ก่อนอื่นต้องถามกันว่ารู้จัก GV รึเปล่า ฮาาาา
แต่ถ้าบอกว่า AV นี่คงรู้จักกันแน่เลย
แต่ถ้าบอกว่า AV นี่คงรู้จักกันแน่เลย
GV ก็คือเวอร์ชั่น gay ของ AV นั่นเองค่ะ ฮาาาา
เรื่องนี้มันก็อันเนื่องจากว่า จู่ๆ ในทวิตก็มีคนฮือฮากันว่ามี GV ทสึรุอิจิออกมา
ก็ไปลองดูแล้วก็เฉยๆ นอกจากฮา
แต่ดันมีเซอร์เคิลวาดโดออกมานี่สิ
หลังจากอ่านเสร็จแล้วเลยอยากเขียนออกมาบ้าง
ก็ไปลองดูแล้วก็เฉยๆ นอกจากฮา
แต่ดันมีเซอร์เคิลวาดโดออกมานี่สิ
หลังจากอ่านเสร็จแล้วเลยอยากเขียนออกมาบ้าง
เพราะเซอร์เขียนไม่ถูกใจสุด ฮาาาา
เลยออกมาเป็นฟิคนี้ล่ะค่ะ
อันนี้แค่ส่วนเนื้อเรื่อง ส่วนฉากขอเวลาไปเสริมพลังก่อน
//ฉากเป็นอะไรที่ใช้พลังงานเยอะในการเขียนจริงๆ ......
แถมเกิดอุบัติเหตุอะไรไม่รู้ท่อนตรงกลางหายไปอีก
ต้องเขียนใหม่เลย ...
หวังว่าจะเขียนต่อกันลื่นนะ ฮืออออ
เนื้อเรืองออกจะเลิฟๆ น้ำเน่าพอตัว พึงระวัง
อ่อ เป็นพาโรดี้ยุคปัจจะบันนะคะ
ท่านที่สนใจก็เชิญอ่านได้เลยจ้า
======================================
"ว่าไง พ่อหนุ่ม พอจะมีเวลาคุยกันสักนิดมั้ย"
ชายหนุ่มสูงขาวเข่าดี ผู้มีดวงตาเป็นประกายสีทองส่องสว่าง กับเรือนผมสีเงินอย่างน่าประหลาดเดินเข้ามาประชิดติดตัวแล้วส่งเสียงทักทาย
ฝ่ายคนที่ถูกทักเพียงเหลือบสายตาไปมองอย่างระแวดระวังกับชายที่เข้ามาใกล้
ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับเสื้อนอกสีขาวสะอาดคลุมทับเอาไว้ ตามด้วยกางเกงสีขาวเช่นเดียวกัน ที่คอมีสร้อยโซ่สีทองคล้องจนติดลำคอ ส่วนข้อมือมีนาฬิกาเรือนสีทองดูท่าทางราคาหูฉี่ประดับอยู่
คนถูกทักทายประเมินได้ว่าคนๆ นี้เป็นชายน่าสงสัยทันที และพยายามรีบจ้ำเพื่อจะหนีไปให้เร็วที่สุด
แต่ชายคนนั้นยังคงเดินดุ่มๆ ตามมาเหมือนไม่สนใจท่าทีของอีกฝ่าย
"อ๊ะ อย่าพึ่งหนีสิ ขอคุยด้วยนิดนึงเอง"
ชายชุดขาวเร่งฝีเท้าเดินมาดักด้านหน้า ทำให้ชายอีกคนหยุดชะงัก แล้วยืนมองด้วยความไม่ไว้วางใจถึงที่สุด
ชายในชุดสีขาวยกมือขึ้นกุมที่ริมฝีปากเหมือนคิดอะไรอยู่
สายตาที่มองชายอีกคนนั้นกวาดจากบนจรดล่างจนราวกับจะโลมเลีย
"รูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้เลยนี่นา ว่าไง? สนใจจะเล่นหนังมั้ย?"
ชายอีกคนดวงตาเบิกกว้างขึ้น แต่ยังมองอย่างระแวง
อีกฝ่ายไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นอาการนั้น จึงแยกยิ้มออกมาพร้อมกับยื่นนามบัตรส่งให้
นิ้วมือเรียวขาวรับกระดาษแข็งใบเล็กมาในมือ
"บริษัท... 801 วีดีโอ เจ้าของยอดขายอันดับหนึ่งในชาร์ท GV ตลอดห้าปี..."
คำศัพท์ที่ไม่คุ้นหู แต่ก็เคยได้ยินมาก่อนแล่นปรี๊ดเข้าสู่สมอง แล้วกระทุ้งคำศัพท์อีกคำให้พุ่งออกจากปาก
"หนังโป๊เกย์หรือครับ!! ไม่เด็ดขาดครับ!!"
นับจากวันนั้นได้ครึ่งปีที่นักศึกษามหาวิทยาลัยปีสอง อาวาตะกุจิ อิจิโกะ ถูกแมวมองชวนไปเข้าวงการ
เพียงแต่มันไม่ใช่วงการบันเทิงธรรมดา
กลับเป็นวงการบันเทิงเถิดเทิงใต้ร่มผ้า แถมยังเป็นเพศเดียวกันอีกต่างหาก
ชายหนุ่มปีนี้อายุก็ปาไป 24 แล้ว แต่ยังเรียนไม่จบ เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี ทำให้เขาต้องออกมาหางานทำ เก็บเงินเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเอง
ถึงอย่างนั้น หน้าตาของเขา ไปบอกใครว่าเป็นเด็กปีหนึ่งใหม่สดๆ ซิงๆ ใครๆ ก็ย่อมหลงเชื่อ
อิจิโกะปฎิเสธชายหนุ่มที่เข้ามาทักอย่างไร้เยื่อไย แถมยังรีบเดินหนี
แต่ผลสุดท้าย...
"ว่าไง? อิจิโกะคุง ไปเล่นหนังกันมั้ย?"
เจ้าชายหนุ่มคนที่ว่าตอนนี้ก็ยังนั่งยิ่มหวานอยู่ตรงหน้า พร้อมถือถ้วยกาแฟดำในมือ
"ไม่ครับ ทสึรุมารุซัง"
อิจิโกะยกถ้วยกาแฟดำของตัวเองขึ้นจิบเบาๆ แล้วตอบคำตอบเดิมๆ
"อย่าใจร้ายไปหน่อยเลยน่า ชั้นรับประกันว่านายจะต้องดังเปรี้ยงข้ามคืนตั้งแต่เปิดตัวแน่ๆ"
"ไม่ครับ!"
เสียงตอบของอีกฝ่ายดังหนักแน่นขึ่น แล้วเบี่ยงสายตาไปยังหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ
ชายที่ชื่อทสึรุมารุ คุนินางะเพียงหัวเราะขึ้นมาในลำคอราวกับสนุกอยู่
"ถ้านายดังเปรี้ยง นายจะไม่ลำบากเรื่องเงินอีกนานเลยน้า"
อิจิโกะเหลือบตาขึ้นจากหนังสือเรียนของตนเอง พร้อมกับเบ้ปาก
"ก็ไม่ลำบากขนาดต้องยอมให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักมาทำอะไรตัวเองหรอกนะครับ!"
เสียงหัวเราะของชายตรงหน้าดังขึ้น
"งั้นถ้าเป็นคนรู้จักจะยอมสินะ?"
ก่อนที่นิ้วผอมเพรียวสีซีดจะขยับไปไล้หลังมือของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนหนังสือ
"... อย่างเช่นชั้นเป็นไง?"
ถ้วยกาแฟในมือของอิจิโกะแทบหล่น เขารีบดึงมือข้างที่ถูกลวนลามเข้าหาตัว ใบหน้ากลับมีสีเลือดฝาดอ่อนๆ
"มะ ... ไม่ครับ!!"
ท่าทางของเขายิ่งเรียกเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูให้กับทสึรุมารุ
"ถะ ถ้าคุณจะช่วย อย่างแรกเลยก็อย่ามาเรียกมาร้านกาแฟบ่อยๆ สิครับ! มันสิ้นเปลืองนะครับ!"
"ชั้นก็เลี้ยงนายแล้วไง บอกแล้วว่านายไม่ต้องออกก็ได้ นายก็ชอบรีบไปจ่ายเงินเอง"
อิจิโกะวางถ้วยกาแฟ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
"ไม่ได้หรอกครับ จะรับเลี้ยงจากคุณตลอดได้ยังไง"
ทสึรุมารุยกมือสองข้างขึ้นเท้าโต๊ะ ยกใบหน้าขึ้นไปวางยิ้มแย้มบนนั้นโดยไม่ตอบอะไร
แล้วอิจิโกะก็กลับก้มหน้าลงอ่านหนังสืออีกครั้ง
"คุณทสึรุมารุครับ... ช่วยดูตรงนี้หน่อยสิครับ"
อิจิโกะหมุนหนังสือตรงหน้าหันไปทางอึกฝ่าย แล้วใช้นิ้วชี้ไปตรงกลางเล่ม
"อ๋อ อืมๆ คืออย่างนี้นะ อิจิโกะ..."
แมวมองหนังโป๊กวาดสายตาไปตามตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่เรียงกันเป็นพรืด ก่อนจะอธิบายความหมายของมันโดยไม่ติดขัด นักศึกษาหนุ่มรีบจดโน้ตมือเป็นระวิงจนแทบตามไม่ทัน
"ก็ประมาณนี้แหละ ... แต่ถ้าจะให้ชั้นดูร่างกายขาวๆ เนียนๆ ของนายเมื่อไหร่ ก็บอกได้เสมอนะ~"
พอปากกาของอิจิโกะหยุด เขาก็รีบตอบกลับ
"ไม่ครับ ... คุณทสึรุมารุก็ออกจะฉลาดนะครับ แล้วทำไมมาทำงานแบบนี้?"
เจ้าตัวแค่ยักไหล่
"อืม... งานอดิเรกมั้ง?"
อิจิโกะขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจอะไรกับคำพูดของชายที่ทำตัวทะเล้นเป็นปกติ
บทสนทนาของทั้งสองคนเป็นแบบนี้มาตลอดครึ่งปี
ทสึรุมารุ คุนินางะไม่รู้ติดใจอะไรในตัวหนุ่มน้อยอาวาตะกุจิ อิจิโกะนักหนา ถึงได้ตามตื้อให้มาเล่นหนังค่ายตัวเองไม่หยุด
และด้วยวิธีการพูดยียวนเป็นกันเอง ทำให้อิจิโกะเผลอต่อมุก ตบมุกครั้งแล้วครั้งเล่า จนกลายเป็นว่าทั้งสองคนไปนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ทสึรุมารุเป็นคนออกเงินซื้อกาแฟให้ พออิจิโกะเปิดหนังสือเรียน ทสึรุมารุก็ดันสอนได้เป็นฉากๆ อีกต่างหาก
พอรู้สึกตัวอีกที การมาพบกันหน้าร้านกาแฟแถวมหาวิทยาลัยของอิจิโกะแทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันของทั้งคู่ไปเสียแล้ว
ถ้าหากว่าทสึรุมารุไม่พูดเรื่องธุรกิจทุกครั้ง อิจิโกะก็คงลืมไปแล้วเหมือนกันว่าชายตรงหน้าคือคนที่มาตามตื้อให้เขาไปเล่นหนังเกย์
โทรศัพท์มือถือของอิจิโกะสั่นขึ้นมาพร้อมกับแสงที่หน้าจอ
ชายหนุ่มผมสีเงินเหลือบตาไปมองเห็นบนนั้นปรากฎชื่อ "ยะเก็น" ซึ่งเป็นชื่อที่เขาได้ยินมาหลายครั้งแล้วว่าคือน้องชายที่พึ่งพาได้
"อ๊ะ ขอโทษนะครับ"
เจ้าของโทรศัพท์เพียงหยิบมือถือขึ้นแล้วรับสายโดยหันออกไปจากโต๊ะ โดยที่ไม่ได้ลุกออกไปจากโต๊ะนั้น
ทสึรุมารุมองคนตรงหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
แต่แล้วสีหน้าของอิจิโกะกลับซีดลง พร้อมกับเสียงที่กลายเป็นน้ำเสียงแห่งความตื่นตระหนกตกใจ
"ว่าไงนะ!? ยะเก็น!? ... เข้าใจแล้ว ... พี่จะพยายามทำอะไรดู ... แล้วจะรีบติดต่อกลับไปนะ"
ชายหนุ่มวางสายโทรศัพท์ด้วยมือสั่นเทาแล้วหันมาหน้าซีดเผือก
"คุณทสึรุมารุครับ ... ผมขอตัวก่อนนะครับ"
แต่พออิจิโกะจะลุกขึ้นยืน ชายอีกคนกลับรีบคว้าข้อมือของเขาเอาไว้
"อิจิโกะ! มีอะไร? เป็นอะไรรึเปล่า?"
อิจิโกะกลับส่ายหน้าไปมาโดยไม่พูดอะไร ทั้งที่สีหน้าแทบจะไร้สีเลือด
"บอกมาเถอะ อิจิโกะ เผื่อชั้นจะช่วยได้"
ริมฝีปากบางนั้นเปิดขึ้นมาช้าๆ เสียงอันแผ่วเบาก็เล็ดรอดออกมา
"... น้องเข้าโรงพยาบาลครับ ... ต้องผ่าตัดด่วน"
ร่างของหนุ่มน้อยคนขยันทรุดลงกับเก้าอี้
"โกะโคไตไม่ค่อยแข็งแรงตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว อาการคงทรุดลง ..."
มือของเขากำเข้าหากันแน่นจนแขนสั่นไปหมด
มือที่จับอยู่ที่ข้อมือของชายหนุ่มเลื่อนไปยังฝ่ามือที่นิ้วงองุ้มกดเกร็งแน่นเข้าหาฝ่ามือ
ทสึรุมารุออกแรงกำมือของอิจิโกะแน่นๆ ครั้งหนึ่ง
"ใจเย็นๆ นะ อิจิโกะ"
จากนั้นจึงค่อยๆ สอดนิ้วไประหว่างนิ้วมือของอีกฝ่าย จับคลายให้นิ้วผ่อนแรงกำลดลง
นิ้วมือของอิจิโกะคลายออก ทิ้งรอยเล็บจิกสีแดงไว้ที่ฝ่ามือ ทสึรุมารุประสานนิ้วเข้าจับมือของอิจิโกะอย่างแนบแน่น
"... คุณทสึรุมารุ ..."
ดวงตาสีทองที่มองเข้ามายังดวงตาสีเดียวกันมีน้ำตาคลออยู่ภายใน
"... ชั้นจะช่วยนายเอง ..."
สี่ชั่วโมงถัดมา สมาชิกพี่น้องอาวาตะกุจิทุกคนต่างได้อยู่พร้อมหน้ากันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเกียวโต
พี่ชายคนโตยืนทำใจแข็งปลอบน้องๆ หลายคนที่นั่งสีหน้าไม่ดีอยู่ใกล้กับห้องผ่าตัด
พอมาอยู่ต่อหน้าน้องๆ อิจิโกะก็เลือกที่จะเก็บซ่อนความอ่อนไหวทั้งหมดเอาไว้ คอยยิ้มให้กำลังใจพร้อมทั้งลูบหัวน้องชายแต่ละคน
เวลาแต่ละนาทีผ่านไปอย่างแสนเชื่องช้าจนเด็กๆ บางคนหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนจากความตึงเครียด
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าใดที่ท้ายที่สุดแล้วประตูห้องผ่าตัดจะเปิดออก
พี่น้องทุกคนวิ่งกรูกันเข้าไปหาคณะแพทย์และพยาบาลที่เดินออกมาจากห้องนั้น
และรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาแทนคำตอบได้ดี
น้องๆ โผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ ส่วนตัวอิจิโกะเองได้แต่แอบปาดน้ำตาอยู่เงียบๆ
น้องๆ แต่ละคนพากันชักชวนไปแอบดูห้องพักของน้องคนสุดท้องที่เจ็บออดๆ แอดๆ
พี่ชายคนโตส่งยิ้มให้ พร้อมกับบอกว่าเดี๋ยวจะตามไป
พอน้องๆ เดินไปจนลับสายตา สีหน้าของอิจิโกะก็เปลี่ยนไปในทันที
เขาหยิบกระเป๋าเงินมามองเงินสดภายในนั้นที่ยังไงก็ไม่มีทางเพียงพอสำหรับค่ารักษาน้องในครั้งนี้
ในขณะที่คิดว่าแม้จะต้องคุกเข่าขอร้อง ก็ต้องทำให้โรงพยาบาลช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายให้ได้
และตนเองก็คงต้องหยุดเรียนเพื่อกลับมาทำงานหาเงินอีก
แต่เมื่ออิจิโกะเดินเลี้ยวหัวมุมออกมา
ชายหนุ่มที่เป็นคนพาเขาเดินทางมาถึงยังบ้านเกิดตัวเองกลับยืนอยู่ตรงจุดชำระเงิน
ก่อนจะหันมาส่งยิ้มยียวนให้ตามปกติ และโบกโชว์บัตรสีดำหรูหราในมือ
"คุณทสึรุมารุ!!"
ทสึรุมารุยักไหล่เหมือนเวลาจะกวนอิจิโกะตามปกติ
"เรียบร้อยแล้ว มื้อนี้แพงกว่ากาแฟอยู่เหมือนกันนะ"
แววตาสีทองของชายหนุ่มรื้นด้วยน้ำตาขึ้นมาโดยที่เขาไม่สามารถหาคำพูดอะไรออกมาจากปากได้เลย
อิจิโกะตัดสินใจค้างอยู่ที่เกียวโตสามวัน ก่อนที่ยะเก็นจะออกปากไล่ให้กลับไปเรียนหนังสือ
ส่วนนายทุนของงานนี้ก็ได้รับคำเชิญให้ไปค้างที่บ้านด้วย โดยที่บอกเพียงแค่ว่าเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกันของพี่ชายบ้านอาวาตะกุจิ
แน่นอนว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาลและอาชีพของทสึรุมารุเลย
เมื่อถึงคืนสุดท้าย อิจิโกะก็ทำอาหารมื้อเย็นชุดใหญ่ เด็กๆ ทานข้าวเสร็จก็ถูกพี่ชายไล่ไปอาบน้ำนอน
ส่วนตัวพี่ชายเองยังยืนเก็บกวาด ล้างจานชามอยู่ในครัว
"เด็กๆ บ้านนายนี่น่ารักเนอะ ชั้นพอเข้าใจล่ะว่าทำไมนายถึงรักน้องๆ ขนาดนี้"
"ครับ ทุกคนเป็นน้องๆ ที่ผมภูมิใจ"
พี่ชายตอบชายอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องครัวด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
รอยยิ้มหวานนั้นเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของทสึรุมารุให้ผุดขึ้นมาด้วย
อิจิโกะเก็บจานใบสุดท้ายที่ล้างเสร็จวางบนที่วางจาน แล้วเช็ดไม้เช็ดมือ เดินมาหยุดตรงหน้าของทสึรุมารุ ก่อนจะก้มหัวลงต่ำเสียจนอีกฝ่ายมองไม่เห็นใบหน้า
"คุณทสึรุมารุครับ ต้องขอบคุณคุณจริงๆ นะครับ ทั้งเรื่องที่มาด้วยถึงที่นี่ แถมยังเรื่องค่ารักษาอีกด้วย"
ชายหนุ่มรับฟังก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงระรื่น พร้อมกับยกมือขึ้นจะแตะไหล่ของอีกคน
"ไม่เป็นไรหรอกน่า..."
แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับพูดต่อด้วยเสียงสั่น
"... ถะ... ถ้าไม่มี ... คุณทสึรุมารุล่ะก็ ... "
ไหล่สองข้างของเขาก็สั่นเทิ้มไปด้วย
ทสึรุมารุหยุดมือของตนเองก่อนจะได้สัมผัสกับร่างกายของชายตรงหน้า
แล้วเปลี่ยนไปดึงตัวที่สั่นไหวอย่างอ่อนแอเข้าแนบกับอกตัวเอง
"ไม่เป็นไร อิจิโกะ"
ร่างในวงแขนนั้นห่อตัวเข้าจนราวกับตัวเล็กลง ทั้งที่ทั้งสองคนรูปร่างพอๆ กันแท้ๆ
เสียงที่คล้ายเสียงสะอื้นดังขึ้นมาเพียงแผ่วเบา
ทสึรุมารุเพียงแค่ลูบหลังอีกฝ่ายด้วยความหวังว่าจะทำให้เขาอุ่นใจขึ้นมาได้
"ไม่เป็นไรแล้วนะ ..."
อิจิโกะค่อยเงยหน้าขึ้นมามองชายตรงหน้า
ดวงตาสีทองเปื้อนด้วยหยาดน้ำตาดูหม่นหมอง
"ขอบคุณมากนะครับ คุณทสึรุมารุ ... ผมไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนคุณยังไงดีเลย ..."
เจ้าตัวหลับตาลงราวกับไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย
"นอกจาก ... ให้ผมถ่ายหนังของคุณนะครับ ..."
อิจิโกะยังไม่ลืมตาขึ้น แต่กลับก้มหน้าลง
ส่วนทสึรุมารุพอได้ยินเช่นนั้นก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมา แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเปิดเผยอารมณ์บนใบหน้าให้เห็น เขาจึงได้แต่กอดแล้วลูบหลังอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ แทน
"นี่ ... อิจิโกะ"
พอวงแขนยิ่งกระชับขึ้น อิจิโกะก็ซบใบหน้าลงกับแผ่นอกของชายอีกคน
"ชั้นตามตื้อให้นายมาถ่ายหนังด้วยกันก็จริง ... แต่ชั้นไม่คิดจะเอาเปรียบนายแบบนี้ซะหน่อยนะ"
ทสึรุมารุถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง ทั้งห้องครัวตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่ชายผมสีเงินจะพูดต่อ
"ที่ชั้นช่วยนาย ก็เพราะชั้นชอบที่นายเป็นแบบนี้ ... ชั้นน่ะนะ เสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก แล้วก็เป็นลูกคนเดียวด้วย พอพ่อแม่เสีย ก็ถูกญาติโยนไปโยนมา ต้องไปอยู่กับคนโน้นที คนนี้ที บางทีก็มีคนมาแย่งตัวเพราะคิดว่าชั้นมีสมบัติของพ่อแม่เหลืออยู่"
อิจิโกะค่อยเงยหน้าขึ้นสบตากับทสึรุมารุด้วยความประหลาดใจที่เจ้าตัวยอมเล่าเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ออกมา
"ชั้นเลยโตมาคนเดียวแบบเหงาๆ มาตลอด ... พอเห็นนายทำตาเป็นประกายทุกครั้งที่เล่าเรื่องน้องๆ ... สำหรับชั้นมันเป็นความรู้สึกที่เข้าใจไม่ได้ แต่มันก็ดูมีเสน่ห์มากเลย ชั้นถึงอยากช่วยนายด้วยความตั้งใจของชั้นเอง"
แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มบางออกมา ก้มลงจูบหน้าผากของอีกฝ่ายด้วยสัมผัสเพียงเบาๆ
"เพราะฉะนั้น นายไม่ต้องคิดมากนะ อิจิโกะ"
ริมฝีปากที่อบอุ่น เมื่อได้สัมผัสกับผิวกายแม้เพียงแผ่ว กลับทำให้หัวใจของอิจิโกะเต้นระรัว
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่คุยกันอยู่
"ไม่ได้หรอกครับ"
พี่ชายคนโตแห่งบ้านอาวาตะกุจิคัดค้านขึ้น
"ครั้งนี้มันไม่เหมือนกาแฟนะครับ ค่าผ่าตัดมันแพงมากเลย ... จะให้รับไว้ฟรีๆ ไม่ได้หรอกครับ ..."
เจ้าตัวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองดวงตาสีเดียวกันของทสึรุมารุทั้งที่ตัวเองยังหวั่นกลัวจนตัวสั่น
"... ให้ผมทำเถอะนะครับ ..."
ระหว่างทางกลับโตเกียว ทั้งสองคนแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย
เวลาในรถไฟเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่มันกลับช่างแสนยาวนานทั้งสำหรับคนที่ตัดสินใจอะไรบางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง และคนที่ต้องพบกับความสับสนในใจตัวเองว่าทั้งที่ตัวเองเป็นคนชวนเขามาตลอด แต่มาตอนนี้กลับไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร
เมื่อรถไฟเคลื่อนเข้าใกล้ถึงตัวเมือง ต่างฝ่ายต่างรู้สึกว่าต้องพูดอะไรบางอย่าง
และต่างหันหน้าเข้าหากันพร้อมกับเปล่งเสียงออกมาในเวลาเดียวกัน
"คุณทสึรุมารุครับ!"
"อิจิโกะ!"
ต่างฝ่ายต่างหยุดชะงัก มองไปในดวงตาของกันและกัน
"เชิญคุณทสึรุมารุก่อนครับ ..."
"อะ ... อือ"
ชายหนุ่มผมขาวและชุดสีขาวทั้งตัวตลอดจ้องลึกไปในแววตาของอีกฝ่าย
"อิจิโกะ ... นายเอาจริงแน่นะ"
"... ครับ ..."
เสียงตอบของชายหนุ่มหนักแน่น แม้ว่าดวงตาจะสะท้อนความกังวลเอาไว้มากมาย
ทสึรุมารุได้แต่ถอนหายใจออกมา
"คุณทสึรุมารุครับ ... ผมขอร้องอะไรอย่างนึงได้ไหมครับ?"
"หือ ได้สิ"
อิจิโกะก้มหน้า กลอกตามองซ้ายขวาด้วยความลังเล แต่สุดท้ายก็หันมาประสานสายตา
"... ผมจะเล่นหนังให้คุณ แต่ผมขอเอาแต่ใจอีกสักอย่างนะครับ ..."
แม้ท่าทางที่พูดจะหนักแน่น แต่น้ำเสียงกลับสั่นไหว
"... ขอให้คนที่ผมจะเล่นด้วย ... เป็นคุณทสึรุมารุได้ไหมครับ?"
ดวงตาของทสึรุมารุเบิกขึ้นด้วยว่าไม่คาดคิดถึงสิ่งที่อิจิโกะจะพูดออกมา แล้วเขากลับหัวเราะหึเบาๆ ออกมาทางจมูกราวกับระอาและโล่งใจ
"ชั้นเอง ... ก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน"
ถัดจากนั้นราวหนึ่งสัปดาห์ ...
ในวันเสาร์ที่อิจิโกะไม่มีเรียนและไม่มีงานพิเศษ เขาเดินทางมายังอาคารที่ภายนอกดูปกติดีทุกอย่าง ตามแผนที่ที่ทสึรุมารุเป็นคนให้
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็มีคนมาต้อนรับอิจิโกะอย่างดี ก่อนจะพาเข้าไปนั่งพักในห้อง ยกน้ำมาเสิร์ฟให้ และช่างแต่งหน้าทำผมต่างก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์ของตนเอง
เสียงเคาะประตูดังขึ้น และประตูก็ถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ
ขายที่ปรากฏกายคือชายหนุ่มในชุดสีขาวคนเดิม
ทสึรุมารุเดินตรงดิ่งมาที่คู่แสดงคนสำคัญของเขาในวันนี้
"ว่าไง ไม่เป็นไรนะ อิจิโกะ?"
"ครับ แค่ตื่นเต้นนิดหน่อย"
ทสึรุมารุยิ้มราวกับอ่อนใจในความซื่อตรงของชายตรงหน้า
ไม่ทันไร เสียงแซวจากช่างแต่งหน้าสาวที่นั่งอยู่ถัดไปก็ดังขึ้น
"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฝากให้คุณทสึรุมารุจัดการ เดี๋ยวจะลืมตื่นเต้นไปเลย"
คำแซวยิ่งทำให้อิจิโกะตื่นเต้นจนตัวเกร็งเข้าไปใหญ่ ทำให้ทสึรุมารุต้องส่งเสียงเอ็ด
"พอเลยๆ ... วันนี้แต่งหน้าไม่ต้องมากนะ อิจิโกะไม่มีประสบการณ์อยู่แล้ว จะถ่ายในคอนเซปท์ครั้งแรกของเด็กมหาวิทยาลัย แต่งหน้าแต่งตัวแบบธรรมชาติๆ น่าจะดีที่สุด"
สต๊าฟสาวที่รับผิดชอบเรื่องแต่งหน้ากับทำผมก็ส่งเสียงตอบสดใส
"รับทราบค่า"
อาวาตะกุจิ อิจิโกะเดินออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกกางเกงสีน้ำเงินเข้มดูสุภาพ ผูกเนคไทสีเดียวกับกางเกง
ห้องทั้งห้องเปิดไฟจนสว่างจ้า พร้อมทั้งมีสป๊อตไลท์หลายตัวส่องไปยังเตียงใหญ่สีขาวสะอาดที่ตั้งอยู่กลางห้อง
สต๊าฟชายหญิงหลายคนยืนอยู่รอบเตียงแม้จะทิ้งระยะห่างเอาไว้ประมาณหนึ่ง
ทางด้านปลายเตียงมีกล้องวีดีโอตั้งตระหง่านดั่งหอคอยสีดำอยู่อีก 3 ตัว
ถึงจะทำใจไว้แล้ว แต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้เจ้าตัวขาสั่น หมดเรี่ยวแรงขึ้นมา
สต๊าฟผู้หญิงคนหนึ่งจึงเดินมาหา แล้วนำทางพาอิจิโกะเดินไปถึงเตียงนอน
"เป็นอะไรไหมคะ คุณอาวาตะกุจิ?"
ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มทำใจดีสู้เสือและสู้กล้องไว้ก่อน
"มะ... ไม่เป็นไรครับ"
"ถ้ารู้สึกไม่ไหวรีบบอกได้เลยนะคะ คุณทสึรุมารุกำชับไว้หนักแน่นมากเลยค่ะว่าให้ดูแลคุณอาวาตะกุจิให้ดี"
อิจิโกะยิ้มเป็นธรรมชาติขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
พอเจ้าตัวลงนั่งกลางเตียงนอน ชายคนที่ถูกกล่าวถึงก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
"คุณทสึรุมารุมาแล้ว งั้นเราถ่ายกันเลยนะ!"
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างกล้องตัวกลางส่งเสียงขึ้น ทสึรุมารุเดินเข้ามานั่งบนเตียงแล้วถามคำถามเดิมอีกครั้ง
"นายเอาจริงนะ?"
แววตาสีทองสั่นระริก แต่เขาก็พยักหน้าตอบรับ
"ครับ"
ผู้กำกับส่งสัญญาณให้เริ่มถ่ายได้ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
ทสึรุมารุเริ่มคลานขึ้นบนเตียงเข้าหาอีกฝ่าย
แม้คู่แสดงจะเป็นคนที่ตัวเองรู้จักคุ้นเคย แต่อิจิโกะก็ยังหวาดเสียจนห่อตัวและทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้
ดวงตาทั้งสองของเขาสะท้อนความหวาดหวั่นออกมาเสียจนภาพทสึรุมารุในนั้นดูน่ากลัว
"ชั้นไม่อยากให้นายมองชั้นด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะ"
อิจิโกะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าไปมา
"คือ ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้ ..."
ทสึรุมารุยกสองมือขึ้นมา อิจิโกะสะดุ้งอีกครั้งและยิ่งห่อร่างตัวเองให้เล็กลงใหญ่
แต่ทสึรุมารุกลับคว้าเอาร่างนั้นเข้ามากอดแน่นในอ้อมแขน
ความอบอุ่นและกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเครื่องหอมแบบญี่ปุ่นบนเสื้อผ้าของชายหนุ่มทำให้ชายผู้ไม่ประสีประสาเรื่องแบบนี้รู้สึกผ่อนคลาย
"ไม่เป็นไรนะ อิจิโกะ ..."
ฝ่ามือนั้นลูบหลังของอิจิโกะอย่างนุ่มนวลครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้นทีละนิด
"ครับ... คุณทสึรุมารุ..."
ดาราหน้าใหม่ยกแขนขึ้นกอดตอบ แล้วปล่อยให้หยดน้ำตาแห่งความกดดันหนึ่งหยดร่วงหล่นลงมา
เมื่อสีหน้าของอิจิโกะดูดีขึ้น ทสึรุมารุจึงโน้มตัวลงกดให้ชายหนุ่มล้มลงบนเตียงนอน
ร่างกายของทั้งสองคนก็หล่นลงบนเตียงนุ่มจนเกิดเสียงเอี๊ยดเบาๆ
ทสึรุมารุก้มลงจูบหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
สัมผัสอบอุ่นจากชายที่ไว้ใจทำให้อิจิโกะกอดเจ้าของจูบให้แน่นขึ้นอีกนิด
ทสึรุมารุพร่างพรมจูบที่แสนอ่อนโยนจากหน้าผาก ไล่งมายังเปลือกตา ปลายจมูก เนินแก้ม ริมฝีปาก มาจรดถึงคาง แล้วจูบจากลำคอลงไป เจ้าตัวออกแรงดูดจนเกิดรอยแดงขึ้นราวกับจะประทับตรา
อิจิโกะส่งเสียงออกมาเพียงเบาๆ โดยที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด หรือความรู้สึกอย่างอื่น
เมื่อร่างกายนั้นถูกบดจูบจากริมฝีปากของชายคนนั้นอีกครั้ง อิจิโกะก็ยิ่งเผลอส่งเสียงออกมา
"อ๊ะ อือ ... คุณทสึรุมารุ ..."
แต่ตอนนั้นเองที่ดาราหน้าใหม่เหลือบไปเห็นกล้องวีดีโอสีดำเคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าของเขา ชายหนุ่มก็เปลี่ยนสีหน้า เกร็งตัวแข็งในทันที
ทสึรุมารุเห็นเสียงที่ควรจะดังขึ้นกลับเงียบหายไปพร้อมกับร่างของคู่ขาที่แข็งตัวขึ้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นมอง
ดวงตาสีอำพันคู่ที่มองเขากลับมามีหยาดน้ำสั่นระริกอยู่ภายใน คิ้วทั้งสองย่นยู่เข้าหากัน พร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น
ทสึรุมารุจึงขยับตัวเข้าหาใบหน้านั้นอีกครั้ง จูบหน้าฝากอีกครั้ง โดยหวังว่าจะช่วยบรรเทาความหวาดกลัวภายในของอีกฝ่ายได้ ก่อนจะจูบซับน้ำตาให้กับร่างที่สั่นเทา
"อิจิโกะ ... ไม่เป็นไรนะ"
"คะ ... ครับ"
เสียงตอบนั้นดูอ่อนแรงและหวั่นไหว
"อิจิโกะ ... นายไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น นายมองแต่ชั้น คิดถึงแต่ชั้นก็พอ"
"คุณทสึรุมารุ ..."
แววตาสีทองเปิดขึ้นประสานกัน
อิจิโกะค่อยผ่อนคลายอีกครั้งเมื่อในตาของตัวเองมีภาพชายที่ไว้ใจสะท้อนอยู่
"ครับ"
คำพูดของชายคนนี้ทำให้อิจิโกะรู้สึกสบายใจอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกไม่เข้าท่าที่เขาชอบปล่อย
หรือคำปลอบใจเวลาที่ตนเองมีปัญหา
หรือแม้แต่คำพูดอ่อนโยนพร้อมกับดวงตาที่อบอุ่นในเวลาแบบนี้
ทสึรุมารุยิ้มให้กับคนตรงหน้า
"ชั้นรักนาย ... อิจิโกะ"
...<เดี๋ยวมาอัพฉากทีหลัง>...
หลังจากนั้นเกือบหนึ่งเดือน ชีวิตของอาวาตะกุของ อิจิโกะ ก็กลับเป็นปกติ
สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ชายคนที่มาดักรอเขาหน้ามหาวิทยาลัยทุกวันๆ กลับมาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
เจ้าตัวได้บอกกับเขาว่างานยุ่งกับการตัดต่อวีดีโอเตรียมทำแผ่นขาย
ซึ่งมันก็คือวีดีโอฉากรักของเขานั่นเอง
อิจิโกะรู้สึกเกิดสับสนขึ้นในใจ
หากว่าทสึรุมารุต้องการเพียงแค่ถ่ายวีดีโอเรื่องแบบนั้นกับเขา บางทีทสึรุมารุอาจจะไม่มาหาเขาอีกก็ได้
ในใจนั้นทั้งรู้สึกเหมือนมีรูโหว่เกิดขึ้น แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การไม่ได้พบกันอีก น่าจะทำให้ความรู้สึกของเขาเจ็บปวดน้อยกว่า
ชายหนุ่มมองนามบัตรของอีกฝ่ายในมือ
หากอยากจะรู้ ก็สามารถโทรไปได้ทุกเมื่อ
หากเป็นอาวาตะกุขอ อิจิโกะคนเดิมเมื่อตอนพึ่งเจอกับชายคนนั้น เขาคงโทรไปหาได้โดยไม่ลังเล
แต่สำหรับอิจิโกะตอนนี้ ที่เลือกทสึรุมารุเป็นผู้สัมผัสทุกซอกมุมของร่างกาย ความกล้าของอิจิโกะกลับเลือนหายไปเสียหมด
ระหว่างที่ถ่ายทำ "คำนั้น" ถูกบอกออกมาไม่รู้กี่ครั้ง
และทุกครั้งที่ตอบ "คำนั้น" ล้วนแล้วแต่เป็นความจริงใจของอิจิโกะทั้งหมด
ทว่าอิจิโกะไม่อาจรู้ได้เลยว่า "คำนั้น" เป็นความจริงใจของอีกฝ่ายด้วยหรือไม่
ชายหนุ่มเก็บนามบัตรลงกระเป๋าแล้วลุกออกจากร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย
เมื่อออกมาด้านหน้า เขาก็เผลอมองหาร่างสีขาวที่ตัวเองคุ้นเคย หวังเพียงจะได้พบกันอีก แต่พอไม่เห็นคนที่ตัวเองเฝ้ารอ อิจิโกะก็ก้มหน้าลงถอนหายใจ
"อาวาตะกุจิคุง ..."
อิจิโกะมัวแต่คิดถึงชายอีกคนเสียจนไม่ทันสังเกตว่ามีชายวัยกลางคนแต่งตัวสุภาพเหมือนพนักงานบริษัทเดินเข้ามาหา
"ครับ? อ๊ะ ... คุณคือ"
ใบหน้าของชายที่หยุดยืนตรงหน้านั้นคุ้นแสนคุ้น จนอิจิโกะทำหน้าแดงเลิ่กลั่กขึ้นมา
"ครับ จากบริษัทคุณทสึรุมารุไงครับ พอดีมีเรื่องเกี่ยวกับหนังของอาวาตะกุจิคุงหน่อย เลยอยากจะเชิญไปที่บริษัท ..."
พอคำว่าหนังถูกเอ่ยขึ้น นักเรียนมหาลัยก็สะดุ้งเฮือก
หากใครรู้เข้า ชีวิตของเขาต้องกลับตาลปัตรยุ่งเหยิงมากกว่านี้แน่ๆ
"ครับๆ ไปกันเลยดีกว่าครับ"
ชายคนที่นำทางขึ้นนั่งที่ที่นั่งคนขับ แล้วออกรถมุ่งหน้าไปยังบริษัท
ระหว่างทาง อิจิโกะก็ถามถึงเหตุผล
"มีอะไรหรือครับ"
"คือว่า บริษัทของเราตัดสินใจที่จะไม่ขายวีดีโอของคุณครับ"
คำตอบทำให้ชายหนุ่มตกใจจนตัวลอย
"เอ๋!! ทำไมล่ะครับ!?"
ชายคนเดิมเล่าต่อโดยที่อิจิโกะไม่อาจเห็นสีหน้าของเขาได้
"เรื่องนั้นเดี๋ยวไปคุยที่บริษัทละกันครับ มันเป็นการตัดสินใจของเราเอง คิดว่าทางบริษัทคงจะมีค่าชดเชยให้ล่ะมั้งครับ"
"ค่าชดเชย ..."
ชายหนุ่มทวนคำด้วยความไม่สบายใจ
เขาอุตสาห์ยอมข่มความอายทำเรื่องแบบนั้น ถ้าหากมันจะถูกล้มเลิกไป แล้วเขาจะทำอย่างไร?
รถคันงามจอดอยู่หน้าอาคารเดิมที่อิจิโกะเคยมาแล้ว
เขาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึก หญิงสาวคนนึงเข้ามาต้อนรับแล้วนำเขาไปพักยังห้องรับแขกพิเศษที่อยู่บนชั้นบนสุดของตึกห้าชั้น กาแฟดำถูกยกมาเสิร์ฟ แต่อิจิโกะไม่มีแก่ใจจะดื่มอะไรอีกแล้ว
หญิงสาวคนนั้นขอตัวออกไปจากห้อง ทิ้งให้ชายหนุ่มอยู่กับความเงียบและความกังวลแต่เพียงลำพัง
ในหัวของเขากำลังคิดหาทางต่อรองกับสถานการณ์นี้ให้ดีทึ่สุด
ไม่นานนัก ประตูก็ถูกเปิดออก อิจิโกะดีดตัวจากโซฟานุ่ม ส่งเสียงทักทายดังพร้อมกับก้มหัว
"สะ สวัสดีครับ ขอบคุณนะครับที่เชิญมาวันนี้ แต่เรื่องยกเลิกการจำหน่ายแผ่น ... ของ ... ผม ..."
แต่เมื่ออิจิโกะค่อยเงยหน้าขึ้นมา กับพบชายที่ตัวเองคุ้นเคยในชุดสูทสีขาวเดินตรงเข้ามาหา
"ว่าไง อิจิโกะ"
"คุณทสึรุมารุ!?"
ชายหนุ่มที่วันนี้แต่งตัวสุภาพดูดีนั่งลงข้างๆ อิจิโกะโดยไม่ลังเล แถมยังดึงแขนเขาเป็นสัญญาณให้นั่งลงเช่นกัน
อิจิโกะที่สับสนกับสถานการณ์ที่ไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้เลยก็ได้แต่นั่งลงอย่างงงๆ
"นี่มันยังไงกันครับ? คุณทสึรุมารุ?" ทำไม?"
"อ้าว คนที่ชั้นให้ไปรับนายไม่ได้บอกเหรอ ว่าวันนี้ชั้นเรียกนายมาทำไม?"
คราวนี้อิจิโกะทำหน้าเหวอเข้าไปอีก
"คุณ? เรียกผม?"
ทสึรุมารุแยกเขี้ยวยิ้มออกมาพร้อมกับส่งกระดาษใบเล็กให้กับอิจิโกะ
เมื่อมองไปก็เห็นชื่อบนบัตรนั้นเขียนว่า ทสึรุมารุ คุนินางะ เช่นกัน
แต่ตัวหนังสือที่ตามมาไม่ได้เขียนเรื่อง GV อะไร กลับเขียนไว้ว่า "ประธานบริษัท โกะโจ เอนเตอร์เทนเมนท์"
"เดี๋ยวสิครับ!? นี่มันหมายความว่ายังไง?"
"ก็หมายความว่าท่านประธานทสึรุมารุเรียกนายมาคุยเรื่องแผ่นของเราไง"
อิจิโกะหัวหมุนไปหมดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
แม้จะเตรียมใจว่าอาจจะต้องต่อรองเรื่องค่าชดเชยต่าง แต่เขาไม่ได้เตรียมใจจะมาตามหาความจริงของท่านประธาน หรือพระเอกหนังคู่กับเขา
"ละ แล้ว นามบัตรใบนั้น?"
ทสึรุมารุทำท่านึกเพียงนิด แล้วยักไหล่
"บริษัท 801 วีดีโอเป็นบริษัทลูกในเครือ แล้วก็อย่างที่บอกไง ... งานอดิเรก"
คำตอบที่ยียวนตามปกติทำให้อิจิโกะถึงกับอ้าปากค้าง
"เอาล่ะ มาพูดเรื่องของเรากันดีกว่า"
ท่านประธานยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส แถมพูดออกมาหน้าตาเฉยอีกว่า
"ตกลงว่าชั้นจะยกเลิกการวางจำหน่ายหนังของนาย"
"ทะ ... ทำไมล่ะครับ"
ร่างสีขาวขยับใกล้ขายหนุ่มขึ้นอีก แล้วโน้มใบหน้าเข้าหา
"พูดแล้วจะหาว่าคุย แต่เมื่อก่อนชั้นก็เคยออกแผ่นหนังมาก่อน ประสบความสำเร็จเปรี้ยงปร้างเลยแหละ ชั้นถึงได้มาเริ่มธุรกิจนี้"
แม้เรื่องที่พูดจะฟังแอบกวนเล็กน้อย แต่ตอนนี้น้ำเสียงและสายตาของท่านประธานหนุ่มกลับดูจริงจังเสียจนอิจิโกะไม่อาจละสายตาไปได้
"เพราะฉะนั้น หนังเรื่องที่ถ่ายกับนายน่ะ ถ้าปล่อยออกไป มันต้องดังซะยิ่งกว่าพลุแตกแน่นอน"
"ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมถึง ..."
ทสึรุมารุมองเข้าไปในตาของคนซื่อตรงหน้า ยกมือขึ้นจับคางที่อยู่ใกล้เชิดขึ้น
"หลังจากที่ชั้นเครียดอยู่เกือบเดือนนี่ สุดท้ายชั้นก็ได้คำตอบแล้ววว่า ... ถึงมันจะกลายเป็นตำนาน จะขายดีขนาดไหน ... แต่ชั้นก็ไม่อยากให้ใครเห็นนายแบบนั้น"
แต่ขายที่ฟังอยู่กลับส่งเสียงดังขึ้นอีก
"หมายความว่าไงครับ? คุณจะสงสารผมอีกหรือครับ? ที่ผมยอมทำเรื่องแบบนั้นก็เพราะผมไม่อาจทนรบกวนคุณทสึรุมารุ ต้องติดหนี้คุณทสึรุมารุมากไปกว่านี้แล้ว แต่คุณก็ยังจะ ..."
"นี่นายไม่เข้าใจที่ชั้นพูดเลยเหรอ?"
ทสึรุมารุยักไหล่ บ่นออกมาทั้งที่ระอาใจและรู้สึกสนุกปนไปพร้อมกัน
"แล้วมันหมายความว่าอย่างไรล่ะครับ?"
"ก็หมายความแบบนี้ไง"
นิ้วโปงที่อยู่ใต้คางใช้ดันให้ใบหน้าของอิจิโกะเชิดขึ้นจนริมฝีปากบางของเจ้าตัวขยับเผยอยื่นอกมา ริมฝีปากของทสึรุมารุก็เข้าประกบจูบ แล้วแทรกลิ้นเข้าไปทันที
เจ้าลิ้นซุกซนนั้นเข้าเกี่ยวรัดกับลิ้นของอีกฝ่าย เรียกเสียงครางหวานออกมาพร้อมกับดูดเอาเรี่ยวแรงของชายอีกคนไปจนหมด
เพียงทสึรุมารุเบียดตัวเข้าหา ร่างกายของอิจิโกะก็เอนลงกับโซฟาจนศีรษะของเขาไปวางพาดอยู่กับที่เท้าแขน
เมื่อริมฝีปากทั้งสองคลายออก ดวงตาทั้งสองของอิจิโกะก็หยาดเยิ้มไม่แพ้เสียงที่เขาปล่อยออกมาเมือครู่
"... ใครจะอยากให้คนทั่วประเทศเห็นใบหน้าน่ารักๆ แบบนี้ของคนที่ตัวเองชอบกันเล่า ..."
ทสึรุมารุเฉลยปริศนาออกมาด้วยคำตอบที่ทำให้อิจิโกะตกใจ แต่เขาไม่ได้เว้นช่องว่างให้อีกฝ่ายมีเวลาคิด แล้วบดจูบลงอย่างดูดดื่มจนฝ่ายที่รับจูบได้แต่ส่งเสียงในลำคอพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบรอบคอคนจูบอย่างลืมตัว
ทสึรุมารุไม่ยอมปล่อยริมฝีปากนั้นง่ายๆ จนอิจิโกะหายใจไม่ทัน เขาถึงยอมปลดปล่อยอีกฝ่ายออกเป็นอิสระ
ชายหนุ่มนอนหายใจหอบอยู่บนโซฟา ส่งสายตาที่เปื้อนความรุ่มร้อนและความสงสัยอยู่ภายใน
"คะ ... คุณทสึรุมารุ ..."
"เพราะงี้แหละ ชั้นจะเก็บไว้ดูคนเดียว"
ท่านประธานพูดเหมือนติดตลก แล้วใช้นิ้วชี้ปาดหยดน้ำที่เยิ้มออกมาจากริมฝีปากของชายที่อยู่เบื้องล่าง
"แค่คิดว่าเผลอให้ทีมงานทั้งหมดนั่นเห็นสีหน้าของนายตอนที่ยอมมอบทุกอย่างให้ชั้น แค่นั้นชั้นก็หงุดหงิดตัวเองแล้วที่ตัดสินใจผิดไป"
อิจิโกะยังสับสนเหมือนเรียบเรียงเรื่องราวไม่ถูก ทสึรุมารุจึงขยับขึ้นคร่อมด้านบนเต็มตัวพร้อมกับหัวเราะอย่างเอ็นดู
"นายนี่ใสซื่อจริงๆ เลยนะ แต่เอาเถอะ เพราะเป็นแบบนั้นน่ะแหละ นายถึงน่ารักเป็นที่สุด"
เขาก้มลงจูบหน้าผากของอีกฝ่ายเบาๆ เหมือนที่เคยทำมาแล้วหลายครั้ง
"ก็หมายความว่า ขอโทษนะที่ชั้นจ่ายค่าตัวสำหรับหนังโป๊ให้นายไม่ได้แล้ว"
"คุณ!!"
พอได้ยินแบบนั้น อิจิโกะก็ทำท่าจะอาละวาดทันที
"ฟังให้จบก่อนสิ เจ้าหนูนี่ใจร้อนชะมัด"
"ไม่ให้ใจร้อนได้ยังไงครับ!? ผมอุตสาห์ยอมถึงขนาดนั้น!?"
อิจิโกะยกมือขึ้นผลักชายที่อยู่เหนือร่างตัวเอง ทสึรึมารุเลยโน้มตัวลงให้ใกล้ขึ้นกว่าเดิม
"ถ้านายไม่ฟังดีๆ จะจูบจนนายหมดแรงอีกรอบเลยนะ"
คนฟังหน้าแดงร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยอมนิ่งเงียบแต่โดยดี
"ชั้นจ่ายค่าแสดงหนังให้นายไม่ได้แล้ว เพราะเราจะไม่ทำหนังของนายขายแล้ว แต่ชั้นจะจ่ายค่าชดเชยให้แทนละกัน"
"ค่าชดเชย ... หรือครับ?"
ชายหนุ่มทวนคำช้าๆ ทั้งที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด
"ใช่ แล้วชั้นจะขอทำสัญญาจ้างใหม่ด้วย"
ยิ่งทีอิจิโกะก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ชายผู้คุมเกมเอาไว้หมดยิ่งขยับยิ้มกว้าง
"ค่าชดเชยที่ชั้นผิดสัญญา คือ ค่ารักษาพยาบาลน้องของนาย ส่วนสัญญาจ้างใหม่ก็คือ ..."
เจ้าตัวยักไหล่ทีนึง มองจับจ้องไปในดวงตาของอิจิโกะ
"ชั้นจะว่าจ้างนายมาแสดงฉากรักกับชั้นสองต่อสองตลอดชีวิต ส่วนค่าจ้างคือความรักและชีวิตของชั้น แบบนี้นายว่าไง?"
อิจิโกะเบิกตาขึ้นกว้าง มองหน้าชายตรงหน้าเขม็ง ก่อนภาพนั้นจะเริ่มพร่าเลือนจากน้ำตา
"คุณ ... ทสึรุมารุ"
"ชั้นว่ามันเป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลยนะ อิจิโกะ"
ชายหนุ่มก้มลงจูบซับน้ำตา
"ว่าไง? นายจะรับรักชั้นไหม?"
"คุณทสึรุมารุครับ!"
อิจิโกะโผเข้ากอดชายตรงหน้า แล้วปล่อยให้น้ำตาพรั่งพรูออกมา
"ขอบคุณครับ ... ถ้าหากไม่รังเกียจคนอย่างผมล่ะก็ ..."
ทสึรุมารุรีบสอดมือเข้าไปใต้แผ่นหลังของอีกฝ่าย กอดตอบเอาไว้แนบแน่น
"ใครจะรังเกียจนายกันเล่า นายสิรู้สึกยังไงกับชั้น ชั้นอยากได้ยินจากปากของนายนะ"
พูดแล้วทสึรุมารุก็ขบใบหูของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพอดี
"แบบที่ไม่ใช่พูดตอบรับระหว่างถ่ายหนังแบบนั้นน่ะ"
อิจิโกะหวนนึกถึงระหว่างถ่ายทำที่ทสึรุมารุกล่าวคำรักกับเขามากมายไม่รู้กี่ครั้ง
แต่พอถ่ายเสร็จ อิจิโกะยังคงสงสัยว่าคำเหล่านั้นเป็นความจริงหรือไม่
ทสึรุมารุเองก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน เมื่อระหว่างที่ทสึรุมารุกระซิบบอกรักเขาพร้อมกับทำหน้าที่ดาราหน้ากล้อง อิจิโกะก็ตอบเขาด้วยคำหวานไม่หยุดปาก
ชายหนุ่มใจเต้นพอคิดว่าจะต้องพูดคำนั้นออกมา แต่คำๆ นั้นก็เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเขา ที่เขาไม่เคยได้บอกใครออกไป
"คุณทสึรุมารุครับ ... ผมก็ ... รักคุณครับ"
ตัวของอิจิโกะสั่นด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นออกมา
"คุณทำดีกับผมมาตลอด จนวันนึงผมรู้สึกว่าถ้าจะต้องทำเรื่องแบบนั้นล่ะก็ หากเป็นคุณทสึรุมารุ ผมก็ยินดี ... ผมถึงได้รู้ตัวว่าผมหลงรักคุณเข้าแล้ว"
ทสึรุมารุกอดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น หวังให้อ้อมแขนของตนเองช่วยปลอบขวัญเขาได้
"แต่ผมก็ไม่กล้าบอก เพราะผมกลัวว่าคุณจะคิดกับผมเพียงแค่เป็นคนที่คุณอยากได้มาถ่ายหนังเท่านั้น ..."
อิจิโกะพูดแล้วก็สะอื้นต่อ มือที่วางอยู่บนแผ่นหลังจึงลูบไล้ไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายอุ่นใจขึ้น ทสึรุมารุขยับมาจูบซับน้ำตาให้อิจิโกะซ้ำแล้วซ้ำอีก
"ไม่ต้องร้องแล้วนะ อิจิโกะ"
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ ทำให้หยาดน้ำตาค่อยๆ แห้งเหือดไป กลายเป็นรอยยิ้มบางประดับบนใบหน้าของอิจิโกะแทน
"ชั้นเองก็ตอนแรกเห็นนายในเมือง ก็คิดแค่ว่านายดูสวย น่ารัก อยากได้มาเป็นดาราในสังกัดของชั้น แต่พอได้รู้จักนาย ถึงได้รู้ว่านายไม่ได้แค่น่ารักแค่หน้าตาเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่เข้าใจความหมายของความรักและความผูกพันธ์ นายน่ะดูมีเสน่ห์มาก"
ดวงตาสีอำพันส่องเข้าไปในดวงตาสีเดียวกันของอีกฝ่าย สีหน้าของทสึรุมารุก็ดูจริงจังขึ้น
"มากเสียจน ... ชั้นอยากได้มากกว่าร่างกายของนาย ... ชั้นอยากได้ความรักแบบนั้นจากนายบ้าง"
"คุณทสึรุมารุ ..."
แววตาของชายหนุ่มจริงจัง แต่น้ำเสียงและรอยยิ้มกลับอ่อนโยน
"แล้วชั้นก็รู้ว่า ถ้าอยากได้ร่างกายของนาย อยากได้ชีวิต อยากได้ความรักจากนาย เงินของชั้นมันทำอะไรไม่ได้เลย ... ชั้นถึงต้องใช้ความรักของชั้นเท่านั้น"
ทสึรุมารุยักไหล่อีกครั้ง แต่คราวนี้กลับมีทั้งความรัก ความโหยหา และความกังวลอยู่บนสีหน้า
"นายจะยอมทำสัญญานี้กับชั้นไหม?"
"คุณทสึรุมารุครับ"
ทสึรุมารุส่งยิ้มให้ทั้งที่หว่างคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างที่อิจิโกะไม่เคยเห็นมาก่อน
คราวนี้อิจิโกะจึงออกแรงดึงร่างที่อยู่ด้านบนของตัวเองให้โน้มลงมา แล้วเป็นฝ่ายประทับริมฝีปากเข้ากับอีกฝ่าย
ทสึรุมารุตกใจจนสะดุ้ง แต่วินาทีถัดมาก็โอนอ่อนร่วมจูบกับชายอันเป็นที่รัก
เมื่อริมฝีปากบางขยับเปลี่ยนมุม ทสึรุมารุก็ได้โอกาศสอดลิ้นเข้าไปภายใน ระหว่างที่เขารัดรึงอีกฝ่าย อิจิโกะก็ออกแรงดูดตอดลิ้นที่รุกรานเข้ามา
จูบที่เร่าร้อนทำให้พระเอกหนังรักถูกปลุกเร้า เขากดร่างของเจ้าของจูบอันเย้ายวนลงกับโซฟาตัวนุ่มจนยวบลงไป
ริมฝีปากของทั้งสองแยกออกจากกันเพียงเล็กน้อย อิจิโกะก็พูดปนลมหายใจหอบ
"นี่คือคำตอบของผมครับ ..."
"อิจิโกะ ..."
แล้วริมฝีปากของทั้งสองต่างประกบเข้าหากัน กวาดเลีย ดูดรัด ลิ้มรส ตักตวงเอาความรักและปรารถนาของกันและกันไม่หยุดหย่อน
"อิจิโกะ"
ลมหายใจของทั้งคู่ปั่นป่วน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจหยุดความปรารถนาในกันและกันได้
มือของทสึรุมารุล้วงสอดเข้าไปใต้เสื้อขออิจิโกะ พร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงขอร้อง
"ได้มั้ย? อิจิโกะ"
ชายที่นอนอยู่บนโซฟายิ้มให้และพยักหน้าเบาๆ เรียกรอยยิ้มจากอีกฝ่ายให้เบ่งบานออกมา
"ต่อจากนี้ไป ชั้นจะไม่ชวนนายมาถ่ายหนังอีกแล้ว แต่ชั้นจะชวนนายมาเป็นคู่รักของชั้นบนเตียงนอนของชั้นคนเดียว"
ชายหนุ่มพูดติดตลกตามนิสัย แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่า
"งั้นผมก็รอค่าจ้างอยู่นะครับ หวังว่าคุณจะจ่ายหนักๆ เลยนะครับ"
ทสึรุมารุฟังคำตอบแล้วก็หัวเราะออกมา
"ได้เลย งั้นชั้นจะจ่ายโบนัสก้อนใหญ่ทุกวัน เอาให้นายรวยความรักของชั้นไปเลย"
ทั้งสองคนส่งเสียงหัวเราะให้กัน ก่อนที่ทสึรุมารุจะก้มลงพรมจูบให้อีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเบื่อ
ริมฝีปากนั้นสร้างรอยแดงขึ้นจากลำคอลงไป ขณะที่มือทั้งสองกำลังปลดกระดุมเสื้อเพื่อให้ประทับรอยได้ถนัดยิ่งขึ้น
อิจิโกะส่งเสียงเบาๆ เมื่อมีเครื่องหมายแห่งรักเกิดขึ้นบนกาย
เขาลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ที่ไม่มีใครนอกจากเขาทั้งสองคนเท่านั้น
แล้วอิจิโกะก็ยิ้มออกมาเงียบๆ คนเดียว ก่อนจะอ้าปากส่งเสียงหวานออกมาอย่างชัดเจน
น่ารักจังเลยค่ะ ฮืออออ อิจินี่น่ารักกกก สึรุก็กวนๆแต่รอบนี้ดูหล่อ ฮ่าาาา /////////////////
ReplyDeleteนานๆ ทีจะได้เขียนทสึรุหล่อๆ ค่ะ ฮาาา
Deleteปกติมีแต่เพี้ยนๆ XDDD
ชอบตอนนี้มากเลยค่ะ น่ารักแบบฮาๆ? เอาเป้นว่าชอบมากค่ะ เขียนดีมากเลย ><
ReplyDelete