วันนี้ก็ไม่ว่างอีกตามเคย รอเพื่อนออนเอ็มอยู่ แต่มั๊นนน ก็ไม่มาสักที หมายความว่าไงฟะ เป็นคนนัดไม่ใช่เร้อออออ
ไปแอบอ่านเอนทรี่เก่าๆตัวเอง รู้สึกว่ามีข้อมูลผิดๆอยู่เหมือนกัน ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวคงจะเขียนของสองพี่น้องที่โคตรจะตรงกันข้ามของไทระใหม่ ตัวชิโรงาเนะคุงนี่คงเขียนใหม่เกือบหมด ส่วนของเจ้าโทโมโมริคงจะเขียนใหม่+เพิ่มเติมให้ละเอียดๆ เพราะกะจะรวมบทพูดใส่ลงไปด้วย กร๊ากกกกก แสดงออกถึงความบ้ากันเห็นๆ
วันนี้ก็มาด้วยเบียกโกะ 2 ท่านนะคะ~
Ten no Byakko : Arikawa Yuzuru 有川譲

วันเกิด : เดือน7 วันที่ 17
อายุ : 16
ธาตุ : ทอง
ส่วนสูง : 180
ฐานะ : นักเรียน ม. 4 (ปกติชนสุดเลยมั้งเนี่ย ^^" ดูแล้วนอกคอกไงไม่รุ้)
นักพากย์ : Nakahara Shigeru 中原茂

วันเกิด : เดือน7 วันที่ 17
อายุ : 16
ธาตุ : ทอง
ส่วนสูง : 180
ฐานะ : นักเรียน ม. 4 (ปกติชนสุดเลยมั้งเนี่ย ^^" ดูแล้วนอกคอกไงไม่รุ้)
นักพากย์ : Nakahara Shigeru 中原茂
เป็นตัวละครที่... ยอมรับกันตรงๆเลยว่าไม่ใช่สเปคอย่างมาก แต่เล่นๆไปเนื้อเรื่องก็โอเช แต่... ไงๆก็ไม่ค่อยชอบมุขฝ่ายชายอายุน้อยกว่าฝ่ายหญิงแหะ เข้าข่ายหัวโบราณป่าวนี่ แล้วนิสัยตานี่ก็แสดงความหึงหวงนางเอกใช้ได้อีกต่างหาก เลยไม่ค่อยชอบมั้ง ตรงตำราตรูเห็นมานาน ตรูกลัว มคปด มั้งเนี่ย ตานี่ อีกอย่างคือ ตานี่ห่วงนางเอกมากกกกกก จนแอบรำคาญไงๆไม่รุ้ แบบ พูดตรงๆเกิดมีแม่ยกแถวนี้ ตรูจะโดนตื้บมะเนี่ย เหมือน หมาหวงก้างไงไม่รุ้อ่ะ ตานี่ เอาเป็นว่าไม่พูดมากดีกว่ามั้งเนี่ย เหอๆ
นิสัยตานี่ก็ เป็นห่วงนางเอกเอามาก ดูแล้วท่าทางเป็นเด็กเรียนก็จริง แต่ก็อยู่ชมรมยิงธนูด้วย ตอนหลุดมาโลกนี้เลยได้กำไรโดยการฝากตัวเป็นศิษย์ของโยอิจิ นักธนูชื่อดังคนหนึ่งของญี่ปุ่น (ที่โผล่ไปเป็นชื่ออาวุธในไฟนอลด้วย อุๆ) แล้วก็ท่าทางอีตานี่จะไม่ค่อยถูกกับพี่ชายตัวเอง(มาซาโอเมี้ยว)เท่าไหร่ อาจจะเพราะเรื่องหึงหวงนางเอกด้วยล่ะมั้ง
เนื้อเรื่องของตานี่ก็ไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วยูซุรุเป็นทายาทของ 星の一族 (ของไทยแปลว่าไรฟะ ลืม ที่องค์หญิงฟุจิเป็นในภาคแรกอ่ะ) ซึ่งมีหน้าที่คอยช่วยมิโกะและเห็นอนาคตได้ โดยคุณย่า (ไม่ก็ยายเนี่ยแหละ) ของยูซุรุน่าจะเป็นผู้นำของ 星の一族 ที่น่าจะออกเดินทางตามหามิโกะจนหลุดไปยังโลกของนางเอกแล้วก็มีครอบครัว โดยหลักฐานคือแก้วของ8 กลีบนั้นมันมีอยู่ที่ยูซุระอยู่แล้วดวงนึงและยูซุรุก็บอกว่าเป็นของดูต่างหน้าจากคุณย่า/ยาย ซึ่งปกติแล้วแก้ว 8 ดวงนี้ ผู้นำของ 星の一族 จะเป็นคนเก็บรักษาไว้
เมื่อเล่นไปเรื่อยๆจะพบว่ายูซุรุคุงจะมีอาการอ่อนเพลีย พอถามไปถามมาจึงได้ความว่า ช่วงนี้นอนไม่หลับ เป็นเพราะว่าฝันเห็นตัวเองจะต้องตาย ยูซุรุก็จะเกิดกังวลว่านี่เป็นความสามารถเห็นอนาคตของพวก 星の一族 หรือเปล่า แถมในฝันนั้นตัวเองยังต้องตายเพราะปกป้องนางเอกอีกต่างหาก แล้วเรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆ ยูซุรุก็เพิ่มระดับความกังวลไปเรื่อย จนมีครั้งนึงที่ไปกดนางเอกติดกำแพงแล้วก็เผยความในใจทั้งหมดออกมาเพราะเกิดกลัวขึ้นมาว่าเมื่อตนเองตายไปแล้วนางเอกก็จะไปมีความสุขกับคนอื่นในสักวัน
จนมาถึงศึกนึงที่พวกไทระหนีลงเรือแล้ว แล้วรู้สึกจะเป็นการท้าทายอะไรสักอย่างในสมัยก่อนที่เอาพัดไปติดบนยอดเสากระโดงเรือ แล้วคนของทัพอีกฝ่ายจะต้องยิงธนูให้โดนพัด ยูซุรุก็อาสาเป็นคนไปส่องพัด แต่พอยิงโดนนั่นเอง คิโยโมริก็ใช้เกล็ดมังกรดำส่องยิงเลเซอร์จากระยะไกลใส่นางเอก ยูซุรุก็เลยโดดเข้าไปขวางและโดนแสงนั่นซะเอง แถมตอนนั้นเกล็ดมังกรมหัศจรรย์นางเอกก็แตกไปซะอีก ยูซุรุก็เลยตายตามความฝัน ส่วนนางเอกก็ช๊อค แต่แล้วด้วยปาฏิหาริย์แห่งรัก พอนางเอกร้องไห้ น้ำตาของนางเอกก็ทำให้เกล็ดมังกรขาวกลับมาใช้ได้อย่างเดิม (เอิ๊ก ออกจะเน่าๆไงไม่ทราบ แต่คนอินก็คงซึ้งเนอะ) นางเอกจึงเดินทางข้ามกาลเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขอดีตให้ยูซุรุไม่ต้องตาย
พอกลับมาถึงปุ๊บก็เจอยูซุรุในห้องครัว...

失われた日常 วันคืนที่สูญเสียไป
นางเอกกลับมาเห็นยูซุรุยังมีชีวิตอยู่ก็น้ำตาซึมโผเข้าไปหา
หลังจากนั้นนางเอกก็เลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปให้ทั้งยูซุรุและมาซาโอเมี้ยวฟัง เพื่อจะทำลายแผนการของคิโยโมริ
พอเนื้อเรื่องกลับไปจนถึงที่ตายยูซุรุ คราวนี้ยูซุรุเลยซ้อนแผนด้วยการไม่ยิงพัด แต่ยิงไปที่เกล็ดมังกรดำแทน ทำให้เกล็ดมังกรแตก ส่วนมาซาโอเมี้ยวก็หยุดคิโยโมริไว้ เพราะไงๆมาซาโอมิก็ต้องการแค่ให้ไทระรอดตายเท่านั้น
สุดท้าย พอจัดการอะไรๆเสร็จ มาซาโอเมี้ยวก็อยู่ที่โลกนี้ดูแลไทระต่อไป ส่วนนางเอกก็กลับมากับยูซุรุคุง

ฉากจบ 陽だまりの中で ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น
ชื่อภาพ 奇跡 あたり前の風景の中で ปาฏิหาริย์ ท่ามกลางบรรยากาศที่คุ้นเคย
ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ตามรูปเน้อ รุ่นพี่กะรุ่นน้อง เฮ่ออ.... สรุปว่า ไม่ชอบอ่ะ แล้วแต่คนอื่นนะเน้อ คิดไง
นิสัยตานี่ก็ เป็นห่วงนางเอกเอามาก ดูแล้วท่าทางเป็นเด็กเรียนก็จริง แต่ก็อยู่ชมรมยิงธนูด้วย ตอนหลุดมาโลกนี้เลยได้กำไรโดยการฝากตัวเป็นศิษย์ของโยอิจิ นักธนูชื่อดังคนหนึ่งของญี่ปุ่น (ที่โผล่ไปเป็นชื่ออาวุธในไฟนอลด้วย อุๆ) แล้วก็ท่าทางอีตานี่จะไม่ค่อยถูกกับพี่ชายตัวเอง(มาซาโอเมี้ยว)เท่าไหร่ อาจจะเพราะเรื่องหึงหวงนางเอกด้วยล่ะมั้ง
เนื้อเรื่องของตานี่ก็ไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วยูซุรุเป็นทายาทของ 星の一族 (ของไทยแปลว่าไรฟะ ลืม ที่องค์หญิงฟุจิเป็นในภาคแรกอ่ะ) ซึ่งมีหน้าที่คอยช่วยมิโกะและเห็นอนาคตได้ โดยคุณย่า (ไม่ก็ยายเนี่ยแหละ) ของยูซุรุน่าจะเป็นผู้นำของ 星の一族 ที่น่าจะออกเดินทางตามหามิโกะจนหลุดไปยังโลกของนางเอกแล้วก็มีครอบครัว โดยหลักฐานคือแก้วของ8 กลีบนั้นมันมีอยู่ที่ยูซุระอยู่แล้วดวงนึงและยูซุรุก็บอกว่าเป็นของดูต่างหน้าจากคุณย่า/ยาย ซึ่งปกติแล้วแก้ว 8 ดวงนี้ ผู้นำของ 星の一族 จะเป็นคนเก็บรักษาไว้
เมื่อเล่นไปเรื่อยๆจะพบว่ายูซุรุคุงจะมีอาการอ่อนเพลีย พอถามไปถามมาจึงได้ความว่า ช่วงนี้นอนไม่หลับ เป็นเพราะว่าฝันเห็นตัวเองจะต้องตาย ยูซุรุก็จะเกิดกังวลว่านี่เป็นความสามารถเห็นอนาคตของพวก 星の一族 หรือเปล่า แถมในฝันนั้นตัวเองยังต้องตายเพราะปกป้องนางเอกอีกต่างหาก แล้วเรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆ ยูซุรุก็เพิ่มระดับความกังวลไปเรื่อย จนมีครั้งนึงที่ไปกดนางเอกติดกำแพงแล้วก็เผยความในใจทั้งหมดออกมาเพราะเกิดกลัวขึ้นมาว่าเมื่อตนเองตายไปแล้วนางเอกก็จะไปมีความสุขกับคนอื่นในสักวัน
จนมาถึงศึกนึงที่พวกไทระหนีลงเรือแล้ว แล้วรู้สึกจะเป็นการท้าทายอะไรสักอย่างในสมัยก่อนที่เอาพัดไปติดบนยอดเสากระโดงเรือ แล้วคนของทัพอีกฝ่ายจะต้องยิงธนูให้โดนพัด ยูซุรุก็อาสาเป็นคนไปส่องพัด แต่พอยิงโดนนั่นเอง คิโยโมริก็ใช้เกล็ดมังกรดำส่องยิงเลเซอร์จากระยะไกลใส่นางเอก ยูซุรุก็เลยโดดเข้าไปขวางและโดนแสงนั่นซะเอง แถมตอนนั้นเกล็ดมังกรมหัศจรรย์นางเอกก็แตกไปซะอีก ยูซุรุก็เลยตายตามความฝัน ส่วนนางเอกก็ช๊อค แต่แล้วด้วยปาฏิหาริย์แห่งรัก พอนางเอกร้องไห้ น้ำตาของนางเอกก็ทำให้เกล็ดมังกรขาวกลับมาใช้ได้อย่างเดิม (เอิ๊ก ออกจะเน่าๆไงไม่ทราบ แต่คนอินก็คงซึ้งเนอะ) นางเอกจึงเดินทางข้ามกาลเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขอดีตให้ยูซุรุไม่ต้องตาย
พอกลับมาถึงปุ๊บก็เจอยูซุรุในห้องครัว...

失われた日常 วันคืนที่สูญเสียไป
นางเอกกลับมาเห็นยูซุรุยังมีชีวิตอยู่ก็น้ำตาซึมโผเข้าไปหา
หลังจากนั้นนางเอกก็เลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปให้ทั้งยูซุรุและมาซาโอเมี้ยวฟัง เพื่อจะทำลายแผนการของคิโยโมริ
พอเนื้อเรื่องกลับไปจนถึงที่ตายยูซุรุ คราวนี้ยูซุรุเลยซ้อนแผนด้วยการไม่ยิงพัด แต่ยิงไปที่เกล็ดมังกรดำแทน ทำให้เกล็ดมังกรแตก ส่วนมาซาโอเมี้ยวก็หยุดคิโยโมริไว้ เพราะไงๆมาซาโอมิก็ต้องการแค่ให้ไทระรอดตายเท่านั้น
สุดท้าย พอจัดการอะไรๆเสร็จ มาซาโอเมี้ยวก็อยู่ที่โลกนี้ดูแลไทระต่อไป ส่วนนางเอกก็กลับมากับยูซุรุคุง

ฉากจบ 陽だまりの中で ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น
ชื่อภาพ 奇跡 あたり前の風景の中で ปาฏิหาริย์ ท่ามกลางบรรยากาศที่คุ้นเคย
ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ตามรูปเน้อ รุ่นพี่กะรุ่นน้อง เฮ่ออ.... สรุปว่า ไม่ชอบอ่ะ แล้วแต่คนอื่นนะเน้อ คิดไง
Chi no Byakko : Kajiwara no Kagetoki 梶原景時

วันเกิด : เดือน3 วันที่ 5
อายุ : 27
ธาตุ : ทอง
ส่วนสูง : 186
ฐานะ : นักรบของฝั่งเกนจิ (ดิกมันแปลว่า shogunate administrator อ่ะไม่รู้เหมือนกันว่าไงดี แต่ท่าทางตำแหน่งสูงเหมือนกัน)
นักพากย์ : Inoue Kazuhiko 井上和彦

วันเกิด : เดือน3 วันที่ 5
อายุ : 27
ธาตุ : ทอง
ส่วนสูง : 186
ฐานะ : นักรบของฝั่งเกนจิ (ดิกมันแปลว่า shogunate administrator อ่ะไม่รู้เหมือนกันว่าไงดี แต่ท่าทางตำแหน่งสูงเหมือนกัน)
นักพากย์ : Inoue Kazuhiko 井上和彦
เป็นอีกหนึ่งคนที่ยอมรับว่าเห็นแล้วไม่ชอบเล้ยยยย รู้สึกรับไม่ได้กับทรงผมแบบนี้ หน้าตาแบบนั้น กับชุดที่... เอ่อ... เปิดท้องโชว์กันซะอย่างนั้นเลย แถมนิสัยก็ต๊องๆอีกต่างหาก เลยเหมือนว่าจะไม่ชอบเบียกโกะมันซะทั้งสองคน แต่พอเล่นๆไปแล้ว อืมมมม ตานี่ก็ไม่เลวแหะ (แต่ช่วยปิดพุงซะทีเถอะ...)
นิสัย... ตานี่เป็นคนสบายๆบ๊องๆ ทำให้น้องสาว(ซากุ) มองว่าเป็นพี่ที่พึ่งพาไม่ได้อยู่ตลอด เป็นนักองเมียวที่ดั๊นใช้ปืน แต่ก็มีสาเหตุให้ใช้ปืนล่ะนะ นอกจากนี้ยังเป็นทหารของโยริโตโมะที่ซื่อสัตย์ต่อโยริโตโมะมาก แถมโยริโตโมะก็ท่าทางจะชอบใช้งานตานี่ซะอีก เป็นคนมีบาดแผลมาก็ว่างั้น เลยทำให้เป็นคนมีสองหน้าเหมือนกัน คือ หน้าปกติที่ร่าเริงแจ่มใส กับอีกหน้าที่คอยทำหน้าที่ไม่ดี เช่น พวกลอบสังหาร ให้โยริโตโมะ
เนื้อเรื่องของตานี่ก็ตอนแรกก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ตอนอยู่ที่ค่าย สักประมาณตอนที่ 3 ได้มั้ง เราจะมีโอกาสไปคุยกันสองต่อสองเรื่องอดีตของตานี่ จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วตานี่เคยอยู่ฝ่ายไทระมาก่อน แต่ตอนที่ที่ที่ตัวเองอยู่ถูกโจมตี ตัวเองก็ได้เห็นพลังอำนาจของเทพที่ปกป้องโยริโตโมะไว้ และเกิดกลัวขึ้นมา จึงหักหลังไทระและมาอยู่กับเกนจิ นี่ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คาเงะโทคิซื่อสัตย์ต่อโยริโตโมะมาก
แล้วพอไปเรื่อยๆก็จะมีอีเวนท์ยิงดอกไม้ไฟ ซึ่งเป็นวิชาองเมียวของคาเงะโทคิ อีเวนท์นี้เราก็จะได้รู้ว่าคาเงะโทคิเป็นพวกชอบประดิษฐ์อะไรมาก ปืนที่ใช้อยู่นี่ก็ทำเอง แล้วจะได้รู้ว่าคาเงะโทคิคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ตอนเรียนวิชาองเมียว เวลาจะใช้จริงก็ปอด ทำให้ร่ายมนต์อะไรไม่ถูก ตัวเองเลยทำปืนกับกระสุนมนต์ขึ้นมา จะได้ตัดปัญหาเรื่องร่ายมนต์ออกไป แล้วต่อจากนี้ไปเราก็ต้องฝึกท่ากระสุนเวทย์ของตานี่ไว้เยอะๆ
แล้วก็ไปเรื่อยๆอีก คืนก่อนศึกชี้ชะตากับไทระ นางเอกที่ค่อนข้างจะรู้แกวว่าคาเงะโทคิมักได้รับบทไม่ดีก็เห็นท่าทางคาเงะโทคิแปลกๆไป และคาเงะโทคิเองก็...

逃げよう... หนีกันเถอะ...
เป็นอะไรที่แอบประทับใจไม่น้อย คาเงะโทคิชวนให้เราหนีไปด้วยกันสองคน โดยที่ตัวเองจะยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่กระทั่งครอบครัว
แต่สุดท้ายแล้วนางเอกก็เตือน(ถ้าจำไม่ผิด)ให้คาเงะโทคิไม่หนีความเป็นจริงไป
วันต่อมาก็เป็นศึกที่ดันโนะอุระที่เกนจิชนะไทระได้สำเร็จ แต่งานนี้กลับมีเจ๊มาซาโกะ ภริยาโยริโตโมะห้อยตามมาด้วย เมื่อชนะศึกแล้ว...
คาเงะโทคิกลับหันปืนมาทางเรา ที่แท้สาเหตุที่คาเงะโทคิจะพาเราหนีไปก็คือ คำสั่งลับงวดนี้เป็นคำสั่งให้เก็บมิโกะนั่นเอง ส่วนอาเจ๊มาซาโกะก็เป็นคนมาคอยตามดู
ตัวนางเอกนั้นก็เชื่อใจและยอมให้คาเงะโทคิยิง และคาเงะโทคิก็ยิงนางเอกทั้งน้ำตา...

せめてオレの手で... อย่างน้อย... ด้วยมือของข้าเอง
ชื่อรูปนี่ก็มาจากในเกม ที่คาเงะโทคิขอกับมาซาโกะว่า ให้ตนเองได้เป็นคนทำศพคนสำคัญของตนเองเอง ซึ่งมาซาโกะก็ยินยอม หลังจากนั้น 8 กลีบที่เหลือก็โดนจับไป
....
แต่เรื่องมันจะจบแบบนี้ได้ไง!!
แล้วนางเอกก็ฟื้นขึ้นมา ถามว่าฟื้นได้ไง ก็เพราะว่าจริงๆแล้วกระสุนลูกที่ยิงนางเอกเป็นกระสุนมนต์ นางเอกก็เลยไม่ตาย หลังจากนั้นแผนการเอาคืนก็เริ่มขึ้น
เราก็จะได้รู้ความจริงที่เล๊วเลวอีกอย่างของโยริโตโมะว่า สาเหตุที่คาเงะโทคิทำตามโยริโตโมะซะขนาดนั้นเพราะ บ้านของคาเงะโทคิอยู่ที่คามาคุระ และอยู่ภายใต้การจับตาดูของโยริโตโมะตลอด ถ้าคาเงะโทคิตุกติกเมื่อไหร่ แม่ของคาเงะโทคิจะถูกฆ่าทันที ทำให้เราต้องแบ่งออกเป็นสองพล พวกนึงไปช่วย 8 กลีบที่เหลือ+1 มังกร ส่วนอีกพวกไปช่วยท่านแม่ของคาเงะโทคิ และเจ้าตัวคาเงะโทคิเองนั้น ก็ต้องไปพอโยริโตโมะตามคำสั่ง
หลังจากที่หนีกันไปได้ และจะหนีออกจากคามาคุระ สุดทางที่จะออกไปก็พบกับอาเจ๊มาซาโกะซึ่งจริงๆมีดาคินิเทนซึ่งเป็นเทพที่ปกป้องโยริโตโมะสิงอยู่ เจ๊มาซาโกะก็จะไซโคเราว่าอีตาคาเงะโทคิที่ยังไม่ตามมาเนี่ย ป่านนี้หักหลังพวกเราไปแล้วมั้ง แต่เป็นธรรมดาที่นางเอกจะไม่เชื่อ พอเราจัดการดาคินิเทนได้ ก็จะตัดกลับไปที่คาเงะโทคิที่กำลังเผชิญหน้ากับโยริโตโมะท่ามกลางบรรดาซามูไร

覚悟を決めた男 ชายผู้ตัดสินใจ/เตรียมใจแล้ว
คาเงะโทคิที่รู้ว่าดาคินิเทนโดนจัดการไปแล้ว ก็เลยขู่โยริโตโมะว่า ตอนนี้ตนเองมีทั้งเกล็ดมังกรของมังกรขาวและมังกรดำ อยู่ ซึ่งเกล็ดมังกรขาวนั้นก็ได้จากการยึดมาจากนางเอกตามคำสั่งโยริโตโมะน่ะแหละ และถ้าตอนนี้คาเงะโทคิปล่อยพลังของทั้งสองเกล็ดล่ะก็ จะทำให้ทุกคนในที่นี้ตายและคามาคุระก็จะพังด้วย ส่วนเพื่อนๆของตนเองนั้นอยู่พ้นรัศมีอยู่แล้ว น่าจะรอด คนซวยไงๆก็คือโยริโตโมะน่ะแหละ ทำให้ในที่สุดโยริโตโมะต้องยอมเจรจาด้วย โดยข้อตกลงท้ายสุดก็คือ ให้ยกเลิกโทษของทุกคนและเลิกจับตาดูครอบครัวตนเอง ให้ทุกคนอยู่ในคามาคุระได้อย่างสงบสุข ซึ่งโยริโตโมะต้องจำยอมตาม
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้อยู่กันอย่างสงบสุข นางเอกก็....
ไม่ยอมกลับบ้านอีกแล้ว!! นังนี่เห็นแก่ผู้ชายจริงๆ!! (ได้ข่าวว่าจริงๆคนเขียนบ๊อกๆก็เป็น หุๆ)

ฉากจบ 恐れない日々 วันคืนที่ปราศจากความกลัว
ชื่อรูป 幸せのかたち รูปร่างของความสุข
นางเอกก็ไม่กลับบ้าน อยู่กับคาเงะโทคิอย่างมีความสุขโดยไม่มีตัวป่วนโยริโตโมะตามกวนแล้ว ลาล้า~ อ้อใช่ แล้วคาเงะโทคิก็เฉลยกับนางเอกด้วยว่า จริงๆตอนที่ขู่โยริโตโมะน่ะ เจ้าตัวไม่มีเกล็ดมังกรดำอยู่กับตัวหรอก ร้ายจริงๆ - -+ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ดีใจนะที่ความโกหกตอแหลของตัวเองที่ปกติเอาไว้ทำร้ายคนอื่น ตอนนี้ได้เอากลับมาช่วยนางเอก
สรุป... ไม่ชอบตานี่นะ แต่เล่นเรื่องตานี่แล้วช๊อบบบบชอบ เลยไม่รุ้ว่าจะเอาไงกะความคิดตนเองดี หุๆ
นิสัย... ตานี่เป็นคนสบายๆบ๊องๆ ทำให้น้องสาว(ซากุ) มองว่าเป็นพี่ที่พึ่งพาไม่ได้อยู่ตลอด เป็นนักองเมียวที่ดั๊นใช้ปืน แต่ก็มีสาเหตุให้ใช้ปืนล่ะนะ นอกจากนี้ยังเป็นทหารของโยริโตโมะที่ซื่อสัตย์ต่อโยริโตโมะมาก แถมโยริโตโมะก็ท่าทางจะชอบใช้งานตานี่ซะอีก เป็นคนมีบาดแผลมาก็ว่างั้น เลยทำให้เป็นคนมีสองหน้าเหมือนกัน คือ หน้าปกติที่ร่าเริงแจ่มใส กับอีกหน้าที่คอยทำหน้าที่ไม่ดี เช่น พวกลอบสังหาร ให้โยริโตโมะ
เนื้อเรื่องของตานี่ก็ตอนแรกก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ตอนอยู่ที่ค่าย สักประมาณตอนที่ 3 ได้มั้ง เราจะมีโอกาสไปคุยกันสองต่อสองเรื่องอดีตของตานี่ จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วตานี่เคยอยู่ฝ่ายไทระมาก่อน แต่ตอนที่ที่ที่ตัวเองอยู่ถูกโจมตี ตัวเองก็ได้เห็นพลังอำนาจของเทพที่ปกป้องโยริโตโมะไว้ และเกิดกลัวขึ้นมา จึงหักหลังไทระและมาอยู่กับเกนจิ นี่ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คาเงะโทคิซื่อสัตย์ต่อโยริโตโมะมาก
แล้วพอไปเรื่อยๆก็จะมีอีเวนท์ยิงดอกไม้ไฟ ซึ่งเป็นวิชาองเมียวของคาเงะโทคิ อีเวนท์นี้เราก็จะได้รู้ว่าคาเงะโทคิเป็นพวกชอบประดิษฐ์อะไรมาก ปืนที่ใช้อยู่นี่ก็ทำเอง แล้วจะได้รู้ว่าคาเงะโทคิคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ตอนเรียนวิชาองเมียว เวลาจะใช้จริงก็ปอด ทำให้ร่ายมนต์อะไรไม่ถูก ตัวเองเลยทำปืนกับกระสุนมนต์ขึ้นมา จะได้ตัดปัญหาเรื่องร่ายมนต์ออกไป แล้วต่อจากนี้ไปเราก็ต้องฝึกท่ากระสุนเวทย์ของตานี่ไว้เยอะๆ
แล้วก็ไปเรื่อยๆอีก คืนก่อนศึกชี้ชะตากับไทระ นางเอกที่ค่อนข้างจะรู้แกวว่าคาเงะโทคิมักได้รับบทไม่ดีก็เห็นท่าทางคาเงะโทคิแปลกๆไป และคาเงะโทคิเองก็...

逃げよう... หนีกันเถอะ...
เป็นอะไรที่แอบประทับใจไม่น้อย คาเงะโทคิชวนให้เราหนีไปด้วยกันสองคน โดยที่ตัวเองจะยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่กระทั่งครอบครัว
แต่สุดท้ายแล้วนางเอกก็เตือน(ถ้าจำไม่ผิด)ให้คาเงะโทคิไม่หนีความเป็นจริงไป
วันต่อมาก็เป็นศึกที่ดันโนะอุระที่เกนจิชนะไทระได้สำเร็จ แต่งานนี้กลับมีเจ๊มาซาโกะ ภริยาโยริโตโมะห้อยตามมาด้วย เมื่อชนะศึกแล้ว...
คาเงะโทคิกลับหันปืนมาทางเรา ที่แท้สาเหตุที่คาเงะโทคิจะพาเราหนีไปก็คือ คำสั่งลับงวดนี้เป็นคำสั่งให้เก็บมิโกะนั่นเอง ส่วนอาเจ๊มาซาโกะก็เป็นคนมาคอยตามดู
ตัวนางเอกนั้นก็เชื่อใจและยอมให้คาเงะโทคิยิง และคาเงะโทคิก็ยิงนางเอกทั้งน้ำตา...

せめてオレの手で... อย่างน้อย... ด้วยมือของข้าเอง
ชื่อรูปนี่ก็มาจากในเกม ที่คาเงะโทคิขอกับมาซาโกะว่า ให้ตนเองได้เป็นคนทำศพคนสำคัญของตนเองเอง ซึ่งมาซาโกะก็ยินยอม หลังจากนั้น 8 กลีบที่เหลือก็โดนจับไป
....
แต่เรื่องมันจะจบแบบนี้ได้ไง!!
แล้วนางเอกก็ฟื้นขึ้นมา ถามว่าฟื้นได้ไง ก็เพราะว่าจริงๆแล้วกระสุนลูกที่ยิงนางเอกเป็นกระสุนมนต์ นางเอกก็เลยไม่ตาย หลังจากนั้นแผนการเอาคืนก็เริ่มขึ้น
เราก็จะได้รู้ความจริงที่เล๊วเลวอีกอย่างของโยริโตโมะว่า สาเหตุที่คาเงะโทคิทำตามโยริโตโมะซะขนาดนั้นเพราะ บ้านของคาเงะโทคิอยู่ที่คามาคุระ และอยู่ภายใต้การจับตาดูของโยริโตโมะตลอด ถ้าคาเงะโทคิตุกติกเมื่อไหร่ แม่ของคาเงะโทคิจะถูกฆ่าทันที ทำให้เราต้องแบ่งออกเป็นสองพล พวกนึงไปช่วย 8 กลีบที่เหลือ+1 มังกร ส่วนอีกพวกไปช่วยท่านแม่ของคาเงะโทคิ และเจ้าตัวคาเงะโทคิเองนั้น ก็ต้องไปพอโยริโตโมะตามคำสั่ง
หลังจากที่หนีกันไปได้ และจะหนีออกจากคามาคุระ สุดทางที่จะออกไปก็พบกับอาเจ๊มาซาโกะซึ่งจริงๆมีดาคินิเทนซึ่งเป็นเทพที่ปกป้องโยริโตโมะสิงอยู่ เจ๊มาซาโกะก็จะไซโคเราว่าอีตาคาเงะโทคิที่ยังไม่ตามมาเนี่ย ป่านนี้หักหลังพวกเราไปแล้วมั้ง แต่เป็นธรรมดาที่นางเอกจะไม่เชื่อ พอเราจัดการดาคินิเทนได้ ก็จะตัดกลับไปที่คาเงะโทคิที่กำลังเผชิญหน้ากับโยริโตโมะท่ามกลางบรรดาซามูไร

覚悟を決めた男 ชายผู้ตัดสินใจ/เตรียมใจแล้ว
คาเงะโทคิที่รู้ว่าดาคินิเทนโดนจัดการไปแล้ว ก็เลยขู่โยริโตโมะว่า ตอนนี้ตนเองมีทั้งเกล็ดมังกรของมังกรขาวและมังกรดำ อยู่ ซึ่งเกล็ดมังกรขาวนั้นก็ได้จากการยึดมาจากนางเอกตามคำสั่งโยริโตโมะน่ะแหละ และถ้าตอนนี้คาเงะโทคิปล่อยพลังของทั้งสองเกล็ดล่ะก็ จะทำให้ทุกคนในที่นี้ตายและคามาคุระก็จะพังด้วย ส่วนเพื่อนๆของตนเองนั้นอยู่พ้นรัศมีอยู่แล้ว น่าจะรอด คนซวยไงๆก็คือโยริโตโมะน่ะแหละ ทำให้ในที่สุดโยริโตโมะต้องยอมเจรจาด้วย โดยข้อตกลงท้ายสุดก็คือ ให้ยกเลิกโทษของทุกคนและเลิกจับตาดูครอบครัวตนเอง ให้ทุกคนอยู่ในคามาคุระได้อย่างสงบสุข ซึ่งโยริโตโมะต้องจำยอมตาม
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้อยู่กันอย่างสงบสุข นางเอกก็....
ไม่ยอมกลับบ้านอีกแล้ว!! นังนี่เห็นแก่ผู้ชายจริงๆ!! (ได้ข่าวว่าจริงๆคนเขียนบ๊อกๆก็เป็น หุๆ)

ฉากจบ 恐れない日々 วันคืนที่ปราศจากความกลัว
ชื่อรูป 幸せのかたち รูปร่างของความสุข
นางเอกก็ไม่กลับบ้าน อยู่กับคาเงะโทคิอย่างมีความสุขโดยไม่มีตัวป่วนโยริโตโมะตามกวนแล้ว ลาล้า~ อ้อใช่ แล้วคาเงะโทคิก็เฉลยกับนางเอกด้วยว่า จริงๆตอนที่ขู่โยริโตโมะน่ะ เจ้าตัวไม่มีเกล็ดมังกรดำอยู่กับตัวหรอก ร้ายจริงๆ - -+ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ดีใจนะที่ความโกหกตอแหลของตัวเองที่ปกติเอาไว้ทำร้ายคนอื่น ตอนนี้ได้เอากลับมาช่วยนางเอก
สรุป... ไม่ชอบตานี่นะ แต่เล่นเรื่องตานี่แล้วช๊อบบบบชอบ เลยไม่รุ้ว่าจะเอาไงกะความคิดตนเองดี หุๆ
ช่วงนี้เห็นคนแวะเวียนมาก็รู้สึกดีใจนะคะที่มีคนอ่านกัน ^^ ตอนแรกกะว่าจะเขียนๆไป คงมีคนอ่านน้อย เลยกะจะแค่เขียนระบายอารมณ์+เก็บเป็นที่ระลึกเอง
แล้วก็เห็นมีคนถามว่าของยังหาได้รึเปล่า ถ้าแผ่นก๊อบในไทยตอนนี้คงหวังยากอ่ะค่ะ ถ้าจะซื้อคงต้องโกอินเตอร์ซื้อของญี่เขาไปเลย
ตอนนี้ไปเจอโดมา น่าร้ากกกกกกก น่ารัก เจ้าเหมียวดำโทโมะ กับน้องบ๊อกๆขาวชิโระ อยากจะเอามาลงบ๊อกๆเหลือกิน แต่รอให้ได้ของมาก่อนดีกว่ามั้งนะ อย่างน้อยจะได้เอารูปที่สแกนเอง ไม่ต้องไปจ๊กชาวบ้านเขา
แล้วก็เห็นมีคนถามว่าของยังหาได้รึเปล่า ถ้าแผ่นก๊อบในไทยตอนนี้คงหวังยากอ่ะค่ะ ถ้าจะซื้อคงต้องโกอินเตอร์ซื้อของญี่เขาไปเลย
ตอนนี้ไปเจอโดมา น่าร้ากกกกกกก น่ารัก เจ้าเหมียวดำโทโมะ กับน้องบ๊อกๆขาวชิโระ อยากจะเอามาลงบ๊อกๆเหลือกิน แต่รอให้ได้ของมาก่อนดีกว่ามั้งนะ อย่างน้อยจะได้เอารูปที่สแกนเอง ไม่ต้องไปจ๊กชาวบ้านเขา
ว่าแล้วก็ไปดีกว่า กว่าเจ้าเพื่อนจะมา งุบ...
No comments:
Post a Comment