Thursday, May 21, 2015

Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - 狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว ตอนที่ 5

Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - 
狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว

ตอนที่ 5 :
ฮงมารุถูกออกแบบมาเป็นแบบคฤหาสน์ญี่ปุ่นโบราณ
บรรดาห้องหับล้วนแล้วแต่เป็นแบบญี่ปุ่นทั้งนั้น
หลายห้องในนั้น รวมถึงห้องส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน ต่างมีรูปภาพม้วนแขวนประดับอยู่
กระเรียนเป็นสัตว์มงคลจึงมักปรากฏอยู่ในรูปบ่อยครั้ง
ส่วนพระจันทร์เองก็เป็นสัญลักษณ์ของความงามที่ลึกล้ำลึกลับที่ถูกนำมาวาดบ่อยๆ
ในขณะที่จิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ความหมายมีทั้งดีและไม่ดีปนกัน แถมยังไม่ใช่แนวคิดหลักที่นำมาวาดภาพอีกต่างหาก

โคกิทสึเนะมารุยืนจ้องรูปวาดรูปหนึ่งที่ถูกแขวนอยู่ในห้องนั่งเล่นรวม
ภาพของนกกระเรียนที่สะบัดปีกโผบินขึ้นฟ้าราวกับจะมุ่งหาจันทร์ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ภาพของทสึรุมารุที่ยืนคุยกับมิคาสึกิไม่ห่างออกไปนักต่างหาก ที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก

เสียงสนทนาเบาที่ไม่เข้าหู ทำให้ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกันอยู่ แทรกสลับกับเสียงหัวเราะคิกคักที่สนุกสนาน
แน่นอนว่าจิ้งจอกนั้นไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว
แถมความรู้สึกหงุดหงิดนั้นกลับยิ่งลุกโชน เมื่อจู่ๆ เจ้ากระเรียนดันโผร่างเข้ากอดมิคาสึกิด้วยเสียงหัวเราะร่า แถมมิคาสึกิเองก็ยิ้มตอบการกระทำนั้นโดยไม่รังเกียจแม้แต่น้อย
สุดท้ายโคกิทสึเนะมารุจึงต้องเป็นฝ่ายผละไปจากที่แห่งนั้นเอง
ก่อนที่เขาจะเผลอคว้าม้วนภาพผืนงามของซานิวะไปขย้ำเสียก่อน

ของเหลวใส่ถูกรินใส่ในจอกใบเล็ก และถูกยกขึ้นดื่มหมดในอึกเดียว ซ้ำกันหลายต่อหลายครั้ง
แม้สติจะค่อยพร่าเลือนด้วยไฟจากฤทธิ์สุราที่สุม
แต่ความขุ่นข้องนั้นไม่ได้เลือนหายไปด้วยเลย
ภาพของคนที่เคยเป็นเพียงน้องชายหัวร่อต่อกระซิกกับชายอีกคนหนึ่งมันช่างสร้างความวุ่นวายในหัวของจิ้งจอกหนุ่มได้มากทีเดียว
... มากกว่าที่เคยคิดเอาไว้ถึงหลายขุม ...
มือที่กำจอกสุราสั่นริกเพียงแค่คิดถึงรอยยิ้มละมุนของจันทราที่ไม่ได้เผยอยิ้มให้กับเขา
แต่เมื่อสุราอึกนั้นหลั่งลงไปในร่างกาย ความลังเลก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในใจ

บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า หากมิคาสึกิลืมสัญญาของเด็กๆ ไปเสียแล้ว
ตัวเขาเองก็คงเป็นได้เพียงแค่พี่ชายที่แสนดีไปตลอดกาล
หรือไม่ก็อาจเป็นสหายรักที่สามารถผ่อนกายพักใจอยู่เคียงข้างได้โดยไม่ต้องหวาดระแวง
หากได้รับความไว้วางใจจากคนที่ตนเองพึงใจเช่นนี้
นี่ก็คงเป็นเรื่องดีหาใดเปรียบแล้วมิใช่หรือ?

"หากสำหรับมิคาสึกิแล้ว เจ้ากระเรียนนั่นดีกว่า ..."
เสียงทุ้มนุ่มรำพึงรำพันออกมาเคล้าคลอไปกับกลิ้นอวลของเหล้าและแสงจันทร์
คำพูดที่อยากพูดต่อก็ถูกกลืนลงไปพร้อมเมรัย เนื่องจากมันขมเกินกว่าจะปล่อยออกมาให้สัมผัสลิ้น

แม้จะข่มตาลงให้ปิดแน่นแม้แต่แสงจันทร์ก็ไม่อาจส่องผ่านเข้ามาได้
แต่ภายในเปลือกตาของจิ้งจอกหนุ่มกลับมีจันทร์เสี้ยวฉายแสงอยู่ไม่ได้ขาด
ภาพของมิคาสึกิตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยสูงเพียงเอวของเขายังคงแจ่มชัด
เจ้าเด็กตัวน้อยที่คอยวิ่งตามมาเกาะและอ้อนขอให้อุ้ม
พอเขาอุ้มขึ้นมา เด็กคนนั้นก็จะส่งยิ้มที่ไร้เดียงสาแล้วใช้ทั้งสองลำแขนเรียวเล็กโอบกอดรอบคอของเขาไว้
เสียงหวานที่ยังไม่แตกหนุ่มของมิคาสึกิยังคงติดตรึงอยู่ในหูของโคกิทสึเนะมารุ
"ข้ารักท่านพี่โคกิทสึเนะมารุที่สุดเลย"
ไม่รู้ว่าเป็นความหวานหรือความขมขื่นที่จุกอกขึ้นมาทำให้จิ้งจอกหนุ่มราวกับหายใจหายคอไม่สะดวก
มิคาสึกิตัวน้อยในความทรงจำของเขายังคงกระซิบกระซาบอะไรอย่างแผ่วเบาจนฟังไม่เป็นคำ
"... วันแต่งงานของเรา ..."
เด็กชายขยับริมฝีปากขึ้นยิ้มอย่างไร้เดียงสา ก่อนที่ร่างนั้นจะเลือนหายไป
ภาพในความทรงจำต่อมาที่เด่นชัดกลับกลายเป็นมิคาสึกิเมื่อเติบโตกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามแล้ว
เขาเพียงยืนยิ้มน้อยๆ อยู่ห่างออกไปโดยไม่พูดอะไร
แล้วร่างนั้นค่อยขยับเคลื่อนกายอย่างช้าๆ แช่มช้อย
ชายแขนเสื้อไหวแผ่วเบาเป็นจังหวะเดียวกับพู่ห้อย
เขาเอียงคอน้อยๆ หรี่ตามองจนจันทร์ในนัยน์ตาของเขาส่องประกาย ริมฝีปากบางเผยอขึ้น


"โคกิทสึเนะมารุ..."

No comments:

Post a Comment