Thursday, October 1, 2015

Touken Ranbu Fanfiction - Tsurumaru x Ichigo, ??? x Ichigo - ซาดะจังมาแล้วววว!

คำเตือน
เรื่องจากโมโนโยชิยังไม่ออก ฟิคเรื่องนี้จึงเป็นการมโนล้วนๆ
หากท่านใดไม่ชอบ รู้สึกว่า เฮ้ย อย่าพึ่งมโนโมโนโยชิคุงสิ! ขอเชิญผ่านฟิคนี้ไปได้เลยจ้า
ฟิคนี้เป็นคู่ ทสึรุอิจิ แต่แอบแฝงคู่ ??? x อิจิ ไว้ด้วยนะ

ส่วนฟิคเรื่องอื่นๆ ที่แอบอู้ไว้ อุ ... ขอโทษษษษษษ
เจ้าของบล๊อกแอบมาแต่งฟิคอวยชัยน้องโชคดี เพราะโดนกระแสแฟนอาร์ทมันเล่นงานเอา
แถมด้วยไปแต่งฟิค อิจิมิกะ ลงแอนโธมาด้วยค่ะ <3
ไว้ถ้าหนังสือเป็นเรื่องเป็นราว จะมาแอบโฆษณาอีกทีนะ อิอิ

เราจบช่วงโฆษณาแล้วไปอ่านฟิคกันดีกว่า อิอิ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า
คิดเห็นเป็นยังไง ขอเชิญติชมได้เลย~~

===============================

"ดะ ... ดาบใหม่!!!"
เสียงของซานิวะดังออกจากห้องของช่างตีดาบ สะท้อนไปทั่วทั้งฮงมารุ ตามมาด้วยเสียงฮือและเสียงฝีเท้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่วิ่งมายังต้นเสียง
เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วราวกับกระชาก
ซานิวะก็นั่งทรุดอยู่กับพื้น ยกมือชี้ไปทางด้านในของห้อง
ร่างของเด็กหนุ่มน้อยผมสีส้มอ่อน สีเดียวกับดวงตาที่เปล่งประกายยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมด้วยรอยยิ้มหวาน ปลายผมที่ชี้ไปมาเหมือนจะไม่ได้ทรง แต่กลับดูดีอย่างน่าประหลาดใจขยับขึ้นลงทันทีที่เจ้าตัวก้มหัวและโค้งลงอย่างสุภาพ
"สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกท่าน ผมคือ โมโนโยชิ ซาดามุเนะ ครับ"

Touken Ranbu Fanfiction - Tsurumaru x Ichigo, ??? x Ichigo - ซาดะจังมาแล้วววว!
บรรดาจิตวิญญาณแห่งดาบรุ่นพี่ทยอยกันเข้ามาในห้องเพื่อชื่นชมและยินดีกับดาบน้องใหม่ตัวน้อยที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนที่นำมาซึ่งโชคลาภ
เสียงชมหนุ่มน้อยน่ารักดังขึ้นไม่ขาดปาก จนกระทั่งมาถึงคิวของเจ้าตัวแสบประจำฮงมารุ ที่ยื่นหน้าพร้อมดวงตาสีทองมองไปยังเด็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นป้องปาก แล้วโพล่งออกมา
"ซาดามุเนะ ซาดามุเนะ ... ซาดะ ...... ซาดะจัง!"
ทสึรุมารุใช้กำปั้นทุบลงไปบนฝ่ามืออีกข้างดังแปะ
"ใช่ล่ะ นึกถึงซาดะจังเลย! ที่มีคนชอบพูดถึงบ่อยๆ"
"เดี๋ยวๆ เจ๊ว่าไม่เกี่ยวนะ ทสึรุมารุ"
ซานิวะสาวยกมือขึ้นตบไหล่ของคนพูดขึ้นเบาๆ แต่เขาไม่สนใจ พูดต่อไปไม่หยุด
"เรียกว่าซาดะจังก็น่ารักดีนี่นา เนอะ ซาดะจัง"
คนถูกเรียกหัวเราะเบาๆ โดยไม่ปฏิเสธ ทำให้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ถัดไปด้านหลังเพียงเล็กน้อยของเจ้ากระเรียนขยับตัวเข้ามาพูดบ้าง
"ท่านโมโนโยชิครับ ไม่ต้องใส่ใจนะครับ ถ้าไม่ชอบใจก็บอกมาโดยตรงเลย ไม่งั้นท่านทสึรุมารุไม่เข้าใจหรอกครับ"
ดวงตาสีเดียวกับเจ้าคนช่างเจรจาส่องประกายของความสุภาพนอบน้อม
"อะไรกัน นายว่าฉันเหรอ อิจิ"
เจ้าหนุ่มผมสีเงินหันควับไปทางเจ้าของเรือนผมสีน้ำทะเลจนปลายผมปอยยาวสะบัดไหว แล้วหันกลับมาพูดทีเล่นทีจริงกับเด็กหนุ่มอีกครั้ง
"ไม่เห็นจะเป็นไรเลยเนอะ ซาดะจัง"
โมโนโยชิ หันไปมองหน้าชายที่ถูกเรียกว่า "อิจิ"
"เอ่อ คุณคือ ...?"
ทสึรุมารุทุบมือตัวเองอีกครั้ง
"จริงสินะ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันคือ ทสึรุมารุ คุนินางะ บ้านโกะโจ ส่วนพี่ชายเคร่งเครียดนี่คือ อิจิโกะ ฮิโตฟุริ บ้านอาวาตะกุจิ"
แล้วเขาก็ก้มลงกระซิบข้างๆ หูของเด็กตัวเล็ก แต่ให้ดังพอที่คนอยู่ข้างกายจะได้ยิน
"ถึงจะเครียดแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วออกจะน่ารักนะ"
"ท่านทสึรุมารุ!"
คำชมทำให้อิจิโกะเปลี่ยนสีของใบหน้าให้กลายเป็นสีของสตรอเบอรี่ไปจริงๆ
"อิจิโกะ ... ฮิโตฟุริ ...?"
แต่คนที่ได้ยินชื่อกลับพูดทวนชื่อนั้นช้าๆ ราวกับสงสัยอะไรบางอย่าง พร้อมกับยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากตัวเอง
"หรือว่า ... คุณจำผมไม่ได้เหรอครับ?"
แล้วโมโนโยชิก็ถามคำถามขึ้น
"เอ๋?"
อิจิโกะเบิกตาเล็กน้อยแล้วเอียงคอกับคำถามนั้น
"เอ่อ คือ ... เพราะว่าข้าเคยถูกเผา และถูกหลอมใหม่มาครั้งหนึ่งน่ะครับ ทำให้ความทรงจำหลายส่วนหายไป ..."
สีหน้าของหนุ่มรูปงามราวเจ้าชายดูหมองลง ส่วนเด็กที่ท่าทางสง่าเหมือนเจ้าชายตัวน้อยในชุดสไตล์ยุโรปคล้ายกันก็แสดงสีหน้าตกใจปนความกังวลใจ
"เอาน่า! ความทรงจำเราก็มาสร้างใหม่ได้ที่นี่นี่นา เอาให้มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตกใจเลย!!"
ทสึรุมารุรีบส่งเสียงร่าเริงกลบบรรยากาศที่หมองหม่น
"ต่อจากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะ ซาดะจัง!"
พอกระเรียนตบหลังของร่างเล็กเบาๆ ประตูเลื่อนของห้องก็ถูกกระชากเปิดออกมา

"อะไรนะ!? ซาดะจัง!?"
เจ้าของร่างในชุดวอร์มสีดำแต่ประดับด้านบนด้วยผ้ากันเปื้อนลูกไม้สีชมพูอ่อนปรากฏร่างขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนอย่างไม่เท่เอาซะเลย
ร่างนั้นพุ่งเข้าหาดาบเล่มใหม่อย่างไม่ลังเล
"ซาดะจัง!? ซาดะจังเหรอ? ดีใจจังเลยที่ซาดะจังมาแล้ว!"
โชคุไดคิริยกสองมือขึ้นจับไหล่ของซาดะจัง ที่ไม่ใช่ซาดะจัง ก่อนที่เขาจะรู้ตัว แล้วรีบเช็ดมือสองข้างที่ยังหอมกลิ่นกระเทียมเข้ากับผ้ากันเปื้อน แล้วยกขึ้นจับไหล่ของเด็กน้อยคนเดิม
"เอ่อ เดี๋ยวนะ มิตสึทาดะ คือ ..."
เจ้าของชุดสีตรงกันข้ามพยายามจะแก้ไขความเข้าใจที่ไปกันคนละทางเหมือนสีเสื้อของทั้งสอง แต่โชคุไดคิริอยู่ๆ ก็ขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไร แล้วหันหน้ามามองทางทสึรุมารุสลับกับชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกัน
"ทสึรุมารุ ... หรือว่า ... ซาดะจัง ..."
"อา ... ใช่แล้ว รู้ตัวแล้วสินะ"
เจ้ากระเรียนผายมือทั้งสองออกพร้อมกับถอนหายใจ
"... อย่างนั้นเองเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลย ... มิน่าถึงมีจิตวิญญาณแห่งดาบเล่มใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาได้ ..."
ประโยคหลังทำให้เจ้ากระเรียนรู้สึกถึงความผิดปกติ แต่ยังไม่ทันจะแย้งอะไร ชายที่ปิดตาไว้ข้างหนึ่งก็ทำสีหน้าตาตื่นพูดออกมาเสียเสียงลั่นห้องจนดาบเล่มอื่นๆ ได้ยินกันหมด
"ที่แท้ซาดะจังก็เป็นลูกของทสึรุมารุกับอิจิโกะคุงนี่เอง!!"
ท่ามกลางความตกตะลึงและงุนงงของทุกคน โชคุไดคิริยังคงพูดต่อด้วยด้วยท่าทางตื่นเต้นและตกใจ
"คิดมาตลอดว่าซาดะจังต้องน่ารักแน่ๆ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีหน้าตาคล้ายทสึรุมารุ แถมยังดูสง่า ภูมิฐานแบบอิจิโกะคุง"
"ดะ ... เดี๋ยวนะครับ!"
คนถูกพาดพิงร้อนรนจะแก้ไขความเข้าใจผิด แต่อีกคนที่ตกที่นั่งเดียวกันกลับรีบปิดปากเอาไว้ แล้วยิ้มมีเลศนัย
"ใช่เลย โอ้ มิตสึทาดะ นายมองแว่บเดียวรู้เลยเหรอเนี่ย"
อิจิโกะยิ่งพยายามดิ้นออกจากมือที่ปิดไม่ให้ส่งเสียงนั้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวแสบกำลังจะต่อเรื่องให้วุ่นหนักกว่าเดิม
"ฉันอุตสาห์ไม่พูด ดูสิ อิจิโกะเขินใหญ่เลย"
ใบหน้าของอิจิโกะเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด ไม่ใช่เพราะความเขินอายเพียงอย่างเดียวตามที่ทสึรุมารุพูด แต่เป็นความโกรธที่พร้อมจะปล่อยท่าไม้ตายซัดใส่ให้เจ้ากระเรียนได้อาบสีเลือดสมใจ
พอเจ้าตัวโมโนโยชิลังเลที่จะพูดอะไร กระเรียนหนุ่มก็ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปากตัวเองเป็นเชิงห้ามพร้อมกับหัวเราะหึๆ เด็กตัวน้อยเลยส่งยิ้มร่าและพยักหน้ากลับด้วยท่าทางสนุก

ส่วนซานิวะสาวได้แต่อึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะกุมขมับอย่างปวดเฮด แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย

เวลาล่วงเลยมาสองวันหลังจากที่ "ซาดะจัง" มายังฮงมารุ ทุกคนต่างให้การต้อนรับน้องใหม่อย่างเป็นกันเองแม้แต่อิจิโกะฮิโตฟุริ เว้นอยู่เพียงเรื่องเดียว ...
อิจิโกะพับเสื้อผ้าของน้องๆ เสร็จก็ลุกขึ้นนำชุดทั้งหมดใส่ในตู้ ขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องนั้นเอง
"ท่านแม่จ๋า~"
เสียงใสร้องเรียกหาพุ่งเป้าไปที่เจ้าชายประจำฮงมารุ ก่อนที่ร่างในชุดสีขาวจะวิ่งเข้าไปหาหมายจะกอด
... แต่ทั้งเสียงและร่างนั้นมีเจ้าของสองคน ...
เด็กตัวเล็กทำยังดูน่ารัก แต่กระเรียนตัวโตที่เป็นคนก่อเรื่องกลับโผเข้ามากอดรัดด้วย ทำให้อิจิโกะอยากจะหยิบดาบขึ้นฟันเจ้าหมอนี่เสีย
ในขณะที่เจ้าตัวน้อยกอดเอวของเจ้าชายแห่งฮงมารุเอาไว้ เจ้าชายก็ผลักไสชายในชุดขาวออก
"พอเลยครับ ท่านทสึรุมารุ"
คนก่อเรื่องที่ไม่สำนึกยังพยายามเข้ากอดอยู่ดี
"อะไรกัน แม่จ๋า ทีลูกของเรายังยอมให้กอดเลย ไม่เห็นใจพ่อจ๋าบ้างรึไง"
พอพูดจบประโยค ร่างของพ่อจ๋าก็โดนตะเพิดออกนอกห้องทันที
"จริงๆ เลย ... ท่านทสึรุมารุนี่เล่นอะไรไม่เข้าท่า ..."
อิจิโกะบ่นพึมพัมอยู่คนเดียวก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเด็กที่ท่าทางคล้ายคนที่พึ่งถูกไล่ออกไป
"ถ้าท่านโมโนโยชิไม่ชอบใจ ก็ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ควรจะบอกปฏิเสธให้ชัดเจนเลยนะครับ"
"ผมก็ไม่ได้ไม่ชอบอะไรนะครับ"
ดวงตาใสคู่นั้นตอบกลับมาตรงๆ ทำให้คนถามเกิดความสงสัยขึ้นมา
"ถ้าอย่างนั้น ... ทำไมถึงร่วมมือกับท่านทสึรุมารุล่ะครับ? ดูแล้วท่านโมโนโยชิก็ไม่ได้ชอบป่วนเหมือนกับท่านทสึรุมารุสักหน่อย"
เจ้าดวงตาใสคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย และทั้งห้องก็เงียบลงในทันใด
รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้าของโมโนโยชิ
"ก็เพราะ ..."
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดผ่างออกอย่างรวดเร็ว
"ทสึรุมารุ ... ไอ้กระเรียนบ้านั่นอยู่ที่ไหน!!"
เสียงตะโกนดังจากร่างสีทึมที่กระชากประตูออกด้วยสีหน้าร้อนรนอย่างผิดปกติจากคนที่เงียบขรึมประหยัดคำอย่างโอคุริคาระ
"เอ่อ ..."
ดวงตาสีเหลืองทองของอิจิโกะเบิกขึ้นเพียงนิดก่อนจะตอบคำถาม
"ข้าพึ่งไล่ออกไปจากห้องนี้เมื่อสักครู่เองครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าหากว่าข้าช่วยได้ ..."
ชายผิวคล้ำเดาะลิ้น ก่อนจะหลบสายตาที่มองมาอย่างซื่อตรง
"มิตสึทาดะไปเชื่อเรื่องโกหกบ้าๆ นั่น ..."
สีแดงค่อยเข้าแต้มใบหน้านั้นเพียงเล็กน้อย
"เลยร้องอยู่ทุกคืนว่าอยากจะมีลูกบ้าง ..."
พอจบคำอธิบาย เจ้าชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจให้ผู้เคราะห์ร้ายอีกคนจากความเกรียนของกระเรียน
"เอาเถอะ ... ถ้าอยู่ใกล้ๆ นาย เดี๋ยวทสึรุมารุก็คงโผล่หัวมาเอง ยังไงซะ มันก็ต้องมาตามวอแวนาย"
อิจิโกะกลับรู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้ากับคำพูดนั้น
เจ้าตัวเล็กด้านข้างที่ไม่มีบทได้แต่เหลือบมองสีจางๆ ของเลือดฝาดบนใบหน้าของอิจิโกะ

"อี่~ จี~ โก~~~"
เพียงแค่ขาดคำของโอคุริคาริ เจ้าตัวแสบก็พุ่งเข้ามาทางประตูที่ถูกเปิดค้างไว้ เจ้าตัวโผเข้าหาเป้าหมายพิศวาสของตัวเองโดยไม่ได้รับรู้ถึงออร่าสังหารสีดำมืดด้านหลังประตูที่พึ่งผ่านเข้ามา
"จวนจะได้เวลาของว่างแล้ว เราไปกินกันตามประสาพ่อแม่ลูกดีกว่านะ ..."
"ทสึรุมารุ ..."
เงาตะคุ่มดำด้านหลังตัดกับประกายวาบจากดาบสีเงิน
"อะ อ้าว คุริจัง มีอะไรเหรอ?"
ร่างนั้นขยับเข้าใกล้เสียจนคุณแม่ควรจะหึงคุณพ่อ เพียงแต่มีอุปกรณ์ประกอบฉากเกินมาเป็นดาบเงาวิ้งจ่อที่ลำคอขาวของคุณพ่อ
"แกรีบไปอธิบายให้มิตสึทาดะฟังเลยนะ ว่าแกโกหกอะไรไว้"
"เอาน่าๆ ใจเย็นก่อนนะพี่ชาย"
กระเรียนเกรียนหัวเราะแหะๆ แล้วใช้มือทั้งสองดันดาบที่คอหอยตัวเองออก
ก่อนจะอาศัยจังหวะนั้นเตะตัดขาจนร่างที่ใหญ่กว่าเซล้มลง กระเรียนหนุ่มก็โดดโผข้ามร่างที่พลั้งเผลอไป
"ขอฉันสนุกอีกหน่อยละกันน่า จะเอาให้มิตสึทาดะตกใจจนช๊อคไปเลย"
แล้วร่างนั้นก็วิ่งพริ้วหายไป ก่อนที่โอคุริคาระจะรีบลุกแล้ววิ่งตามไปพร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

อิจิโกะหัวเราะแห้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนแอบคิดในใจว่าบางทีตัวเองอาจจะยังโชคดีกว่าโอคุริคาระ
"ถ้าถูกจับได้ คุณทสึรุมารุคงตายแน่เลยนะครับ"
เสียงดังขึ้นจากโมโนโยชิที่กอดเอวของอิจิโกะไว้ตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์ตื่นเต้น
"อา นั่นสินะครับ"
เจ้าชายหนุ่มก้มมองเจ้าชายตัวน้อย แล้วลูบหัวเบาๆ
"เมื่อกี้เราคุยถึงไหนกันแล้วนะครับ?"
เจ้าชายน้อยขยับมุมปากขึ้นอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมพัดเข้ามาในห้องอย่างแผ่วเบา
"... อิจิโกะซังอยากรู้เหตุผลเหรอครับ?"
คนฟังพยักหน้ารับ
"ถ้าหากว่าเป็นเรื่องที่ท่านโมโนโยชิบอกได้นะครับ"
"ถ้าอย่างนั้น ... ก้มหน้าลงมาหน่อยสิครับ"
โมโนโยชิพูดพลางเอามือป้องปากเหมือนจะเล่าความลับอะไร อิจิโกะจึงค่อยๆ โน้มตัวลงมาด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
แต่ทันใดนั้นคนตัวเล็กกว่ากลับยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมกับโผเข้าใช้แขนโอบรอบคอของกายที่เคลื่อนเข้าใกล้ แรงโดดเต็มแรงของคนตัวเล็กนั้นมากพอที่จะผลักร่างที่กำลังขยับให้เซและหงายหลังลงกับพื้น
อิจิโกะฮิโตฟุริใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาสะบัดหัวเบาๆ ก่อนจะมองไปเบื้องหน้า สิ่งที่เขาเห็นกลับไม่ใช่เพดาน แต่เป็นเงาของเด็กชายตัวเล็ก และใบหน้านั้นในระยะใกล้
"ทะ ... ท่านโมโนโยชิ ...?"
เจ้าชายหนุ่มรู้สึกทั้งแปลกใจและตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
รอยโค้งบนริมฝีปากของร่างที่คร่อมอยู่เหนือก็ขยับกว้างขึ้นอีก มือเล็กและนิ้วเรียวบางขยับขึ้นสัมผัสแก้มเนียนของอิจิโกะพลางใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากอย่างเชื่องช้า
"ก็เพราะอิจิโกะซังน่ะแหละครับ"
น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นและมีเจ็บปวดผสมปนเปกันมา
"เพราะอิจิโกะซัง ... ลืมเรื่องของผมน่ะแหละ"
อิจิโกะรู้สึกเสียวสันหลังวาบไปพร้อมกับร้อนรุ่มราวกับมีไฟลุกขึ้นมา ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างขึ้น มือที่เหงื่อออกจนชื้นกำแน่น
"ทะ ... ท่านโมโนโยชิ ..."
ใบหน้าของเด็กชายขยับเข้าใกล้ขึ้นทีละนิดพร้อมกับความรู้สึกราวกับถูกเผาจนมอดไหม้หลอมละลายที่ทำให้เจ็บจนทรมานที่เกิดขึ้นในใจของอิจิโกะฮิโตฟุริ
ภาพบางอย่างผุดขึ้นและถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน ก่อนจะมีภาพเลือนรางผุดขึ้นแล้วถูกมอดไหม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ลมหายใจของอิจิโกะเริ่มเสียงดังไม่เป็นจังหวะ
"โว๊ะ! ฉันสลัดคุริจังหลุดแล้ว! เราไปกินของว่างกัน ... เถอะ ...?"
ร่างสีขาวบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นที่หน้าประตูพร้อมกับส่งเสียงร่าเริง แต่แล้วก็ต้องพิศวงกับภาพตรงหน้า
"ทำอะไรน่ะ?"
ทสึรุมารุจ้องมองคนร่างเล็กที่อยู่ด้านบนเขม็ง
"อ๋อ ก็แค่ผมสะดุดล้มน่ะครับ ขอโทษอิจิโกะซังด้วยนะครับ"
โมโนโยชิลุกขึ้นช้าๆ แล้วตอบพร้อมกับยิ้มเอียงคอ แต่ทสึรุมารุยังคงขมวดคิ้วจ้องหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปประคองร่างของอิจิโกะให้ลุกขึ้น
มือที่จับกันทำให้ทสึรุมารุรู้สึกได้ถึงเหงื่อ และเมื่อมองใบหน้าก็เห็นได้ชัดว่าเจ้าชายผู้สุขุมกลับหน้าซีดเซียว เจ้ากระเรียนจึงได้ส่งสายตาแข็งเป็นเชิงถามไปยังเจ้าชายตัวน้อย แต่เจ้าตัวกลับส่งยิ้มให้แทนคำตอบ
"เดี๋ยวผมขอตัวสักนิดละกันนะครับ เชิญท่านพ่อกับท่านแม่ไปทานของว่างก่อนได้เลย"
จากนั้นโมโนโยชิจึงเดินออกไปจากห้อง
พอแผ่นหลังเล็กนั้นลับตาไป เจ้ากระเรียนก็เปลี่ยนจากประคองเป็นกอดทันที
"อิจิ ไม่เป็นอะไรนะ?"
ร่างที่ดูอ่อนแรงพยักหน้า
"ครับ แค่รู้สึกเพลียๆ ..."
ทสึรุมารุถอนหายใจออกมา
"พอแค่นี้แล้วดีกว่า ..."
"ครับ?"
อิจิโกะกระพริบตาถี่ๆ อย่างไม่เข้าใจสิ่งที่คู่สนทนาพูด
"เรื่องเจ้าลูกชายของเรา พอแค่นี้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปอธิบายให้มิตสึทาดะฟัง"
ทสึรุมารุพูดแค่นี้แล้วก็ลดระดับเสียงเป็นการบ่นอุบอิบแทน
"ลืมคิดไปเลยว่า ถึงจะดูเหมือนเด็ก แต่เจ้าพวกนี้ก็อายุหลายร้อยปีกันแล้วทั้งนั้น ..."
เจ้าชายหนุ่มได้ยินคำของคนที่กอดร่างตัวเองไว้ไม่ชัด
"เอ๋ อะไรนะครับ?"
ทสึรุมารุจึงเงยหน้าที่ก้มลงบ่นขึ้น จ้องมองไปในดวงตาใสสีเดียวกับดวงตาของตน อิจิโกะจ้องตอบกลับมา
ดวงตาคู่นั้นดูซื่อตรงและจริงใจเสียจนทำให้อิจิโกะรู้สึกร้อนบนใบหน้าขึ้นมาเล็กน้อย
"ก็แค่ ... ฉันจะไม่ยอมยกนายให้กับใครทั้งนั้นล่ะ อิจิ"

คราวนี้เป็นใบหน้าของทสึรุมารุที่ขยับเข้าใกล้ จนทำให้อิจิโกะรู้สึกร้อนไปหมด
"ท่าน ... ทสึรุมารุ ..."
เสียงเรียกชื่อที่ผสมไปทั้งความหวานและความขมดังขึ้น ก่อนจะถูกปิดด้วยริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่าย
จุมพิตจากชายตรงหน้าทำให้เจ้าชายหนุ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
แต่มันไม่ใช่ความรุ่มร้อนที่อึดอัดและทรมานเหมือนเมื่อครู่
เขาหลับตาลงพริ้ม ยกแขนทั้งสองของตนเข้าโอบรอบร่างชายในชุดขาว และตอบรับความอบอุ่นที่แสนรัญจวนนั้นแต่โดยดี

★แถมท้าย★
อาหารมื้อเย็นของฮงมารุมักจะเป็นอาหารมื้อที่มิตสึทาดะลงมือเต็มที่ที่สุด เพราะเป็นมื้อที่ดาบทั้งหลายเสร็จจากภาระกิจอันแสนเหนื่อยของทั้งวัน รวมถึงพวกที่ออกเดินทางไปตอนกลางวันก็มักจะกลับมาแล้วด้วย
ฝีมืออาหารของมิตสึทาดะเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครในฮงมารุเลยทีเดียว
บรรดาจิตวิญญาณแห่งดาบต่างพากันนั่งหน้าสำรับข้าวของตนเอง แล้วยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณโดยพร้อมเพรียงกัน
"ทานล่ะนะครับ!!"
เมื่ออาหารถูกทยอยส่งไปในปาก เสียงชมเปาะก็ดังไม่ขาดสาย
"ไก่ทอดนี่อร่อยมากเลยล่ะ มิตสึทาดะ กรอบนอกนุ่มใน!"
"เนื้อตุ๋นนี่ก็รสชาติเข้าเนื้อ กลมกล่อมมาก!"
"นั่นสิน้า ... อร่อยจังเลยน้า ..."
แต่หนึ่งเสียงที่ดังขึ้นมากลับเป็นเสียงที่อ่อนใจของเจ้ากระเรียนขาว
อิจิโกฮิโตฟุริที่นั่งอยู่ด้านข้างจึงหันไปมองและพบว่า ...
สำรับข้าวของทสึรุมารุมีเพียงข้าวสวยพูนชามกับผักดองหนึ่งถ้วยเท่านั้น
"... สมควร ..."
ด้านข้างอีกด้านหนึ่งของทสึรุมารุเป็นโอคุริคาระที่ให้ความเห็นเพียงสั้นๆ เท่านั้น
"อิจิโกะ~~~"
ทสึรุมารุร้องเสียงหลงเพื่อจะอ้อนขอความเห็นใจ เจ้าชายหนุ่มแสนดีจึงหัวเราะแห้งๆ แล้วเริ่มคีบอาหารในสำรับตัวเองเพื่อจะแบ่งให้
"อิจิน่ารักที่สุดเลยยยยยย"
เจ้ากระเรียนโผเข้ากอดร่างของคนใจดีที่อยู่ข้างๆ
"เดี๋ยวสิครับ แบบนี้ข้าคีบไม่ถนัด ..."
"อ๊ะ อิจิ ฉันไม่เอาต้นหอมนะ"
"เอ๋?"
เจ้ากระเรียนเกรียนยังคงพูดต่อไป
"เนื้อตุ๋นผักนั่น มิตสึตาดะทำอร่อยมากเลย ขอฉันด้วยนะ เอาเนื้อเยอะๆ แต่ไม่เอาแครอท ขอแค่ไชเท้าก็พอ ส่วนจากนั้นขอ ..."
"ท่านทสึรุมารุ!!"
ตะเกียบที่คืบอยู่โดนวางในชุดสำรับดังปึง
"คนอุตสาห์จะแบ่งให้ ยังจะโน่นนี่อีก แถมจะเลือกทานอีกเหรอครับ อายุปูนนี้แล้ว ..."
"อ่ะ ก็แหม อิจิใจดีนี่นา เอามาแลกกับผักดองของฉันก็ได้นะ"
ทสึรุมารุยังได้ใจพูดไปหัวเราะไป แต่อิจิโกะฟิวส์ขาดไปเรียบร้อยแล้ว เขาส่งยิ้มพิฆาตให้หนึ่งที ก่อนจะคีบต้นหอมกับแครอททั้งหมดในสำรับอาหารตัวเองใส่ลงในจานผักดองของชายอีกคน
"เอ๋? อิจิ!"
เจ้ากระเรียนร้องโหยหวน แต่เจ้าชายหนุ่มสะบัดหน้าหนีไม่สนใจ ส่วนคนที่นั่งด้านข้างอีกคนนึงนั้นก็ให้ความเห็นสั้นๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
"... สมควร ..."
ในระหว่างที่ทสึรุมารุกินข้าวคลุกน้ำตากับพาเหรดผัก
ผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีทำร้ายความรู้สึกมิตสึทาดะก็ยกสำรับเดินมานั่งด้านหน้าของทั้งสอง
อิจิโกะเกร็งตัวขึ้นนิด ในขณะที่ทสึรุมารุขมวดคิ้วแล้วจ้องเขม็งกลับไป
"ขอนั่งทานด้วยคนนะครับ"
โมโนโยชิทักทายเสียงใสขึ้นมา
"อยากจะขอโทษเรื่องเมื่อกลางวันสักหน่อยน่ะครับ"
คำพูดของเจ้าตัวเล็กทำให้บรรยากาศที่คุกรุ่น สงบลงเล็กน้อย
"เมื่อก่อนกลางวัน ผมอาจจะล้อเล่นแรงไปนิด เพราะอิจิโกะซังจำผมไม่ได้เลย แต่ถึงเราจะเคยมีเจ้านายเป็นศัตรูกันมาก่อน ตอนนี้เราก็รับใช้เจ้านายคนเดียวกัน ฉะนั้นเรามีดีกันเถอะนะครับ"
รอยยิ้มบริสุทธิ์บนใบหน้าของเด็กน้อยยากที่จะไม่ยกโทษให้ได้ โดยเฉพาะคนที่มีเชื้อพี่ชายแรงมากอย่างพี่คนโตของบ้านอาวาตะกุจิ อิจิโกะจึงเผลอตอบไป
"อ่ะ ... ครับ"
"ขอบคุณนะครับ"
เรื่องก็ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่พอทสึรุมารุมองไปที่สำรับของโมโนโยชิ
"ชิ ... โมโนโยชิก็ร่วมด้วยแท้ๆ แค่ดูเป็นเด็กดีน่ารัก เจ้ามิตสึทาดะก็จัดอาหารให้เต็มที่เชียวนะ"
อดีตซาดะจังที่เป็นคนร้ายร่วมมองไปที่สำรับของทสึรุมารุ
"อ๊ะ จริงสินะครับ ถ้าอย่างนั้นเพื่อเป็นการขอโทษและแสดงไมตรีว่าต่อไปนี้เราจะเป็นพวกเดียวกัน ผมจะแบ่งกับข้าวของผมด้วยละกันนะครับ"
ทสึรุมารุยิ้มกว้างใส่คนที่เคยมองเป็นศัตรู
"จะดีเหรอ โมโนยชชี่คุง~~"
แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นว่า สิ่งที่โมโนโยชิคีบมาให้ก็คือผักดองนั่นเอง
"หนอย! แก เจ้าเด็กบ้า!"
"ส่วนอิจิโกะซัง ก็ ..."
คราวนี้กระเรียนแทบจะลุกขึ้นเต้นโผงเมื่อการแสดงความเป็นมิตรของเจ้าเด็กในชุดสีเดียวกับตัวเองคือการหอมแก้มเจ้าชายหนุ่มฟอดใหญ่
อิจิโกะใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อแล้วพร้อมกับงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"เจ้าโมโนโยชิ!!"
ส่วนทสึรุมารุลุกขึ้นหมายจะจับตัวคนที่มาชมเนื้อนวลของตัวเองต่อหน้าต่อตา แต่โมโนโยชิก็ไม่บื้อขนาดจะอยู่เฉยๆ ให้เล่นงาน
"ฉันจะจับนายไปผูกไว้ในโรงม้าแล้วกินมื้อเย็นของนายให้หมดเลย!"

ซานิวะสาวที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลกุมขมับตัวเอง ถอนหายใจยาว ก่อนจะออกคำสั่งให้จับเจ้าตัวก่อเรื่องสองคนไปนั่งกินข้าวหน้าผักดองที่คอกม้าด้วยกันทั้งคู่

============================
จบแบบป่วนๆ ป่วงๆ ป่วยๆ ฮาาาา
เชิงอรรถไว้ เผื่อใครไม่รู้
คนที่สั่งเผาปราสาททำให้อิจินี่โดนเผาไปด้วยก็คือเจ้านายของโมโนคุงค่ะ
คนแต่งเลยจิ้นว่า อิจินี่ น่าจะมี trauma กับโมโนคุงหน่อยๆ
ทำให้รู้สึกร้อนๆ เหมือนโดนเผา
แต่กับทสึรุนี่ร้อนๆ อีกแบบนะคะ ครุคริ XDDDDD

ยินดีรับคำติชมเต็มที่ค่า <3

4 comments:

  1. ว้ายยย เพิ่งได้มาอ่านค่ะ น่ารักจังเลย ฮืออออ //////////////////////////
    ชอบที่ทสึรุป่วนๆแบบนี้จังค่ะ น่ารัก อิจินี่หายซึม หายซีดแน่นอน
    ชอบมากค่ะ >////<)b

    ReplyDelete
    Replies
    1. พึ่งได้มาดูคนเมนท์ ตอบช้ามากเลย ขอโทษค่าาาาา TT3TT
      ฟิคนี้แต่งมโนสุดยอด เพราะตอนแต่งน้องโมโนยังไม่มา
      ดีใจที่ชอบนะคะ ขอบคุณค่า <3

      Delete
  2. เซิร์จมาเจอบลอคนี้ ซุ่มอ่านมาสักพักแต่เรื่องนี้ไม่ไหวแล้ว อยากร้องว่าน่ารักมากกก ชอบสึรุที่เลิกเล่นพ่อแม่ลูกทันที เพราะหึงนี่ละค่ะ ชอบที่เพิ่งรู้ตัวว่า เห็นท่าทางดูเด็กๆ แต่จริงๆ ไว้ใจไม่ได้ เนี่ยแหละ กับตอนที่โมโนโยชิกดพี่เขา ชอบบรรยายช่วงที่รู้สึกร้อนขึ้นมา รู้สึกดราม่านิดๆ ดีจัง ><

    แต่ตอนแถมท้ายน่ารักมาก ทสึรุคุงนี่น่าแกล้งจริงๆ แหละค่ะ 55

    ReplyDelete
    Replies
    1. อุ้ยตายว้ายกรี๊ด จิบิซังคนนั้นใช่ไหมคะเนี่ยยยยยย
      ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว แต่ไม่เคยทักไปเลยค่ะ
      ไม่นึกว่าวันนี้จะแว่บมาอ่านของเราด้วย
      ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนนะคะ ^^

      ฟิคนี้แต่งมาเพราะติ่งทสึรุอิจิ แต่ช่วงข่าวน้องโมโนออกนี่ แฟนอาร์ท โมโนอิจิ ถล่มมากค่ะ เลยแอบไฝว้เฝวเลยทีเดียว XDDD
      แต่ยังไงก็รัก ทสึรุอิจิ มากกว่า เลยอยากให้ดราม่าอิจินี่นิดๆ แต่เลิฟๆ ทสึรุอิจิ มากๆ หน่อยค่ะ
      ดีใจที่ชอบนะคะ XDDDDD

      ส่วนทสึรุนี่ ถึงรักก็หมั่นไส้ค่ะ เพราะแกล้งชาวบ้านไปทั่ว ต้องให้โดนซะมั่ง ฮาาาา

      Delete