมือนกันนะ ว่าแต่อีระเบิดหมู่บ้านนั่นบ้านเมืองตรูด้วยอ่ะป่าว
ป่าไม้ประเทศตรูนะเฟ้ยยยยยย!!!
ฉากตลาดก็น่ารักดี ดูแล้วรู้สึกเหมือนคนไทยใจดีจังนะ อิอิ
แต่...
ฉากเครื่องบินนี่สิที่น่าสงสัย ถ่ายเมืองไทยชิมิอ่ะ? แต่ตอนนั้นอยู่ญี่ปุ่นกันไม่ใช่เรอะ หรือแค่เช่าเครื่องบินถ่าย
แต่วันทูโก...
ได้ข่าวว่าเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ...
มันไม่บินไปอเมริกาไม่ใช่เรอะ!! O_O!!!!!
ป่าไม้ประเทศตรูนะเฟ้ยยยยยย!!!
ฉากตลาดก็น่ารักดี ดูแล้วรู้สึกเหมือนคนไทยใจดีจังนะ อิอิ
แต่...
ฉากเครื่องบินนี่สิที่น่าสงสัย ถ่ายเมืองไทยชิมิอ่ะ? แต่ตอนนั้นอยู่ญี่ปุ่นกันไม่ใช่เรอะ หรือแค่เช่าเครื่องบินถ่าย
แต่วันทูโก...
ได้ข่าวว่าเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ...
มันไม่บินไปอเมริกาไม่ใช่เรอะ!! O_O!!!!!
ที่ช๊อคสุดๆก็คือ... ตอนแรกเห็นอีเด็กเก็บจากไทยและคงเป็นเด็กไทยด้วยอ่ะแหละ ฉลาดเหลือหลาย พูดน้อยอีกต่างหาก เลยคิดเล่นๆว่าจะใช่รึเปล่าน้า ให้เหลือเกิน...
ที่ไหนได้...
มันเป็นเนียร์จริงๆด้วยอ่ะ กรี๊ซซซซซซซซซซ!!!!!!!
งี้แปลว่าออฟฟิเชี่ยลให้ข้อมูลว่า เนียร์เป็นคนไทย? กรี๊ซซซซซซซซซซซ
(แต่คนเล่นเป็นเด็กญี่ใช่มิ? เห็นรายชือนักแสดงแว่บๆ)
งี้แล้ว เมลโลล่ะ!!!!!!
พอเห็นงี้แล้วเลยรู้สึกเข้าใจว่าทำไมเนียร์ถึงเป็นผู้สืบทอดแอลได้ เพราะถ้าได้เห็นเหตุการณ์แบบนั้น ได้ฟังคำพูดของแอลแบบนั้น แล้วได้อยู่กับแอลแบบนั้น ก็คงได้รับอะไรหลายๆอย่างจากแอล
แล้วเนียร์เองก็คงมี "แอล" อยู่ในใจไปตลอด เหมือนกับที่ในใจแอลมี "วาตาริ" อยู่อย่างแน่นอน
(แต่ในหนัง ไม่ได้พูดถึงเนียร์ที่สืบทอดแอลนี่ฟ่า)
ที่ไหนได้...
มันเป็นเนียร์จริงๆด้วยอ่ะ กรี๊ซซซซซซซซซซ!!!!!!!
งี้แปลว่าออฟฟิเชี่ยลให้ข้อมูลว่า เนียร์เป็นคนไทย? กรี๊ซซซซซซซซซซซ
(แต่คนเล่นเป็นเด็กญี่ใช่มิ? เห็นรายชือนักแสดงแว่บๆ)
งี้แล้ว เมลโลล่ะ!!!!!!
พอเห็นงี้แล้วเลยรู้สึกเข้าใจว่าทำไมเนียร์ถึงเป็นผู้สืบทอดแอลได้ เพราะถ้าได้เห็นเหตุการณ์แบบนั้น ได้ฟังคำพูดของแอลแบบนั้น แล้วได้อยู่กับแอลแบบนั้น ก็คงได้รับอะไรหลายๆอย่างจากแอล
แล้วเนียร์เองก็คงมี "แอล" อยู่ในใจไปตลอด เหมือนกับที่ในใจแอลมี "วาตาริ" อยู่อย่างแน่นอน
(แต่ในหนัง ไม่ได้พูดถึงเนียร์ที่สืบทอดแอลนี่ฟ่า)
สรุป... ตกลง L ชื่ออะไร -_-"
บอกมาแค่ แอล รอไลท์ (<--- สะกดด้วยความจงใจ กร๊าก) ก็ยังไม่รู้อยู่ดีแหละว่า ตกลง L ตัวแรกมันคืออาร้ายยยยยยยย
บอกมาแค่ แอล รอไลท์ (<--- สะกดด้วยความจงใจ กร๊าก) ก็ยังไม่รู้อยู่ดีแหละว่า ตกลง L ตัวแรกมันคืออาร้ายยยยยยยย
...ส่วนที่ฟังไม่เก็ท... ไอ้พวกเกี่ยวกะยาๆ ไวรัสๆ วัคซีนๆ เนี่ย ไม่เข้าใจฟ่ะ
ใครบอกทีจิ๊ว่าทำไมเนียร์ถึงไม่ติดเชื้อ อี MK มันคืออะไรฟร้าาาาาาาา
(ถ้าคนไทยดูคงขำ MK มีเยอะในเมืองไทยจริงๆนะ ร้านสุกี้ไง กรี๊ดดด)
ใครบอกทีจิ๊ว่าทำไมเนียร์ถึงไม่ติดเชื้อ อี MK มันคืออะไรฟร้าาาาาาาา
(ถ้าคนไทยดูคงขำ MK มีเยอะในเมืองไทยจริงๆนะ ร้านสุกี้ไง กรี๊ดดด)
แต่ฉากที่พ่อเด็กนั่นตายนี่...
พี่คะ... พี่โผขึ้นมาได้ไบโอฮาซาร์ดมากเลยค่ะ -_-" หนูเกือบคว้าปืนมายิงพี่แล้วล่ะค่ะ
สยองชะมัด...
เอาเป็นว่าจบก่อนละกัน ถ้านึกไรออกจะมากรี๊ดต่อก็จะมา หุๆ >__<~
พี่คะ... พี่โผขึ้นมาได้ไบโอฮาซาร์ดมากเลยค่ะ -_-" หนูเกือบคว้าปืนมายิงพี่แล้วล่ะค่ะ
สยองชะมัด...
เอาเป็นว่าจบก่อนละกัน ถ้านึกไรออกจะมากรี๊ดต่อก็จะมา หุๆ >__<~
สรุป... แอลตันจงเจริญ แอลตันเท๊ห์เท่ แอลตันน่าร้ากกกก~~~
จบจ้า~~
No comments:
Post a Comment