Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika -
狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว
ตอนที่ 9 :
"ท่านทสึรุมารุ! ท่านเป็นอะไรรึเปล่า!? เกิดอะไรขึ้นรึครับ?"
เจ้าของเสียงฝีเท้าที่ร้อนรนนั่งลงข้างๆ กายของทสึรุมารุ
แขนข้างหนึ่งประคองแผ่นหลังของกระเรียนหนุ่มไว้
โคกิทสึเนะจำท่วงท่าและใบหน้าที่งดงามสูงส่งที่ประดับด้วยเรือนผมสีฟ้าเจื่อนเขียวนั้นได้ดี
เพราะเขาเองเคยกังวลว่าชายคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในคนที่จะมาช่วงชิงจันทราของเขาไป
ก่อนจะพบว่านิสัยและอัธยาศัยของชายคนนี้ดีเกินไปที่เขาจะรู้สึกชิงชังได้
ทสึรุมารุคุนินางะขยับตัวนั่งดีๆ มือหนึ่งเอื้อมไปจับสะโพกตัวเองที่กระแทกกับพื้นอย่างจัง
ส่วนอีกมือนึงกลับคว้าเอามือของอิจิโกะฮิโจฟุริไว้แน่น
"ไม่มีอะไรหรอก ข้าก็แค่ตื่นเต้นจนเผลอล้มคว่ำเท่านั้นแหละ เนอะ?"
ทสึรุมารุตอบปนรอยยิ้มมา ใช้สายตาส่งสัญญาณให้กับมิคาสึกิและโคกิทสึเนะมารุ ก่อนจะหันกลับไปหาอิจิโกะ
"เจ็บจังเลย อิจิ ช่วยพยุงข้าหน่อยสิ"
ไม่พูดแค่อย่างเดียว กระเรียนก็แกล้งเอาตัวเข้าพิงกับร่างของเจ้าชายหนุ่มรูปงาม
เขาหัวเราะเบาๆ กับการออดอ้อนของอีกฝ่าย แล้วพยุงร่างที่แกล้งอ่อนแอของกระเรียนขึ้น
พอทสึรุมารุลุกขึ้นยืนเหยียดตัว เขาก็เอาแขนของตนเองพาดรอบคอไปยังไหล่อีกด้านของอิจิโกะเพื่อให้ชายหนุ่มหิ้วร่างของตนเองไว้ ชายหนุ่มผมสีฟ้ายินยอมแต่โดยดี และใช้แขนของตนเองอ้อมไปด้านหลังเพื่อช้อนไหล่อีกด้านของเจ้ากระเรียนหนุ่ม
แต่ยังไม่ทันที่มือบางนั้นจะอ้อมไปถึงอีกฝั่ง ใบหน้าที่แสนใกล้ของทสึรุมารุกลับขยับเข้าชิด
แล้วฝากจุมพิตแผ่วเบาเพียงสัมผัสอ่อนนุ่มลงบนแก้มเนียนๆ ของเจ้าชาย
แขนของอิจิโกะฮิโตฟุริร่วงตกลงข้างลำตัว พร้อมกับอาการสั่นริก และใบหน้าที่เปลี่ยนสีอย่างปัจจุบันทันด่วน
"ทะ ทะ ท่านทสึรุมารุ ..."
ชายหนุ่มที่ตัวสั่นราวกับทำอะไรไม่ถูกก้าวถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วก็พบว่าเจ้าคนเจ็บตัวที่แสนอ่อนแอนั้น จริงๆ ก็ยืนคนเดียวได้อย่างสบาย
"ท่านทสึรุมารุ!!"
เสียงนั้นเรียกชื่อขึ้นอย่างมีความโกรธปนเข้ามาเล็กน้อย
ทำให้นกกระเรียนต้องรีบโผกายเข้ากอดชายหนุ่มเบาๆ
"ขอโทษๆ แค่แกล้งนิดหน่อยเอง"
"ท่านหลอกใช้ความเป็นห่วงของข้านี่ ..."
อิจิโกะที่อยู่ในวงแขนของชายหนุ่มในชุดขายเงยหน้าขึ้นพูดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ตอนที่เจ้าเป็นห่วงข้ามันช่างสุดแสนจะน่ารักไปเลยล่ะ"
คำกล่าวชมพร้อมรอยยิ้มกว้างทำให้ผิวหน้าขาวปนสีฝาดเลือดของเจ้าชายเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงไปทั้งหมด
ทสึรุมารุหันกลับไปยิ้มให้กับมิคาสึกิที่ยืนมองอยู่ด้วยรอยยิ้มบางบนใบหน้า
"เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ มิคาสึกิ แม้วิธีการของเจ้าจะไม่เข้าท่า แต่มันก็ได้ผล แถมทำให้ข้าตกใจได้อีก ตาแก่อย่างเจ้านี่มันร้ายจริงๆ "
หลังจากพูดจบ ชายสองคนก็ร่ำลามิคาสึกิ แล้วเดินจากไปโดยที่ทสึรุมารุไม่ยอมปล่อยวงแขนที่โอบชายอีกคนเอาไว้เลย
มิคาสึกิยืนยิ้มส่งชายทั้งสองคนเดินหายไป
... ส่วนโคกิทสึเนะมารุกลับยืนอึ้งตาค้างราวกับสติหลุดไปแล้ว ...
นิ้วเรียวงามไม้แพ้สตรีใดๆ ขยับเข้าดึงชายเสื้อของจิ้งจอกหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้าง ช่วยเรียกสติของเขาให้กลับมาได้
โคกิทสึเนะมารุหันควับมาสบจันทราเสี้ยว ก่อนจะส่งเสียงถามอย่างงุนงง
"มิคาสึกิ ... นี่หมายความว่ายังไง? เจ้าไม่ได้...? "
มือนุ่มนั้นเปลี่ยนไปจับมือแกร่งของจิ้งจอก ก่อนจะออกแรงดึงเพียงแผ่วเบา
"จะพูดคุยตรงนี้ก็กระไรอยู่ เรากลับไปที่ห้องกันเถอะ"
มิคาสึกิตอบด้วยรอยยิ้มหวานบนใบหน้า
จันทราและจิ้งจอกนั่งหันหน้าเข้าหากันกลางห้องที่เงียบสงบ
โคกิทสึเนะมารุกอดอกแน่น มองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าที่มีรอยยิ้มประดับ ทั้งที่คิ้วของจิ้งจอกแทบจะขมวดปมจนอาจคลายไม่ออกอยู่แล้ว
"เจ้าจะอธิบายให้ข้าฟังได้ไหม มิคาสึกิ"
มิคาสึกิยกมือข้างหนึ่งขึ้นให้ชายแขนเสื้อของยูกาตะปิดปากหัวเราะคิกคัก
"ข้าก็คิดว่าเจ้าอาจจะเข้าใจผิดเรื่องของข้ากับทสึรุมารุก็เป็นได้"
เสียงหัวเราะอย่างสบายใจทำให้จิ้งจอกหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดและร้อนรนขึ้นมาอีกเล็กน้อย จันทรายังคงส่งเสียงใส
"ข้ากับทสึรุมารุไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น ช่วงนี้ทสึรุมารุมักจะมาปรึกษาข้าเรื่องของอิจิโกะฮิโตฟุริบ่อยๆ เพราะข้าเองก็เคยมีช่วงเวลาร่วมกับอิจิโกะไม่น้อย"
"แต่เจ้าชอบมองตามเจ้ากระเรียนจอมสอดนั่นบ่อยๆ คืนร่ำสุราเจ้ายังมองมันไม่วางตา"
โคกิทสึเนะมารุพูดพร้อมกับจ้องมองไปในแววตาสีไพลินที่แต้มแสงจันทร์นั้นราวกับจะจับผิด
"คืนนั้น? อ้อ ข้าไม่ได้มองกระเรียนสักหน่อย ข้ามองเป็นห่วงท่านซานิวะต่างหาก"
คนตอบเหลือบตาขึ้นครุ่นคิดเพียงแว่บเดียวก่อนจะตอบอย่างไม่ลังเล
"ถ้าอย่างนั้นแล้วคืนที่เจ้า 'สัญญากับทสึรุมารุ' เจ้าหายไปไหนมา!?"
จิ้งจอกถามคำถามอย่างร้อนรนจนส่งเสียงดังขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
แต่มิคาสึกิกลับเลิกตาขึ้นนิดหน่อย แล้วหัวเราะออกมา
"ใช่ ข้าสัญญากับทสึรุมารุ ว่าข้าจะไปดูแลเด็กๆ โทชิโร่ให้แทนอิจิโกะ เขาจะได้เอาเวลาไปหาอิจิโกะได้"
เมื่อได้ยินคำตอบโคกิทสึเนะมารุถึงกับไหล่ตกอย่างหมดแรง
ดวงตาสองข้างของเขาเบิกกว้างจ้องมองจันทราตรงหน้าอย่างแทบไม่เชื่อสิ่งที่เขาได้ยิน
ความรู้สึกที่ประดังเข้ามาแยกไม่ออกว่าควรจะดีใจ
หรือควรจะด่าตัวเองที่คิดไปเองมากมายและทุกข์ตรมเสียจนหาที่เปรียบไม่ได้
"แล้ว แล้วทำไมเจ้าไม่บอกข้า ..."
จิ้งจอกหนุ่มยกมือสองข้างขึ้นปิดหน้าพลางพูดอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
"ฮะ ฮะ ก็ข้าจะบอกเจ้าอยู่แล้ว แล้วเจ้าก็ ..."
เสียงของชายหนุ่มขาดหายไป
ในคืนนั้น ตอนที่เขากำลังจะบอกว่าเขาจะออกจากห้องไปทำอะไร
เขาก็ถูกชายที่กำลังนั่งฟังอยู่ ...
พอเสียงของมิคาสึกิหายไป โคกิทสึเนะก็ค่อยๆขยับฝ่ามือทั้งสองออก เพื่อมองหน้าต้นเสียงที่กลายเป็นความเงียบ
รอยยิ้มหวานบนใบหน้าเจื่อนลง แต่กลับถูกแต่งแต้มด้วยสีอ่อนบนสีหน้าที่เหมือนทำอะไรไม่ถูก
เสียงในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเกิดเสียงผ้าเสียดสีกันจากการขยับกายของจิ้งจอก
โคกิทสึเนะเคลื่อนตัวเข้าหามิคาสึกิทางด้านหน้า ยกมือขวาของเขาจับแก้มนวลของจันทรา แล้วดันคางนั้นให้เชิดขึ้นสบตากับเขา
"... เพราะข้าไม่ฟังเจ้าสินะ ..."
ดวงจันทร์เสี้ยวในแววตาของมิคาสึกิสั่นไหวเบาๆ เมื่อถูกจดจ้องด้วยผลึกทับทิมที่ฉายแสงอย่างอบอุ่น
"มิคาสึกิ ... ข้าขอโทษ เจ้าจะยกโทษให้ข้าได้ไหม?"
ชายผู้มีนามจันทราไม่ทันตอบอะไรราวกับหลงเคลิ้มไปกับแววตาและน้ำเสียงที่ทำให้รู้สึกอุ่นกายในคืนที่อากาศเย็นเช่นนี้
จิ้งจอกหนุ่มขยับใบหน้าเข้าใกล้ขึ้นอีก และพูดต่อไป
"ยกโทษให้ข้า ... ที่ยังเฝ้าฝันละเมอถึงสัญญาในวัยเด็กของเจ้า เสียจนสิ้นสติไป"
======================================================
โอโดโร่ยตะก๊า~~~~!!
XDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDD
ใครโดนคนเขียนหลอก ยกมือขึ้นนนนนนน อิอิ
ยกมือค่ะ // คนเขียนร้ายมากกกกกกกกกก ฮือๆ ทำเราหงุดหงิดตามพี่จิ้งกลมเลย YwY
ReplyDelete