Monday, May 18, 2015

Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - 狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว ตอนที่ 3

Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - 
狐の嫁入り//จิ้งจอกรับเจ้าสาว

ตอนที่ 3 : 
เหตุเกิดเมื่อบ่ายแก่ๆ ก่อนเวลาอาหารมื้อเย็นไม่กี่ชั่วโมง
เมื่อนายหญิงใหญ่แห่งฮงมารุ กลับมาจากการไปรายงานตัวที่รัฐบาลแห่งกาลเวลา
ทุกครั้งนางจะมีขนมกล่องใหญ่ กล่องเล็ก ติดมือมาฝากเหล่าดาบๆ ทุกครั้ง
ครั้งก่อนที่นางกลับมาพร้อมกับกล่องใบใหญ่ นางก็รีบกระวีกระวาดเรียกทุกคนมารวมกัน ก่อนจะเปิดกล่องเป็นขนมสีขาวท่าทางนุ่มฟู ประดับประดาหน้าตาสวยงามด้วยสีแดงสดของสตรอเบอรี่เสียจนเต็มผิวหน้าของขนมนั้น
นางเรียกมันว่า "ขนมเค้ก" ก่อนจะตัดแบ่งให้กับเหล่าดาบแต่ละคน
เหล่าเด็กๆ มีดสั้นต่างชอบมันมาก แม้แต่ดาบใหญ่ตัวจิ๋วอย่างโฮตารุมารุ ยังต้องแอบแบ่งไปนั่งทานไปอมยิ้มไปคนเดียว
แต่ครั้งนี้ นางกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มกระหยิ่มย่อง
และฝีเท้าของนางก็ยังย่องเข้ามาในฮงมารุ แล้วแอบผ่านห้องนั่งเล่นของทุกคนไปอย่างเงียบๆ เสีย
หลังจากที่เธอเดินผ่านประตูห้องไปได้อย่างโล่งใจแล้ว
กลับมีเงาตะคุ่มหนึ่งมาแต่ไกล
... เฮชิคิริฮาเซเบ ...
ชายหนุ่มผู้สุดแสนจะภักดีต่อนางผู้เป็นนาย
แน่นอนว่าแม้แต่ในเวลาที่เธอปรารถนาความเงียบงัน เขาก็จะต้อง ...
"โอ้ เจ้านาย ท่านกลับมาแล้วเหรอครับ!!"
เสียงทักทายเจ้านายอันเป็นที่รักดังสนั่น วินาทีถัดมาประตูห้องนั่งเล่นก็เปิด พร้อมกับเหล่ามีดสั้นที่วิ่งโผเข้ามากอดนางด้วยความดีใจ แล้วลากร่างบางของหญิงสาวเข้าไปในห้อง
กล่องใบใหญ่ในมือเธอถูกวางลงบนโต๊ะ
ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเด็กๆ ซานิวะแทบจะต้องก้มกราบขอโทษ
"ขอโทษค่ะ วันนี้ไม่ใช่ขนมหรอกค่ะ"
คำสารภาพของเธอทำให้สีหน้าของเด็กๆ หมองเศร้าลง
ซานิวะหลุบตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง แล้วสบตากับเป้าหมายที่เธอไม่อยากให้เขาคนนั้นรับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในกล่อง
ในขณะที่นางกำลังจะหาทางชิ่งไปโดยไม่พูดถึงสิ่งของในกล่องนั้น
ทสึรุมารุคุนินางะ หนึ่งในตัวแสบประจำฮงมารุก็ส่งเสียงถามขึ้นมา
"แล้วอย่างนั้น ในกล่องมีอะไรล่ะ?"
หญิงสาวนึกแค้นเจ้าตัวคนถาม ก่อนจะกัดฟันพูดขึ้นมาเพียงสั้นๆ
"... เหล้า ..."
ชายหนุ่มสวยสะคราญที่เธอสบตาด้วยเมื่อครู่ก็ส่งเสียงขึ้นมาอย่างยินดีในทันที
"งั้นคืนนี้ต้องฉลองเสียแล้ว!!"
หลังมื้ออาหารเย็น เด็กๆ มีดสั้นถอนตัวไม่ร่วมวงสุรากลับไปที่ห้อง
ทิ้งให้เหล่าผู้ใหญ่นั่งดื่มและสรวลเสเฮฮากัน
โดยมีจิโร่ที่เป็นเจ้ามือของคืนนี้ตระเตรียมสุราอื่นๆ เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนคน นอกเหนือไปจากสุราเลิศที่ซานิวะต้องการปิดไว้เป็นความลับ
เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนผู้ถอนตัวจากวงเหล้าก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น
จนในที่สุด เมื่อโอคุริคาระหิ้วปีกร่างของโชคุไดคิริมิทสึทาดะออกไป
ในวงสุราก็เหลือเพียงจิโร่ทาจิ
ทาโร่ทาจิซึ่งค่อยๆ จิบสุราทีละนิดเพื่ออยู่เป็นผู้ปกครองของจิโร่
ซานิวะสาว เจ้าของสุราที่ถูกแย่งชิงไปเป็นของสาธารณะ
ด้านข้างของเธอมีหนึ่งในคนก่อเรื่อง ทสึรุมารุคุนินางะ นั่งอยู่
อีกสองคนที่ยังคงร่วมวงอยู่ก็คือ โคกิทสึเนะมารุ และ มิคาสึกิมุเนจิกะ
บทสนทนาในวงยังคงเป็นเรื่องสัพเพเหระ และเรื่องของแต่ละคน
เมื่อวนมาถึงซานิวะ นางก็เล่าเรื่องโลกในอนาคตของนางให้ฟัง
สิ่งต่างๆ ในยุคสมัยใหม่ ทำให้เหล่าดาบต้องรู้สึกทึ่ง ฉงน และสนุกสนานระคนกันไป
"ผู้หญิงเองก็ต้องเรียนไม่ต่างจากผู้ชาย กว่าจะจบก็ยี่สิบปี แล้วหลังจากนั้นก็ต้องทำงานอีก ฉันก็เลยยังไม่ได้แต่งงานไงล่ะ มันเป็นเรื่องปกติในยุคของฉันหรอกนะ"
ซานิวะสาวในวัยยี่สิบต้นๆ เล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาก่อนจะมาเป็นซานิวะของเธอ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
"แล้วท่านซานิวะมีคนรักแล้วหรือยังล่ะ?"
จิโร่เอ่ยถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ แต่ซานิวะกลับหัวเราะขึ้นอีกครั้ง
"ไม่ไหวหรอก ผู้ชายยุคฉันน่ะ อ่อนแอกว่าผู้หญิงซะอีก ตอนนี้ฉันขอสนุกกับงานดีกว่า"
"ถ้าอย่างนั้น ท่านซานิวะของพวกเราพึงใจในใครสักคนในฮงมารุนี่หรือไม่ ที่นี่ก็ออกจะเต็มไปด้วยผู้เข้มแข็งนะ"
เจ้าของร่างเพรียวขาวพร้อมเรือนผมสีเงินยวงด้านข้างของซานิวะพูดขึ้นอย่างร่าเริงไปด้วยบรรยากาศ
แต่แทนที่ซานิวะสาวจะตอบกลับด้วยเสียงคิกคักอย่างที่เคย นางกลับก้มหน้านิ่งก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำยิ่งกว่าแต้มด้วยฝาดเลือดจากสุรา
ทำเอาเจ้าตัวคนถามก็ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา
พอบรรยากาศจะเริ่มแปลกๆ ซานิวะก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาทำลายความเงียบ ก่อนตบหลังคนถามอย่างทสึรุมารุดังป๊าบก้องไปทั้งห้อง
"ถามบ้าอะไรก็ไม่รู้! ทสึรุมารุเนี่ย! ฉันเองก็ท่าจะเมามากแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า"
พูดเสร็จ นางก็รีบลุกขึ้นจนซวนเซเพราะฤทธิ์เมรัย ทสึรุมารุตัวการและอยู่ข้างๆ จึงรีบลุกขึ้นประคองร่างของนางไว้
"นี่ เจ้าไหวรึเปล่าเนี่ย?"
นางโบกมือไปมาเพื่อเป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร แต่ทสึรุมารุที่รับน้ำหนักจากนางทั้งร่างรู้ว่าหากปล่อยนางไป นางคงไปหลับอยู่กลางสวนแน่ๆ
"ข้าไปส่งที่ห้องดีกว่า"
เขาพูดพลางจับแขนของซานิวะพาดไหล่หิ้วปีกนาง จิโร่เป่าปากวิ้ว
"แค่ส่งอย่างเดียวนะ อย่าจัดการไปเองล่ะ พ่อกระเรียนหนุ่ม"
"จะบ้าเรอะ!!"
ทสึรุมารุรีบตอบปัดพัลวันทั้งที่ปกติตัวเองเป็นฝ่ายทำให้คนอื่นตกใจแท้ๆ ก่อนจะทำแก้มตุ่ยงอนเดินหิ้วปีกซานิวะออกไปอย่างไม่มีแววของความโรแมนติกแม่แต่นิดเดียว
มิคาสึกิที่ยังนั่งอยู่ในวงสุราส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่ดวงจันทร์ทั้งสองกลับมองตามทสึรุมารุและซานิวะไม่วางตา จนกระทั่งทั้งสองเดินเลี้ยงหายไปด้านหลังบานประตูเลื่อน
และโคกิทสึเนะมารุที่มองจ้องมิคาสึกิอยู่ข้างๆ อย่างนั้น
พอจำนวนสมาชิกร่อยหรอ และเหล้าเลิศพร่องลงไป จิโร่ก็ส่งเสียงถามคนที่ยังเหลืออยู่
"เอายังไงดีล่ะ ตอนนี้ก็เหลือกันแค่นี้ แถมบุปผาดอกเดียวของฮงมารุก็ไปซะแล้วด้วย"
นิ้วเรียวของมิคาสึกิวางจอกสุราลงบนถาดเบาๆ
"นั่นสินะ คงได้เวลาที่งานเลี้ยงต้องเลิกราเสียที"
โคกิทสึเนะเพียงปรายตามองจันทร์งามข้างกายโดยไม่พูดอะไร
ทาโร่พยักหน้าน้อยๆ แล้วเอ่ยขึ้น
"ถ้าเช่นนั้น พวกข้าจะเก็บกวาดเอง พวกท่านไปพักผ่อนเถิด"
"จะดีหรือ?"
มิคาสึกิถามขึ้น แต่จิโร่กลับตอบเสียงใสปนเสียงหัวเราะ
"ดีสิ พวกเจ้าอุตสาห์มาดื่มเป็นเพื่อน อีกอย่าง ถ้าให้มิคาสึกิเก็บ มีหวังไม่ได้นอนจนถึงเช้าแน่"
"ฮะ ฮะ คงไม่แย่ขนาดนั้นหรอก"
มิคาสึกิหัวเราะพลางหยิบจอกสุราเปล่าบนถาดเพื่อจะเรียงให้ชิดกัน แต่จอกสุรานั้นกลับร่วงลงบนถาดส่งเสียงดังเคร้ง ก่อนที่จะชนขวดสุราที่ยังมีเหลืออยู่เล็กน้อยให้ล้มลง เหล้าภายในหกเปื้อนพื้นจนมีกลิ่นสุราคลุ้งขึ้น...
"อา ... ข้าควรจะให้พวกเจ้าจัดการจริงๆ ฮะฮะ"
ชายหนุ่มหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้น ร่างสูงเพรียวนั้นก็คลอนไปมา ทำให้โคกิทสึเนะต้องรีบลุกขึ้นเพื่อประคองร่างนั้นไว้
"เจ้าไหวรึเปล่า? มิคาสึกิ?"
น้ำเสียงนั้นเจือด้วยความเป็นห่วง
มิคาสึกิยิ้มบางๆ ให้กับความอบอุ่นที่คุ้นเคยที่เข้าแนบร่างไว้ จึงปล่อยกายไปกับชายที่ตัวเองไว้ใจ
"คงต้องพึ่งเจ้าแล้วล่ะ โคกิทสึเนะมารุ"
รอยยิ้มหวานและแววตาพริ้มด้วยแรงเร้าของสุราทำให้จิ้งจอกหนุ่มยิ่งสับสน ยิ่งต้องข่มใจของตนเองเอาไว้
พอเขาจะพาร่างของมิคาสึกิออกไปจากห้อง จิโร่ก็ทักขึ้น
"เจ้าเองก็เหมือนกัน อย่ากลายเป็นหมาป่ากลืนกินจันทราเข้าไปล่ะ"
คำพูดที่หยอกล้อกลับทำให้โคกิทสึเนะนึกถึง คู่ควงหิ้วปีกที่เดินออกไปไม่นาน
และดวงตาผลึกไพลินคู่งามที่จ้องมองคนที่เดินออกไป
มิคาสึกิพิงร่างกับกายเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง
จิ้งจอกหนุ่มมองใบหน้างามที่ไว้ใจในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม และเพียงพึมพัมเบาๆ
"หากเป็นกระเรียนนั่น เจ้าจะดีใจกว่านี้ไหม...?"
เสียงรำพึงแสนเบาที่ไม่มีใครได้ยิน
ก่อนจะเปลี่ยนจากจับแขนเป็นช้อนรางบางนั้นขึ้น และอุ้มเขาขึ้นมาอย่างถนุถนอมราวกับเจ้าหญิง
ท่าทางนั้นทำให้คนแซวอย่างจิโร่สะอึกไป
โคกิทสึเนะมารุหันมาแสยะยิ้มเพียงมุมปากให้กับคนทัก
... ก่อนจิ้งจอกจะพาร่างของจันทราหายออกไป ...

=================================
TT3TT ตอนนี้คือตอนที่จิ้มพลาดแล้วหายไปครึ่งตอนค่ะ ...
พอแต่งใหม่เลยยาวเป็นพิเศษ
ต้องขออภัยแก่ทุกท่านด้วย

ปล. ไม่มีฉากเรทต่อ ไม่ต้องขอนะคะ ;P เบร่~~

No comments:

Post a Comment