Friday, May 22, 2015

Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - 狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว ตอนที่ 8

Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - 
狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว

ตอนที่ 8 :
คำถามที่ไร้คำตอบมาหลายร้อยปีเกือบจะคลี่คลายได้แล้ว
แต่ความสงบนั้นย่อมหมายถึงจะมีพายุใหญ่ตามมา
ซึ่งพายุใหญ่นั้น ก็คือเสียงอึกทึกจากเจ้านกกระเรียนจอมป่วน
สำหรับจิ้งจอกหนุ่มแล้ว มันคงเป็นกระเรียนตัวร้ายที่สุดในรอบหลายร้อยปีเลยทีเดียว

"มิคาสึกิ~~~!!!! ... อ้าว? โคกิทสึเนะมารุก็อยู่ด้วยเหรอ?"
วิธีพูดที่คุ้นหูและชวนโมโหทำให้จิ้งจอกขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมา
"เจ้ามีอะไร? เจ้ากระเรียน"
เสียงคำรามของจิ้งจอกดูเหมือนจะไม่ได้เข้าหูของกระเรียนที่โผบินมาเกาะกิ้งไม้ใกล้ดวงจันทร์ แถมใบหน้าของกระเรียนยังยิ้มเริงร่าหน้าบานเสียอีกต่างหาก
"ก็เอ่อ คือ แหม ... เจ้าออกไปก่อนได้ไหม? เจ้าจิ้งจอกเล็กแต่ไม่เล็ก"
ความอารมณ์ดีของทสึรุมารุทำให้เขาแซวชื่อของโคกิทสึเนะมารุไป
แม้จะเป็นมุกที่ตัวจิ้งจอกเองก็เล่นเย้ากับตัวเขาเอง แต่พอมีนกกระเรียนหนุ่มเป็นคนพูด กลับสร้างความหงุดหงิดจนแทบกลายเป็นเพลิงในใจของโคกิทสึเนะเลยทีเดียว
เขาหันหน้าไปมองดวงจันทร์ที่อยู่เคียงข้าง
เจ้าจันทราเบือนซ่อนหน้าไม่ให้เขาเห็นอีกเสียแล้ว
มิคาสึกิส่งแต่เสียงออกมา
"ขอโทษนะ โคกิทสึเนะมารุ เจ้ากลับไปที่ห้องก่อนเถอะ"


คำพูดครั้งนี้ไม่ได้ทำให้จิ้งจอกหนุ่มหูตกและล่าถอยไป
แต่กลับทำให้ไฟโทสะลุกโชติช่วงขึ้น

ทำไมทั้งที่มิคาสึกิจำเรื่องราวนั้นได้
แต่กลับทำเหมือนกับไม่รู้ไม่สน หักหาญน้ำใจกัน
ทั้งที่เมื่อครู่ยังส่งสายตาเย้ายวน และเรียกชื่อกันด้วยน้ำเสียงราวกับมีความนัยเดียวกัน

หากเจ้าจำได้ทั้งหมดแล้ว
ไฉนจึงทำเหมือนล้อเล่นกับความรู้สึกของข้าเช่นนี้?
ไฟรักและปรารถนาในใจของจิ้งจอกหนุ่มลุกโชนแล้วแปรสภาพกลายเป็นเพลิงแห่งความโกรธในทันใด
เขาจับข้อมือของมิคาสึกิแล้วออกแรงดึงราวกับกระชาก

"โคกิทสึเนะมารุ!?"
มิคาสึกิส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ
ใบหน้าที่เงยขึ้นถูกแต้มด้วยความสับสน ก่อนจะออกแรงเพื่อดึงมือตนเองกลับ จิ้งจอกหนุ่มรั้งมือเอาไว้
"โคกิทสึเนะ ปล่อยก่อนเถอะ ข้อขอคุยกับทสึรุมารุเพียงไม่นานเท่านั้น ..."
ชื่อของกระเรียนที่ถูกเปล่งออกมาจากลำคอเรียวระหงส์ของเจ้าจันทร์เสี้ยวยิ่งทำให้อารมณ์ฉุนเฉียวของจิ้งจอกเร่งทวีขึ้น
"มิคาสึกิ! เจ้า!"
โคกิทสึเนะสะบัดมืองามของมิคาสึกิแรงอย่างไร้เยื่อไย
"ได้! หากเช่นนั้น เจ้าก็ย้ายไปที่ห้องของเจ้ากระเรียนนี่เสียเลยไม่ดีกว่ารึ!?"
แรงสะบัดทำให้มิคาสึกิเซถอยไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่ผลักไสตนด้วยแววตาเจ็บปวด
จิ้งจอกหนุ่มไม่เข้าใจว่าทำไมดวงตาคู่งามนั้นถึงได้ดูหวั่นไหว
แม้เขาจะเป็นผู้ผลักไสกายของมิคาสึกิ
แต่มิคาสึกิเองไม่ใช่หรือที่เป็นผู้ผลักไสใจของเขา
โคกิทสึเนะมารุขมวดคิ้วแน่น ข่มตาลงโดนไม่พูดอะไรออก

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้กระเรียนหนุ่มที่ชอบทำให้คนอื่นตกใจ บัดนี้ต้องตกใจจนแทบอึ้งเสียเอง
พอร่างของมิคาสึกิถอยร่นลงมา เขาจึงเดินเข้าไปตรงกลางระหว่างทั้งสองคน ยกมือทั้งสองขึ้นเป็นเชิงห้ามปราม
"เอ่อ เดี๋ยวสิ ใจเย็นก่อนนะ นายท่านจิ้งจอก"

เจ้ากระเรียนควรจะรู้ตัวว่า ตัวเองเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้จิ้งจอกเสียความเยือกเย็นได้ถึงเพียงนี้

ทสึรุมารุยื่นมือมาหมายจะตบไหล่ของโคกิทสึเนะมารุให้ใจเย็นขึ้น
แต่จิ้งจอกที่กำลังเต็มไปด้วยโทสะปัดมือนั้นออกอย่างรุนแรง
"โอ้ย! เจ็บนะเฟ้ย โคกิทสึเนะมารุ! พูดกันดีๆ ก่อน ..."
พอเขาบ่นถึงความรุนแรงที่ได้รับยังไม่ทันจะจบ เงาของร่างสูงใหญ่ก็ทาบทับบนร่างของเขา ทสึรุมารุเงยหน้าขึ้นมองจิ้งจอกที่สูงกว่าและขยับเข้ามายืนค้ำอยู่
ดวงตาสีทับทิมสองดวงส่องแสงราวกับดวงไฟที่ลุกโชนจ้องมองมาอย่างโกรธขึ้ง
"หากมิคาสึกิเลือกเจ้าแล้ว ก็จงรีบๆ พาเขาไปเสียสิ!!"
สิ้นคำพูดนั้น จิ้งจอกหนุ่มก็ใช้มืออันทรงพลังผลักร่างของนกกระเรียนเสียจนเต็มแรง
โคกิทสึเนะนั้นมีเรี่ยวแรงมากมายสมกับร่างอันกำยำนั่นอยู่แล้ว
ร่างของทสึรุมารุที่ไม่ทันได้ระมัดระวังก็กระเด็นไปตามแรงนั้น แล้วล้มลงกระแทกกับพื้นไม้ของระเบียงส่งเสียงดังโครมลั่นไปกับเสียงร้องแสดงความตกใจของเจ้าตัว

"เฮ้ย! เหวออออ!!!!"

เสียงโครมดังขึ้นพร้อมๆ กับมิคาสึกิที่รีบขยับกายเข้าหากระเรียนหนุ่ม
โคกิทสึเนะได้แต่หรี่ตาขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวดที่กรีดเข้ามาในใจ

แต่ก่อนที่โคกิทสึเนะมารุจะหลบจากภาพบาดตาตรงหน้านั้น
เสียงฝีเท้าโครมครามกลับดังมุ่งตรงมาทางนี้อีก
จิ้งจอกหนุ่มสงสัยยังไม่ทันเสร็จ ก็ปรากฏร่างของชายอีกคนหนึ่งนั่งลงเคียงข้างทสึรุมารุ แล้วส่งเสียงเรียกชื่ออย่างแสนเป็นห่วง


"ท่านทสึรุมารุ! ท่านเป็นอะไรรึเปล่า!? เกิดอะไรขึ้นรึครับ?"

No comments:

Post a Comment