Thursday, June 2, 2016

Touken Ranbu Fanfiction -Tsuruichi - "วันทรยศ" (2 June)

แว่บมาแต่งฟิคค่า
ในทวิตมีคนปุ่นทวิตมาว่า วันที่ 2 เป็นวันทรยศ
เลยให้แต่งเรื่องทรยศๆ มา
แล้วเดี๋ยววันอาทิตย์ที่ 5 จะเป็นอีกวัน ให้เขียนเรื่องต่อกัน
ช่วงนี้ไม่ได้เขียนฟิคเลย ก็เลยขอปั่นแบบสั่นๆ มาก่อนเรื่องนึงน้อออออ
หวังว่ามันที่ 5 จะได้มาแต่งต่อน้าาาาาา XDDD
Tsuruichi "วันทรยศ" (2 June)
... อิจิโกะฮิโตฟุริ ... หลังจากคบหากับทสึรุมารุคุนินางะได้หกเดือน ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นดาบทีไม่เอาไหนเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพบว่าขณะที่มองชายคนรักกำลังเล่นสนุก หยอกล้อกับคนไปทั่วจนใบหน้าเต็มด้วยรอยยิ้ม ในใจของตนเองกลับช่างขุ่นมัวไปหมด
เป็นเวลาที่เขารู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควรแม้แต่จะถูกเรียกว่าเป็น "เทพ" แห่งศาสตราเอาเสียเลย
เจ้าตัวเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหลายเอาไว้ภายใน
ทำเพียงโบกมือให้กับเจ้ากระเรียนขาวที่วิ่งผ่านหน้าไปพร้อมกับอุ้มกล่องอะไรบางอย่างทำจากไม้ขัดอย่างดีแนบกับตัวราวกับของเล่นชิ้นใหม่
ทสึรุมารุเพียงหันมาหัวเราะแหะๆ และโบกมือตอบกลับ
ก่อนที่ร่างนั้นจะหายลับไปตามหลังของชายอีกคนที่หันมาเพียงยิ้มมุมปากให้
...
แน่นอนสิ
จิตใจของข้าช่างเต็มไปด้วยความหึงหวงริษยา
และความปรารถนาที่จะครอบครองรอยยิ้มนั้นแต่เพียงผู้เดียว
คงเพราะเช่นนี้ล่ะกระมัง
ถึงทำให้จิตใจของท่านทสึรุมารุค่อยๆ ห่างจากข้าออกไปทุกที
...

คืนนั้น อิจิโกะตัดสินใจรวบรวมความกล้าออกไปหาทสึรุมารุถึงห้องนอน หลังจากที่ไม่ได้เรียกร้องความสัมพันธ์ในยามค่ำคืนจากตัวเขาบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ชายหนุ่มหยิบจอกสุรากับขวดเหล้าไปด้วย หวังจะใช้เป็นข้ออ้างในการมาเยือนยามวิกาล
แม้จะทำใจแล้วว่าอาจจะถูกไล่กลับ แต่เขาเองไม่ได้เตรียมใจไว้เลยว่า
เมื่อเดินใกล้ห้องของอีกฝ่าย จะเห็นภาพของทสึรุมารุนั่งจิบเหล้าชมจันทร์อยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง
มันคงเป็นเหล้าชมจันทร์ที่แสนอร่อย และเป็นจันทราที่งดงาม
โดยเฉพาะเมื่อกระเรียนหนุ่มได้ชมจันทร์เสี้ยวแสนงามที่นั่งอยู่ตรงหน้าของตัวเขาเอง
อิจิโกะลังเลใจว่าจะแสดงตัวออกไปหรือไม่
แต่เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนในหน้าของชายคนรัก
เขาก็ก้าวเท้าถอยหลังกลับห้องของตนเองในทันที
เพราะรอยยิ้มนั้น ไม่เหมือนรอยยิ้มที่ทสึรุยิ้มเวลาได้หยอกล้อน้องของเขาให้หัวเราะ
หรือเวลาที่เขาแกล้งโอคุริคาระให้หัวปั่น
ไม่ใช่ทั้งเวลาที่มิตสึทาดะทำของอร่อยให้ทาน
หรือเวลาที่โดนงานจนฮาเซเบอารมณ์เสีย
อิจิโกะจำรอยยิ้มนั้นได้ดี
เพราะมันคือรอยยิ้มของทสึรุมารุคุนินางะตอนที่เขาตอบรับรัก
ทสึรุมารุยิ้มเช่นนั้น และบอกกับเขาว่า
"อิจิโกะ ชั้นจะรักนายตลอดไป"
คำๆ นึงผุดขึ้นมาในความคิดของอิจิโกะฮิโตฟุริ
แต่เขาเก็บซ่อนมันลึกเข้าไปใต้หน้ากากของเทพแห่งดาบที่สง่างามและพี่ชายที่แสนดี
แม้ว่านับจากคืนนั้นมา เขาจะไม่สามารถลืมภาพของกระเรียนเคียงคู่จันทราอันราวกับภาพวาดได้อีกเลย
วันที่ 2 เดือนมิถุนายน ตามปฏิทินในสมัยของนายหญิงแห่งฮงมารุ
ทัพใหญ่ถูกเกณฑ์กันลงไปสำรวจชั้นใต้ดินของปราสาทโอซาก้า
ยิ่งลึกลงไป ศัตรูยิ่งแข็งแกร่งเสียจนแม้แต่ดาบอันเก่งกล้าอย่างมิคาสึกิมุเนจิกะ หรือทสึรุมารุคุนินางะ ยังประมาทไม่ได้แม้แต่เสี้ยววินาที
หอกคมปลาบแทงแหวกอากาศเข้ามาอย่างรวดเร็ว หมายจะปลิดชีวิตของผู้ที่ขวางทาง
มิคาสึกิมุเนจิกะใช้ดาบของตนเองปัดหอกออก ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปประชิดทหารศัตรู
เมื่อชายหนุ่มผู้มีนามแห่งจันทราวาดดาบขึ้นสูง กลับมีหอกอีกเล่มพุ่งเข้ามาทางด้านหลัง
อิจิโกะฮิโตฟุริเหลือบไปเห็น จึงรีบหมุนตัวหมายจะเข้าไปช่วยเพื่อนร่วมรบ
แต่เงาสีขาวสว่างกับแทรกเข้ามาในฉับพลัน
ประกายดาบสะท้อนแสงวิบดูสว่างสดใสราวกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้าของดาบ
แต่ดวงตาทั้งสองนั้นไม่ได้มองมาที่เขา ...
ทสึรุมารุดีดตัววิ่งเข้าไปและใช้ดาบอันเป็นร่างจริงของเขาพิฆาตศัตรูที่กำลังจะทำร้ายมิคาสึกิมุเนจิกะ
ความขุ่นมัวมืดมิดในใจของอิจิโกะก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที
ก่อนที่เขาจะระลึกได้ว่าตัวเองอยู่กลางสนามรบ
เลือดสดๆ สีแดงฉานก็สาดกระเซ็นออกมาจากร่างกาย พร้อมกับที่ทสึรุมารุดึงดาบที่ปักเข้าไปยังร่างนักรบของอีกฝ่าย
...
จิตใจของข้าช่างเต็มไปด้วยความหึงหวงริษยา
และความปรารถนาที่จะครอบครองรอยยิ้มนั้นแต่เพียงผู้เดียว
ปรารถนาเพียงจะครอบครองความหมายของคำนั้นที่ท่านทสึรุมารุเป็นคนมอบให้กับข้ามา
ปรารถนาเสียจน
ต้องสูญสิ้นแม้แต่ตัวตนของข้าเอง
...
เจ้ากระเรียนขาวเปื้อนเลือดสีแดงฉานหันกลับมาพบกับร่างของชายคนรักตนเองที่อาบเลือดสีแดงฉานเช่นกัน
ใบหน้าสีขาวของเขากลายเป็นสีซีดเผือก
"อิจิโกะ!!!"
ทสึรุมารุวิ่งเข้ามารับร่างของอิจิโกะที่ทิ้งตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
"นายเป็นอะไรรึเปล่า!?!? ทำใจดีๆ ไว้นะ!?!?"
"... ท่านทสึรุมารุ ..."
แต่เสียงตอบเพียงเสียงเดียวที่กระเรียนขาวได้ยินกลับมา
เป็นเพียงเสียงสั่นเครือของอิจิโกะฮิโตฟุริ
"... คนทรยศ ..."

No comments:

Post a Comment