ฟิคเรื่องนี้เป็น AU หรือ เกงพาโร เรื่องเกิดในยุคปัจจุบัน
วิธีการพูดจาเรียกชื่อ มีการดัดแปลงบ้าง
ท่านผู้ใดไม่ชอบ กรุณาหลีกเลี่ยงค่า
...ได้ข่าวว่าเรื่องเก่าไม่เสร็จ เปิดเรื่องใหม่ทำไม ...
จริงๆ พล๊อตเรื่องนี้วางไว้นานแล้วค่ะ
แล้วจู่ๆ ไม่รู้เกิดบ้าพลังอะไร มาเขียนวูบเดียวได้หลายตอน
เลยเอามาทยอยลงละกัน หลังจากปล่อยบล๊อกว่างมานาน ฮาาาา
ขอบคุณท่านเพื่อนที่ proof reading ให้นะคะ
แบบว่าเป็นพวกนิสัยเสีย เขียนแล้วไม่อ่านทวน อิอิ
ชื่นชมชื่นชอบหรือหมั่นไส้ไม่ชอบประการใด คอมเมนท์ได้เลยค่า
ขอบคุณค่า
Touken Ranbu Fanfiction (AU) - Tsurumaru Kuninaga x Ichigo Hitofuri
From Past ... Til Forever ep. 1
แสงแดดอ่อนที่ส่องลอดผ้าม่านจากต่างหน้าบานใหญ่ริมระเบียงพาดเป็นเส้นยาวเข้ามาภายในห้องนอนเพดานสูงสีอ่อน ความสว่างที่เกิดขึ้นทำให้ชายที่หลับอยู่บนเตียงค่อยเปิดเปลือกตาตนเองขึ้นมาช้าๆ เรือนผมสีฟ้าแกมเขียวดั่งน้ำทะเลไหวตามแรงขยับกายเพียงเล็กน้อย ลำคอเรียวส่งเสียงราวกับจะขัดขืนต่อความงัวเงียที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก่อนภาพเครื่องเรือนเรียบหรูของห้องนอนตนเองจะเข้ามาในสมอง ร่างบางที่ไร้อาภรณ์ปกปิดของเด็กหนุ่มขยับบิดอีกนิดจนเตียงที่นอนอยู่เกิดเสียงเบา สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ข้างเตียง เสียงนกด้านนอกห้องก็ร้องดังขึ้นพอดี
พร้อมกับเสียงร้องของเขาเอง
"หวา!"
เมื่อความอบอุ่นของกายมนุษย์จางลงไป ชายอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพเดียวกันจึงดึงเด็กหนุ่มที่เบิกดวงตาสีเหลืองเข้มด้วยความตกใจเล็กน้อยเข้าสู่อ้อมแขน พอไออุ่นที่หายไปกลับเต็มตื้นขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าของวงแขนก็กอดร่างบางนั้นไว้แน่น แถมยังขยับตัวมาจูบซอกคอเนียนของชายผมฟ้าอีกต่างหาก
"จะไปไหน ... อิจิ"
ชายที่เป็นฝ่ายกอดกระซิบเรียกชื่อของชายอีกคน ก่อนจะหยอกเบาๆ ด้วยการขบใบหูที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
"ทสึ ทสึรุซัง ..."
เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่าอิจิยิ้มน้อยๆ ด้วยใบหน้าสีเลือดฝาดอ่อน
"ก็แค่จะหยิบหนังสือที่เมื่อคืนอ่านค้างเท่านั้นล่ะครับ"
เด็กหนุ่มอีกคนที่ชื่อทสึรุเหลือบตามองไปที่โต๊ะหัวเตียง จึงเห็นหนังสือหนาเล่มหนึ่ง เขาจำมันได้ว่าเป็นเล่มเดียวกับที่อิจินั่งอ่านอยู่เมื่อคืนโดยไม่สนใจเขา ทั้งที่วันนี้ตัวเขาอุตสาห์มาค้างที่บ้านของตระกูลอาวาตะกุจิ เพียงเพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับลูกชายคนโตของบ้านนี้ ลูกชายของตระกูลโกะโจที่มีชื่อของนกกระเรียนอย่างทสึรุมารุจึงได้เลือกวิธีการที่จะ ...
จูบเจ้าหนอนหนังสือเสียจนหมดเรี่ยวแรงแม้แต่จะจับหนังสือเอาไว้ในมือ แล้วจึงอุ้มร่างบางที่หายใจหอบไปยังเตียงนอน
ในระหว่างที่ทสึรุมารุนึกชมตัวเองที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยม คนที่ตกเป็นเหยื่อในความคิดก็เอื้อมมือไปจนถึงหนังสือจนได้
นกตัวน้อยด้านนอกยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
"นั่นเสียงนกไนติงเกล หาใช่เสียงนกลาร์คไม่"
เสียงใสของอิจิโกะพูดตามบทประพันธ์คลอไปกับเสียงนกขับขานด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะไม่แพ้เจ้าหมู่วิหค
ชายที่กอดเขาไว้พยายามจับไปที่หนังสือในมือขาวนวลนั่น เพื่อหวังจะนำมันออกไปจากความสนใจอีกครั้ง พลางพูดแกมเย้าหยอก
"นายจะสนใจเสียงนกอะไรทำไม ในเมื่อตรงนี้มีกระเรียนขาวของนายอยู่แล้ว"
เจ้าของหนังสือเหมือนรู้ทัน ขยับมือหนี ก่อนจะหันไปหาคนพูดพร้อมรอยย่นบางระหว่างคิ้ว
"ทสึรุซังนี่ล่ะก็"
เจ้าของเรือนผมงามสีเพทายคงลืมตัว หรือไม่ก็ผ่อนคลายเกินไปเวลาอยู่กับเขาผู้นี้ จึงได้ลืมความพ่ายแพ้เมื่อคืนของตนเอง
เมื่ออิจิโกะหันมาหาเขา ทสึรุมารุก็พร้อมที่จะกดริมฝีปากของตนเข้าประกบแน่นกับชายอีกคน ฝ่ายที่รับจูบตกใจจนหนังสือในมือแทบหลุด ส่วนฝ่ายที่มอบจูบอันแสนหวานให้ก็ฉวยโอกาสนี้พลิกร่างของอิจิโกะให้นอนหงายขึ้น แล้วย้ายร่างตนเองขึ้นเหนือร่างนั้น
สายตาทั้งสองสบกัน ทำให้ร่างที่นอนอยู่ข้างใต้เกิดสติขึ้นมา ขมวดคิ้วขู่ ทำตัวเกร็ง เม้มปากแน่น
พอรู้ว่าคราวนี้อาจไม่ง่ายอย่างเดิม ทสึรุมารุจึงขยับริมฝีปากออก แต่ยังก้มหน้าส่งสายตาให้กับอิจิโกะ
"นี่ อิจิ นายรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงนิยมใช้นกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ตามงานแต่งงาน"
"เอ๋?"
จู่ๆ เด็กหนุ่มที่รุกไล่ตัวเองก็เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ทำให้แม้แต่เด็กเรียนดีประจำชั้นปีอย่างอิจิโกะถึงกับตามไม่ทัน
ชายที่มีชื่อของนกกระเรียนก้มลงจูบแผ่วเบาที่หน้าผากของอิจิโกะ แล้วตอบคำถามที่ตัวเองเป็นคนถาม
"ก็เพราะนกกระเรียนเป็นสัตว์ที่มีคู่เดียวน่ะสิ หากคู่ของมันตายไป อีกตัวซึ่งมั่นคงในรักจะไม่มีวันมีรักใหม่ แต่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนกระทั่งวันตาย มันจึงเป็นสัตว์มงคลในงานแต่งงาน"
"เรื่องนั้นผมก็ทราบครับ ... ทำไม...?"
ทสึรุมารุส่งยิ้มให้จนตาทั้งสองแทบปิด
"ชื่อของฉันก็มีคำว่ากระเรียนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันเองก็จะเป็นแบบนั้นด้วย"
ใบหน้านั้นขยับเข้าใกล้อีกครั้ง อิจิโกะไม่สามารถละสายตาไปจากชายข้างหน้าได้
"อิจิ ... ฉันรักนาย"
คำบอกรักถูกส่งผ่านมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพร้อมรอยยิ้มบางและดวงตาแน่วแน่ ทำให้อิจิโกะรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ใบหน้า และหัวใจก็เริ่มส่งเสียงดัง
เมื่อกระเรียนหนุ่มสัมผัสริมฝีปากลงไปในครั้งนี้ ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายกลับยอมเปิดรับแต่โดยดี ดวงตาทั้งสองของอิจิโกะค่อยปิดลงในเวลาเดียวกับที่ปลายลิ้นของทสึรุมารุแทรกผ่านเข้ามาโลมไล้ภายใน เปลี่ยนจากจูบเพียงแผ่วเบาให้กลายเป็นจูบอันแสนดูดดื่ม
และเมื่อมือของทสึรุมารุเลื่อนลงไปทักทายกับส่วนล่างที่เปลือยเปล่าของอิจิโกะ
เสียงร้องเบาๆ ก็ดังขึ้นจากลำคอเนียนของเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงหนังสือเล่มหนาร่วงหลุดจากมือหล่นลงกระทบพื้น ...
พร้อมกับเสียงร้องของเขาเอง
"หวา!"
เมื่อความอบอุ่นของกายมนุษย์จางลงไป ชายอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพเดียวกันจึงดึงเด็กหนุ่มที่เบิกดวงตาสีเหลืองเข้มด้วยความตกใจเล็กน้อยเข้าสู่อ้อมแขน พอไออุ่นที่หายไปกลับเต็มตื้นขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าของวงแขนก็กอดร่างบางนั้นไว้แน่น แถมยังขยับตัวมาจูบซอกคอเนียนของชายผมฟ้าอีกต่างหาก
"จะไปไหน ... อิจิ"
ชายที่เป็นฝ่ายกอดกระซิบเรียกชื่อของชายอีกคน ก่อนจะหยอกเบาๆ ด้วยการขบใบหูที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
"ทสึ ทสึรุซัง ..."
เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่าอิจิยิ้มน้อยๆ ด้วยใบหน้าสีเลือดฝาดอ่อน
"ก็แค่จะหยิบหนังสือที่เมื่อคืนอ่านค้างเท่านั้นล่ะครับ"
เด็กหนุ่มอีกคนที่ชื่อทสึรุเหลือบตามองไปที่โต๊ะหัวเตียง จึงเห็นหนังสือหนาเล่มหนึ่ง เขาจำมันได้ว่าเป็นเล่มเดียวกับที่อิจินั่งอ่านอยู่เมื่อคืนโดยไม่สนใจเขา ทั้งที่วันนี้ตัวเขาอุตสาห์มาค้างที่บ้านของตระกูลอาวาตะกุจิ เพียงเพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับลูกชายคนโตของบ้านนี้ ลูกชายของตระกูลโกะโจที่มีชื่อของนกกระเรียนอย่างทสึรุมารุจึงได้เลือกวิธีการที่จะ ...
จูบเจ้าหนอนหนังสือเสียจนหมดเรี่ยวแรงแม้แต่จะจับหนังสือเอาไว้ในมือ แล้วจึงอุ้มร่างบางที่หายใจหอบไปยังเตียงนอน
ในระหว่างที่ทสึรุมารุนึกชมตัวเองที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยม คนที่ตกเป็นเหยื่อในความคิดก็เอื้อมมือไปจนถึงหนังสือจนได้
นกตัวน้อยด้านนอกยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
"นั่นเสียงนกไนติงเกล หาใช่เสียงนกลาร์คไม่"
เสียงใสของอิจิโกะพูดตามบทประพันธ์คลอไปกับเสียงนกขับขานด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะไม่แพ้เจ้าหมู่วิหค
ชายที่กอดเขาไว้พยายามจับไปที่หนังสือในมือขาวนวลนั่น เพื่อหวังจะนำมันออกไปจากความสนใจอีกครั้ง พลางพูดแกมเย้าหยอก
"นายจะสนใจเสียงนกอะไรทำไม ในเมื่อตรงนี้มีกระเรียนขาวของนายอยู่แล้ว"
เจ้าของหนังสือเหมือนรู้ทัน ขยับมือหนี ก่อนจะหันไปหาคนพูดพร้อมรอยย่นบางระหว่างคิ้ว
"ทสึรุซังนี่ล่ะก็"
เจ้าของเรือนผมงามสีเพทายคงลืมตัว หรือไม่ก็ผ่อนคลายเกินไปเวลาอยู่กับเขาผู้นี้ จึงได้ลืมความพ่ายแพ้เมื่อคืนของตนเอง
เมื่ออิจิโกะหันมาหาเขา ทสึรุมารุก็พร้อมที่จะกดริมฝีปากของตนเข้าประกบแน่นกับชายอีกคน ฝ่ายที่รับจูบตกใจจนหนังสือในมือแทบหลุด ส่วนฝ่ายที่มอบจูบอันแสนหวานให้ก็ฉวยโอกาสนี้พลิกร่างของอิจิโกะให้นอนหงายขึ้น แล้วย้ายร่างตนเองขึ้นเหนือร่างนั้น
สายตาทั้งสองสบกัน ทำให้ร่างที่นอนอยู่ข้างใต้เกิดสติขึ้นมา ขมวดคิ้วขู่ ทำตัวเกร็ง เม้มปากแน่น
พอรู้ว่าคราวนี้อาจไม่ง่ายอย่างเดิม ทสึรุมารุจึงขยับริมฝีปากออก แต่ยังก้มหน้าส่งสายตาให้กับอิจิโกะ
"นี่ อิจิ นายรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงนิยมใช้นกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ตามงานแต่งงาน"
"เอ๋?"
จู่ๆ เด็กหนุ่มที่รุกไล่ตัวเองก็เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ทำให้แม้แต่เด็กเรียนดีประจำชั้นปีอย่างอิจิโกะถึงกับตามไม่ทัน
ชายที่มีชื่อของนกกระเรียนก้มลงจูบแผ่วเบาที่หน้าผากของอิจิโกะ แล้วตอบคำถามที่ตัวเองเป็นคนถาม
"ก็เพราะนกกระเรียนเป็นสัตว์ที่มีคู่เดียวน่ะสิ หากคู่ของมันตายไป อีกตัวซึ่งมั่นคงในรักจะไม่มีวันมีรักใหม่ แต่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนกระทั่งวันตาย มันจึงเป็นสัตว์มงคลในงานแต่งงาน"
"เรื่องนั้นผมก็ทราบครับ ... ทำไม...?"
ทสึรุมารุส่งยิ้มให้จนตาทั้งสองแทบปิด
"ชื่อของฉันก็มีคำว่ากระเรียนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันเองก็จะเป็นแบบนั้นด้วย"
ใบหน้านั้นขยับเข้าใกล้อีกครั้ง อิจิโกะไม่สามารถละสายตาไปจากชายข้างหน้าได้
"อิจิ ... ฉันรักนาย"
คำบอกรักถูกส่งผ่านมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพร้อมรอยยิ้มบางและดวงตาแน่วแน่ ทำให้อิจิโกะรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ใบหน้า และหัวใจก็เริ่มส่งเสียงดัง
เมื่อกระเรียนหนุ่มสัมผัสริมฝีปากลงไปในครั้งนี้ ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายกลับยอมเปิดรับแต่โดยดี ดวงตาทั้งสองของอิจิโกะค่อยปิดลงในเวลาเดียวกับที่ปลายลิ้นของทสึรุมารุแทรกผ่านเข้ามาโลมไล้ภายใน เปลี่ยนจากจูบเพียงแผ่วเบาให้กลายเป็นจูบอันแสนดูดดื่ม
และเมื่อมือของทสึรุมารุเลื่อนลงไปทักทายกับส่วนล่างที่เปลือยเปล่าของอิจิโกะ
เสียงร้องเบาๆ ก็ดังขึ้นจากลำคอเนียนของเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงหนังสือเล่มหนาร่วงหลุดจากมือหล่นลงกระทบพื้น ...
No comments:
Post a Comment