แอบมาเขียนฟิคคคคคค
เพราะภาพครบหนึ่งปีของจิ้งปู่ช่างโดนใจเสียนี่กระไร อึ้กอั่กกกกกก XDDDDD
แต่ไม่มีเวลาเลยค่ะ
ช่วงนี้งานยุ่งมากจริงๆ จนเวลาส่วนตัวหายไปเกือบหมด TT3TT
เลยขอแว่บมาแต่งฟิคสั้นๆ แปะให้หายกรี๊ดละกันค่ะ
สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ... ภาพครบปีของจิ้งปู่ ดูยังไงก็เคียงคู่ตุนาหงันแน่ๆ ค่ะ!! XDDDDDD
Touken Ranbu Fanfiction - Kogitsunemaru x Mikazuki Munechika - Anniversary!
ช่วงนี้เป็นเทศกาลรื่นเริงของฮงมารุ เนื่องจากถึงเวลาครบรอบที่ซานิวะแห่งเรือนใหญ่แห่งนี้เข้าประจำตำแหน่งเป็นเวลาหนึ่งปี
นายหญิงเป็นหัวเรือใหญ่ตระเตรียมงานฉลองต่างๆ เริ่มตั้งแต่เสกฤดูกาลในเรือนให้กลายเป็นฤดูใบไม้ผลิ ที่กลีบซากุระอันสดใสโรยตัวลงราวกับม่านแห่งความยินดี
ส่วนหนุ่มดาบทั้งหลายต่างได้พักผ่อนกัน
มิดาเระโทชิโร่จัดเตรียมขนมหวานหน้าตาน่ารักส่งให้ทุกคนได้ลิ้มรสกัน
ส่วนจิโร่ทาจิจัดเตรียมเหล้าเลิศรส แม้ว่าจะแบ่งส่วนของตัวเองเอาไว้มาก(ไม่)หน่อย เสียจนฮาเซเบที่เตรียมเหล้าด้วยกันต้องบ่นออกมา
ทสึรุมารุคุนินางะหยิบขนมออกไปนั่งกินพร้อมกับชมซากุระงามกับโมโนโยชิที่เป็นเหมือนน้องชายของตัวเอง
แต่สำหรับตัวขี้เกียจอย่างอาคาชิคุนิยุกิก็เอาขนมไปนอนทานใต้ร่มซากุระ
คะชูคิโยมิตสึกับยาสุซาดะ สองคู่หูต่างพยายามเขียนพู่กันแม้จะไม่ถนัดนัก โดยมีน้องๆ อัตสึชิและนากิคิทสึเนะร่วมกันปรึกษาด้วย
ถัดไปข้างๆ มีโกะโคไทกำลังเล่นกับน้องๆ เสือของเขา
ส่วนเหล่าเด็กๆ ทั้งฮิราโนะ มาเอดะ ฮาคาตะ นามาสุโอะ และโฮเนะบามิ ต่างนั่งทำสายรุ้งกระดาษเพื่อใช้ตกแต่งในงานเลี้ยงฉลอง
ก่อนที่มีดสั้นน้อยสุดมาดแมนอย่างยะเก็นจะที่เปิดตูเลื่อนผางออกมาพร้อมกับปลาไทมงคลตัวใหญ่ในมือ
... ขณะที่ทุกคนครึกครื้นกัน ห้องหนึ่งที่ห่างออกไปกลับอยู่ในสภาวะเงียบงัน ...
"ท่านมิคาสึกิ ... สิ่งนี้ใช้ได้ไหมขอรับ?"
จิ้งจอกน้อยคนโนะสุเกะคาบกิ่งไม้หนึ่งโดดตัวลอยเข้ามาในห้อง
มิคาสึกิปรายสายตาลงมาที่ร่างน้อยๆ ก่อนจะขยับยิ้มที่มุมปาก
"อา ใช้ได้เลยล่ะ ขอบใจเจ้ามาก คนโนะสุเกะ"
จิ้งจอกตัวน้อยหรี่ตาลงยิ้มและเอียงคอเป็นการตอบรับ แล้วเดินเข้าเคียงร่างในชุดลำลองแบบญี่ปุ่นสีน้ำเงิน
ชายคนนั้นนั่งคุกเข่าอย่างสุภาพเรียบร้อย ยกมือทั้งสองขึ้นจับกิ่งไม้ที่แต่งแต้มด้วยใบไม้และดอกไม้ ก่อนจะเสียบมันลงในแจกันใบเล็ก จัดแต่งให้ดูงดงามและลึกซึ้งตามแบบของการจัดดอกไม้อิเคบานะ
ดวงตาสีรัตติกาลส่องประกายด้วยจันทร์เสี้ยวมองไปที่แจกันตรงหน้าอย่างตั้งมั่นและสงบนิ่ง
สงบนิ่งจนราวกับว่าเขาลืมตัวตนของสมาชิกอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้อง
"ฝีมือเจ้ายังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมเลยนะ มิคาสึกิ"
ชายอีกคนในห้องกล่าวชมพร้อมเอามือขึ้นจับคางตัวเอง
แต่น้ำเสียงที่ฟังดูยินดีนั้นฟังแล้วคล้ายความภูมิใจในสิ่งอื่นมากกว่าตัวดอกไม้นั่น
"อา"
แต่มิคาสึกิที่กำลังตั้งสมาธิอยู่กับการจัดดอกไม้ซึ่งเป็นหนึ่งในวิถีปฏิบัติแห่งความสงบของเซนทำเพียงตอบเขาด้วยเสียงในลำคอเบาๆ
จิ้งจอกร่างใหญ่แอบขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกรีดสายตาลงไปที่เรียวนิ้วงดงามที่ขยับอย่างอ่อนช้อย
ในห้องมีเพียงเสียงกรรไกรตัดกิ่งเล่มเล็กปลิดกิ่งก้านเป็นเสียงเบา สลับกับเสียงกิ่งไม้แทรกตัวลงในแจกัน
ความเงียบที่สงบนิ่ง แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความไม่สบายใจ กลับเป็นบรรยากาศที่ดูศักดิสิทธิ์และลึกลับ
จิ้งจอกน้อยเป็นผู้ช่วยส่งกิ่งไม้ให้กับจันทรา
ในขณะที่จิ้งจอกหนุ่มเพียงเพ่งพิศอย่างเพลินเพลิน
แม้จะแฝงความเหงาเล็กๆ เอาไว้ในดวงตาสีทับทิม
เมื่อฝ่ามือขาวเนียนนั้นวางกรรไกรลงกับพื้นเบาๆ มิคาสึกิก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยรอยยิ้มละมุน
"เรียบร้อยแล้ว"
คนโนะสุเกะดีดตัวขึ้นเบาๆ แล้วส่งเสียงด้วยความยินดี
"ถ้าเช่นนั้น ข้าจะนำไปให้ซานิวะนะขอรับ"
"งั้่นฝากด้วยนะ"
จันทราส่งยิ้มพริ้มพราย แล้วหยิบแจกันใบเล็กทูนบนหัวของจิ้งจอกน้อย
คนโนะสุเกะขยับตัวพริ้วโดยที่แจกันนั้นไม่ตกลงอย่างน่าอัศจรรย์ แล้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
แทบจะเป็นวินาทีเดียวกับที่จิ้งจอกตัวเล็กผละตัวออกไปจากห้อง จิ้งจอกตัวใหญ่ก็คว้าเอวบางของคนที่นั่งเคียงข้างอย่างรวดเร็ว พร้อมกับโน้มศีรษะของตัวเองลง หมายจะช่วงชิงเอาสัมผัสที่ตัวเองโหยหา
"มิคาสึกิ ..."
ริมฝีปากของสัตว์ร้ายหมายจะกินเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า แต่พอได้จรดลงสัมผัสกลับไม่นุ่มเหมือนอย่างเคย
โคกิทสึเนะมารุขมวดคิ้วแน่นแล้วขยับตัวออกมา นิ้วเรียวของมิคาสึกิถูกยกสูงมาอยู่ระดับปากพร้อมใบไม้ใบหนึ่ง
"เย็นชาเสียจริงนะ มิคาสึกิ"
"เจ้าใจร้อนต่างจาก เจ้าจิ้งจอก"
จันทราส่งประกายยั่วยิ้มแต่กลับไม่ขยับกายออกจากอ้อมแขนนั้น
"ข้านั่งนิ่งรอเจ้ามานานแล้วนะ"
ร่างที่ขยับออกห่างค่อยๆ กระชับวงแขนให้แน่นขึ้นทีละนิด
"ไม่ได้นานอะไรเลย ก็เพียงแค่จัดดอกไม้เพียงชั่วโมงเท่านั้น"
"นาทีเดียวของเจ้านั้นนานเท่าชั่วโมงการรอของข้า มิคาสึกิ"
มิคาสึกิหัวเราะหึๆ ในลำคอเพียงแผ่วเบา แล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายขยับกายตัวเองเข้าอิงแอบลงบนแผ่นอกกว้าง
"ข้าถึงบอกว่าเจ้าใจร้อนไง จิ้งจอกน้อย ดูแล้วเจ้าใจร้อนกว่าคนโนะสุเกะเสียอีก"
โคกิทสึเนะมารุเห็นอีกฝ่ายโอนอ่อนเอนตัวลงกับกายของเขาอย่างอ่อนหวาน จึงกอดดวงจันทร์เข้าแนบแน่น
"หากกระต่ายตัวน้อยอยู่ตรงหน้า จิ้งจอกที่ไหนจะไม่อยากเข้าขย้ำเหยื่อเล่า"
จิ้งจอกจูบเพียงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากนวล
"ข้าไม่ใช่กระต่าย ข้าคือจันทรา"
ชายในนามจันทร์เสี้ยวยิ่งอิงกายเข้าหาแล้วยกแขนของตนเองเข้ากอดชายตรงหน้าเช่นกัน
"แล้วเจ้าจะกินข้าได้หรือไม่?"
จันทราพูดจบก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักขึ้นมาเบาๆ
"โชคร้ายนะ ที่ข้าเองก็ไม่ใช่แค่จิ้งจอก ... แต่เป็นทสึคุโมะกามิที่ได้รับการคุ้มครองจากเทพจิ้งจอกต่างหาก"
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของโคกิทสึเนะมารุพร้อมกับประกายราวกับนักล่าสะท้อนออกจากดวงตาสีแดง ก่อนจะผลักร่างบางล้มลงกับพื้น
"มิคาสึกิ ..."
เขียวขาววับราวกับสะท้อนแสงจันทร์ในยามที่สุริยะยังฉายแสงจ้า
ชายที่ถูกเรียกชื่อขยับยิ้มหวานให้กับชายที่อยู่เหนือร่างของตนเอง ดวงจันทร์ในแววตาส่องแสงอ่อนพลางหรี่ลงอย่างยั่วยวน วงแขนที่โอบอยู่รอบลำคอแกร่งค่อยออกแรงดึงให้ร่างนั้นยิ่งโน้มลงมา
ก่อนที่มิคาสึกิจะรำพึงออกมา
"ข้าว่ามันเป็นโชคดีเสียมากกว่า .."
=========================================================
จบแล้วววววววว
สั้นอย่างที่ไม่เคยเขียนได้ในชีวิตค่ะ ...
ปกติไม่เคยเขียนอะไรสั้นๆ ได้เลย TT3TT
พอไม่มีเวลาในชีวิตจริงๆ มันก็พอทำได้แหะ ...
ช๊อตต่อจากนี้ ขอเชิญจิ้นกันเองนะคะ XDDD
แบบว่ามากกว่านี้ใช้พลังงานสูงมากในการแต่ง ช่วงนี้คงไม่มีพลังจะแต่งล่ะค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่า ^^/
No comments:
Post a Comment